เพื่อรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ FED จึงประกาศขึ้นดอกเบี้ยซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รวมถึงการลงทุนในหลายมิติ และทำให้นักลงทุนจำเป็นต้องวางแผนให้เหมาะสม
ที่ผ่านมา FED ได้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและการลงทุนอย่างแน่นอน ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจต่อการลงทุน วันนี้เราจะพาเหล่านักลงทุนไปดูกันว่า เมื่อ FED ขึ้นดอกเบี้ยแล้วจะมีผลกระทบในด้านใดบ้าง และมีใครที่จะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์เช่นนี้ ไปหาคำตอบกัน
Federal Reserve หรือ FED หมายถึงธนาคารกลางของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารที่มีบทบาทสำคัญในการควบคุม และจัดการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยมีหน้าที่หลักในการกำหนด และดำเนินนโยบายเกี่ยวกับการเงินของประเทศ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินเอาไว้ โดยหนึ่งในสิ่งที่ FED จะต้องรับมือก็คือ การหาแนวทางป้องกันและแก้ไขในเรื่องของภาวะเงินฝืดและภาวะเงินเฟ้อ ที่กำลังเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอย่างในปัจจุบัน
หากจะยกตัวอย่างข้อกำหนด และนโยบายที่ FED ได้ประกาศใช้เพื่อรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจ ก็คงหนีไม่พ้นปัญหาภาวะเงินเฟ้อ โดยมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสินเชื่อ และการกู้ยืมต่าง ๆ ขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการขึ้นดอกเบี้ยนั้นย่อมส่งผลต่อธุรกิจมากมาย
เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นรุนแรง และไม่สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ทำให้ตั้งแต่ปี 2022 จนถึงปี 2023 ทาง FED ได้มีการขึ้นดอกเบี้ยมาแล้วกว่า 10 ครั้งด้วยกัน และมีอาจแนวโน้มว่าดอกเบี้ยจะสูงขึ้นอีก หรืออาจคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีแนวโน้มในการปรับอัตราดอกเบี้ยลงในเร็ว ๆ นี้แน่นอน รวมถึงยังจะคงอัตราดอกเบี้ยที่สูงเช่นนี้ไว้อย่างน้อยจนถึงปีหน้า
ซึ่งการที่ FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องนั้น ทำให้ส่งผลกระทบในเชิงลบกับตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหุ้น S&P 500, Dow Jones และ Nasdaq รวมถึงหุ้นในตลาดเอเชียก็เช่นกัน เพราะเมื่อตลาดหุ้นจากประเทศศูนย์กลางทางเศรษฐกิจอย่างสหรัฐอเมริกาขาดเสถียรภาพ ก็ย่อมทำให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นอื่น ๆ ทั่วโลกได้รับผลกระทบเชิงลบไปด้วยเช่นกัน
การที่ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาปรับขึ้นดอกเบี้ย ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผลกระทบในเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้อีกด้วย
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน แต่ถ้าหากพูดถึงเรื่องการลงทุนแล้ว การที่ FED ปรับขึ้นดอกเบี้ย ก็อาจส่งผลกระทบการลงทุนในเรื่องต่อไปนี้
ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะสั้น และไม่สามารถรับความผันผวนระยะสั้นได้ อาจทยอยขายหุ้นที่ถืออยู่บางส่วนเมื่อมีโอกาส แต่ข้อแนะนำก็คือ ให้ขายในจังหวะที่ตลาดเด้งระยะสั้น หรือจังหวะที่หุ้นมีราคาสูงสั้น ๆ
ผู้ที่ต้องการลงทุนระยะยาว และสามารถยอมรับความผันผวนในระยะสั้นได้ สามารถที่จะถือหุ้นที่มีต่อไปก่อน หรืออาจขายหุ้นบางส่วนแล้วเลือกถือหุ้นที่มีคุณภาพต่อไป
การที่ FED ขึ้นดอกเบี้ยถือเป็นโอกาสที่ดีของผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการที่ดัชนีหุ้นทุกตัวปรับลง จะทำให้นักลงทุน หรือผู้ที่สนใจสามารถซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำ แต่ก็ควรที่จะเลือกลงทุนในหุ้นจากบริษัทที่มีแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ดี และมีอัตราการปันผลที่น่าพึงพอใจเป็นหลัก
ได้รู้ทิศทางและผลกระทบที่ FED ปรับดอกเบี้ยกันไปแล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนหลาย ๆ คนได้รู้ว่า การปรับการลงทุนให้เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ย่อมเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญอย่างมาก เพราะถึงแม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเลยนั้นอาจเสี่ยงยิ่งกว่า หากใครสนใจ เปิดพอร์ตหุ้นต่างประเทศ และต้องการลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ดัชนีหุ้นต่าง ๆ ปรับตัวลง เพื่อหาโอกาสสร้างผลตอบแทนในระยะยาว เลือกลงทุนผ่าน InnovestX แอปพลิเคชันลงทุนที่จะทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน
และหากใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นลงทุนจากตรงไหน ลงทุนอะไรดี สามารถมาอัปเดตด้านการลงทุนกับฟีเจอร์ Wealth Idea ในแอปฯ InnovestX ที่มีเพลย์ลิสต์ไอเดียการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ มากมายให้เลือกลงทุนกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเพลย์ลิสต์ “Berkshire Hathaway Top 10 US Stocks ” หรือ “หุ้นนอกโดดเด่น Future Tech”
ส่วนใครที่เป็นสายฟังการวิเคราะห์เรื่องราวเกี่ยวกับการลงทุนดี ๆ สามารถมาอัปเดตมุมมอง และกลยุทธ์การลงทุนประจำสัปดาห์ ให้คุณทันทุกสถานการณ์โลกได้กับรายการ Wealth Weekend ซึ่งเป็น Broadcast การลงทุนที่คุณไม่ควรพลาด