Market Cap. คืออะไร สำคัญกับนักลงทุนแค่ไหน?

Market Cap. คืออะไร?

 

Market Cap. หรือ Market Capitalization คือ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงมูลค่าโดยรวมของบริษัทในตลาดหุ้น ซึ่งนักลงทุนมักใช้เพื่อประเมินขนาดและอิทธิพลของบริษัท โดยเราสามารถคำนวณ Market Cap. ได้จากราคาปิดของหลักทรัพย์ x จำนวนหลักทรัพย์จดทะเบียนปัจจุบัน

 

 

ตัวอย่างการคำนวณ Market Cap.

 

บริษัทมีจำนวนหุ้นอยู่ 50,000 หุ้น ราคาหุ้นละ 100 บาท

= มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด อยู่ที่ 5,000,000 บาท

 

 

ประเภทของ Market Cap

 

Large Cap

กลุ่ม Large Cap คือ บริษัทที่มีมูลค่า Market Cap. มากกว่า 50,000 ล้านบาท* มักเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีรายได้มั่นคง ผลกำไรเติบโตอย่างสม่ำเสมอ และมีการจ่ายเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหุ้นจากบริษัทเหล่านี้จะเป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุน เพราะเป็นหุ้นที่มีความได้เปรียบในตลาด และมีความผันผวนน้อย

 

Mid Cap

การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ดังนั้นเราควรจะศึกษาความเสี่ยงของบริษัทก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน แต่ไม่ได้แปลว่าถ้าเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เราจะปิดประตูไปเลย แนะนำให้ลองดูว่าทางบริษัทมีการวางแผนการรับความเสี่ยงไว้อย่างไร และในความเสี่ยงนั้นมีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนมากน้อยแค่ไหน

 

Small Cap

กลุ่ม Small Cap คือ บริษัทที่มีมูลค่า Market Cap. น้อยกว่า 10,000 ล้านบาท* มักเป็นบริษัทขนาดเล็ก ที่ราคาหุ้นมีความผันผวน แต่หุ้นจะมีราคาต่ำกว่าหุ้นทั่วไป เพราะยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่นักลงทุนมากนัก *หมายเหตุ: มูลค่าที่ใช้ในการกำหนด Market Cap. อาจแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ

 

 

Market Cap. บอกอะไรเราได้บ้าง

 

จากที่เราได้อธิบายไปข้างต้น เชื่อว่านักลงทุนน่าจะเริ่มคุ้นเคยและเข้าใจถึงความหมายของ Market Cap. หรือมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดกันแล้ว เรามาดูกันว่า Market Cap. สามารถบอกอะไรเราได้บ้าง ทำไมนักลงทุนจึงต้องทำความเข้าใจก่อนตัดสินใจลงทุน

 

● บ่งบอกถึงชื่อเสียงของบริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด เปรียบเสมือนสิ่งที่บ่งบอกถึงชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของบริษัท หากบริษัทใดที่อยู่ในกลุ่ม Large Cap ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ในฐานะบริษัทที่มีความมั่นคง มีความสามารถในการแข่งขัน และยังแสดงถึงความสามารถในการบริหารของผู้ประกอบการอีกด้วย

 

● บ่งบอกถึงความสามารถในการจัดหาเงินทุน นอกจากจะเป็นตัวบ่งบอกชื่อเสียงและแสดงถึงภาพลักษณ์ของบริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดยังสามารถบอกนักลงทุนได้ว่า บริษัทเหล่านั้นมีความสามารถในการจัดหาเงินทุนมากน้อยแค่ไหน เพราะแน่นอนว่าบริษัทที่อยู่ในกลุ่ม Large Cap ก็มีโอกาสที่จะได้รับความไว้วางใจมากกว่า ทำให้สามารถจัดหาเงินทุนได้ง่าย นำไปสู่การเติบโตของบริษัทที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

● บ่งบอกถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ ขนาดของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงโอกาสในการพัฒนาธุรกิจ โดยบริษัทในกลุ่ม Large Cap. มักเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความมั่นคง และมีอัตราการเติบโตแบบคงที่ ในขณะเดียวกัน บริษัทกลุ่ม Small Cap ก็เป็นกลุ่มที่มีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากบริษัทในกลุ่มนี้มักเป็นธุรกิจใหม่ ที่หากประสบความสำเร็จจากการบริหารจัดการที่ดี ก็มีโอกาสที่จะเปลี่ยนจากหุ้นขนาดเล็ก มาเป็นหุ้นขนาดใหญ่ได้ เช่น ธุรกิจ Apple ที่ในช่วงแรกเริ่ม เป็นบริษัทที่จัดอยู่ในกลุ่ม Small Cap แต่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

 

 

โดยสรุปแล้ว การทำความเข้าใจ Market Cap. เป็นสิ่งที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่เหมาะสม และวางแผนกระจายการลงทุน เพื่อบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามเป้าหมายการลงทุนที่วางไว้ และช่วยเปิดโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้น

 

เริ่มต้นลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย พร้อมบริหารพอร์ตได้ในที่เดียว เพียงเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์กับ InnovestX ให้คุณลงทุนในหุ้นได้แบบไม่มีขั้นต่ำ พร้อมด้วยแหล่งความรู้การลงทุน และบทวิเคราะห์การลงทุนจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่มากขึ้น สมัครเลย

 

 

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน