IPO คืออะไร ทำไมนักลงทุนถึงแย่งกันจองจนเต็มทุกรอบ!?

หุ้น IPO เรื่องที่นักลงทุนต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อ

 

เราคงจะเคยได้ยินข่าวบริษัทยักษ์ใหญ่เปิดขายหุ้น IPO แล้วมียอดจองถล่มทลาย นักลงทุนพากันแย่งซื้อกันจ้าละหวั่น ในใจก็อยากจองบ้าง แต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นหุ้นแบบไหน น่าสนใจจริงหรือเปล่า แล้วทำไมนักลงทุนจำนวนมากถึงสนใจซื้อหุ้น IPO กันถึงขนาดนั้น วันนี้เราจะพาไปรู้จักว่าหุ้น IPO คืออะไร และน่าลงทุนหรือไม่ ไปหาคำตอบกันได้เลย

 

 

หุ้น IPO คืออะไร ทำไมถึงเป็นที่สนใจของนักลงทุน?

 

การซื้อหุ้นในปัจจุบัน จะมีลักษณะอยู่ 2 รูปแบบ คือ

 

1. หุ้น IPO คือหุ้นใหม่เข้าตลาดที่บริษัทเอกชนเปิดให้จองล่วงหน้าผ่านตัวแทน

2. หุ้นที่ซื้อจากนักลงทุนด้วยกัน ซึ่งอาจจะซื้อจากนักลงทุนอื่น หรือจะซื้อหุ้น IPO ก็ได้เช่นกัน

 

IPO หรือ Initial Public Offering คือ หุ้นสามัญที่เปิดขายในตลาดครั้งแรกให้แก่นักลงทุน ซึ่งเป็นหุ้นที่บริษัทเอกชนเป็นผู้เปิดขาย เพื่อระดมทุนไปใช้ในเป้าหมายที่บริษัทได้ตั้งเป้าเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกำลังการผลิต การขยายสาขา การขยายธุรกิจในต่างประเทศ โดยนักลงทุนที่ซื้อหุ้น IPO จะมีสถานะเป็นเจ้าของกิจการคนหนึ่งตามสัดส่วนที่ได้ซื้อหุ้นเอาไว้

 

ความน่าสนใจของหุ้น IPO คือ ตามสถิติแล้ว การจองหุ้น IPO จะได้กำไรถึง 30-40% เมื่อวางขายในตลาดวันแรก ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า เมื่อมีการประกาศจองหุ้น จะมีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจ แต่จำนวนหุ้นที่เปิดจองมีจำนวนจำกัด ไม่เพียงพอต่อความต้องการ และเมื่อเปิดขายในวันแรก นักลงทุนจะแห่กันมาซื้อจำนวนมาก ทำให้ราคาปิดพุ่งสูงขึ้น จึงส่งผลให้หุ้นที่เปิดขายวันแรกมากกว่า 80% มีราคาเปิดเทรดสูงกว่าราคา IPO

 

 

อยากซื้อหุ้น IPO ต้องทำอย่างไร?

 

สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อหุ้น IPO สามารถซื้อได้ 2 รูปแบบ ดังต่อไปนี้

 

1. จองก่อนหุ้น IPO เข้าตลาด ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (Underwriter) หรือตัวแทนจำหน่ายจะเปิดให้นักลงทุนจองในวันและเวลาที่กำหนด โดยทางบริษัทจะดำเนินการจัดสรรหุ้นให้นักลงทุน มีทั้งการจัดสรรแบบ Small Lot First, แบบสุ่ม หรือแบบอื่น ๆ ตามความเหมาะสม

 

2. ซื้อหุ้น IPO วันที่เปิดขายวันแรก โดยสามารถซื้อ-ขายได้เหมือนกับหุ้นอื่น ๆ ทั่วไปในราคาตลาด สำหรับผู้ที่สนใจอยากจองหุ้นใหม่เข้าตลาด สามารถศึกษารายละเอียดของหุ้น IPO ของบริษัทที่กำลังจะเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ ที่นี่

Small Lot First เป็นวิธีการจัดสรรหุ้น IPO ยอดนิยมในตลาด โดยผู้ที่จองจำนวนน้อยจะได้รับการจัดสรรก่อน เมื่อครบแล้ว ก็จะค่อยจัดสรรในรอบถัดไป ซึ่งการเปิดขายหุ้น IPO ของ OR ใช้วิธีนี้

 

 

 

เทคนิคการเลือกซื้อหุ้น IPO ให้ได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ

 

หลายคนอาจมองว่า การซื้อหุ้น IPO ได้สำเร็จ ก็เหมือนกับเป็นขนมหวานของนักลงทุน แต่รู้หรือไม่ว่า มีหุ้น IPO เพียงแค่ 20% เท่านั้น ที่มีราคาสูงกว่าราคาเปิดวันแรก ซึ่งการทุ่มซื้อโดยที่ไม่ศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อน ทำให้หลายคนติดดอยหาทางลงมาไม่ได้กันมานักต่อนัก

 

แต่ในทางกลับกัน หากว่าเราศึกษาและวิเคราะห์หนังสือชี้ชวนการลงทุนอย่างละเอียดรอบคอบ เราก็จะสามารถจองหุ้นตัวที่ใช่ จะถือสั้น ๆ ก็ได้กำไร จะซื้อทิ้งไว้ในพอร์ตก็สามารถทำกำไรได้ในระยะยาว และนี่คือ 7 สิ่งที่นักลงทุนทุกคนต้องอ่าน! ก่อนตัดสินใจจองหุ้น IPO

 

 

1. ภาพรวมของธุรกิจ

สิ่งที่เราจะต้องรู้ก่อนเลยก็คือ บริษัททำธุรกิจอะไรอยู่ อยู่ในอุตสาหกรรมอะไร และอุตสาหกรรมดังกล่าวกำลังอยู่ในขาขึ้นหรือว่าขาลง ศึกษาไปถึงกลุ่มลูกค้า กำไรที่ได้ในแต่ละปี คู่แข่งคือใคร มีส่วนแบ่งทางการตลาดเท่าไร เพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการประกอบการตัดสินใจ

 

2. ปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจ

การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ดังนั้นเราควรจะศึกษาความเสี่ยงของบริษัทก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน แต่ไม่ได้แปลว่าถ้าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เราจะปิดประตูไปเลย แนะนำให้ลองดูว่าทางบริษัทมีการวางแผนการรับความเสี่ยงไว้อย่างไร และในความเสี่ยงนั้นมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนมากน้อยแค่ไหน

 

3.ประวัติทางการเงินย้อนหลัง

ข้อนี้ต้องอ่านให้ละเอียด เพราะมีผลต่อการดำเนินงานในอนาคต ลองดูว่าบริษัทมีงบดุล กำไรขาดทุน และกระแสเงินสดเป็นอย่างไร มีสภาพทางการเงินสูงหรือไม่ และเมื่อเทียบกับธุรกิจที่มีขนาดใกล้เคียงกัน อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันแล้วเป็นอย่างไรบ้าง

 

4.วัตถุประสงค์ของการระดมทุน

ในการเปิดระดมทุนในแต่ละครั้ง บริษัทจะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการระดมทุนอย่างชัดเจน ว่าจะนำเงินที่ระดมทุน จำนวนเท่าไร ไปใช้ในวัตถุประสงค์อะไร และเมื่อปิดการระดมทุนแล้ว จะต้องรายงานผลการดำเนินงานเป็นระยะอีกด้วย

 

5.นโยบายการจ่ายปันผล

โดยปกติแล้ว เมื่อเราซื้อหุ้น ทางบริษัทจะมีการจ่ายปันผลประจำปี ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีนโยบายการจ่ายปันผลที่แตกต่างกันออกไป เพราะบางบริษัทที่ไม่มีโครงการใหญ่ หรือขยายกิจการ อาจจะจ่ายปันผลสูงกว่าบริษัทที่อยู่ในช่วงที่ต้องการขยายกิจการหรือมีโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก

 

6.การกำกับดูแลกิจการ

ESG เป็นแนวคิดการดำเนินกิจการแบบยั่งยืนที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการทำธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งมีผลต่อการเติบโตในอนาคต ลองอ่านนโยบายต่าง ๆ เกี่ยวกับการจัดการสิ่งแวดล้อมก็จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

7. ราคามีความเหมาะสมกับมูลค่าของบริษัท

ให้เราพิจารณาราคาของหุ้นว่ามีความเหมาะสมกับมูลค่าของบริษัทหรือเปล่า และมีแนวโน้มที่ธุรกิจจะเติบโตมากขึ้นหรือไม่ เพราะราคาหุ้นที่เสนอขาย หากว่าแพงเกินไปก็ยากที่จะทำกำไรในระยะยาว

 

อยากซื้อหุ้น IPO เทรดหุ้นไทย หรือเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ ต้องที่ InnovestX จักรวาลการลงทุนที่ให้คุณลงทุนในทุกสินทรัพย์ได้อย่างง่ายดายในแอปเดียว พร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์การลงทุน ทั้งระบบบริหารพอร์ตและบทวิเคราะห์ดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนตัวจริง เพราะที่ InnovestX เราเข้าใจเรื่องการลงทุนเพื่อทุกคน

 

 

 

ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android สอบถามข้อมูลด้านการใช้งานเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-949-1999

คำเตือน

 

ข้อมูลอ้างอิง:

1. 5 ข้อควรระวัง ลงทุนหุ้น IPO ไม่ให้ติดดอย. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 จาก https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/17-tsi-5-things-to-be-aware-when-investing-in-ipo

2. 7 เรื่องการพิจารณาหุ้น IPO ในมุมของนักวิเคราะห์. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 จาก https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/426-iaa-ipo-2023

3. ก่อนตัดสินใจซื้อหุ้น IPO ต้องดูอะไรบ้าง ตอนที่ 2. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 จาก https://www.smarttoinvest.com/Pages/Investment%20Products/Investment%20knowledge/know-howto-start-to-invest-IPO-ep2.aspx#:~:text=ควรดูรายชื่อผู้,การจองซื้อผ่านทาง

 

* การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน