Trading Basics

[Trader Foundation Series] Gambler vs The House: คุณกำลัง "ลงทุน" หรือ "เล่นพนัน"? เช็คให้ชัวร์ก่อนหมดตัว

4 Dec 25 3:38 PM
รู้จักผลิตภัณฑ์ลงทุน2
สรุปสาระสำคัญ

อยากรอดในตลาดต้องเลิกเป็น "นักพนัน" ที่วัดดวงหวังรวยข้ามคืน แล้วสวมบทเป็น "เจ้ามือ" ที่ใช้คณิตศาสตร์คุมเกมแทนครับ คาสิโนชนะเสมอเพราะมองเกมยาวและมีแต้มต่อ (House Edge) เราจึงควรโฟกัสที่ระบบ ไม่ใช่ผลแพ้ชนะแค่ตาเดียว มองการขาดทุนเป็นเพียงต้นทุนทางธุรกิจ เวลาเทรดให้เน้นอ่านกราฟหาจุดคุ้มเสี่ยง (Risk/Reward) เลิกเดาอนาคต และเช็คอารมณ์ด้วยกฎ HALT – ถ้าหิวเงิน หัวร้อน หรือเหนื่อย ให้หยุดทันที! สุดท้ายอย่าลืมทำ Trading Journal เพื่ออุดรูรั่วของตัวเอง จำไว้ว่าการเทรดตามแผนแล้วขาดทุน น่าภูมิใจกว่าการมั่วแล้วได้กำไรครับ

เปิดมุมมอง: ทำไมคาสิโนถึง "ไม่มีวันเจ๊ง"?

เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไมธุรกิจคาสิโนถึงทำกำไรได้มหาศาล ทั้งๆ ที่ในแต่ละวันมีลูกค้าเดินเข้ามา "แจ็คพอตแตก" หอบเงินกลับบ้านไปเป็นล้าน? ทำไมผู้จัดการบ่อนถึงยังยิ้มได้ ไม่นั่งร้องไห้เสียดายเงิน?

 

คำตอบไม่ได้อยู่ที่ "ดวง" แต่อยู่ที่สิ่งที่เรียกว่า "คณิตศาสตร์" ครับ

 

คาสิโนไม่เคยสนใจผลแพ้ชนะใน "ตาเดียว" แต่พวกเขามองเกมยาวเป็นพันๆ หรือหมื่นๆ ตา เพราะพวกเขามีอาวุธลับที่เรียกว่า "House Edge" (แต้มต่อของเจ้ามือ) ซึ่งเป็นค่าสถิติทางคณิตศาสตร์ที่จะดึงกำไรกลับเข้ากระเป๋าพวกเขาอย่างแน่นอนในระยะยาว โลกของการเทรดก็เช่นเดียวกัน... ถ้าคุณอยากรอดในตลาดหุ้นหรือ TFEX คุณต้องเลิกมองเกมแบบ "นักพนัน" ที่หวังรวยข้ามคืน แล้วเริ่มมองเกมแบบ "เจ้ามือ" ที่ทำกำไรจากความน่าจะเป็นครับ

 

gambler-vs-pro.jpg

 

เปรียบเทียบชัดๆ: คุณคือ "นักพนัน" หรือ "เจ้ามือ"?

ลองสำรวจตัวเองอย่างตรงไปตรงมาดูครับว่า ทุกวันนี้คุณกำลังสวมหมวกใบไหนเทรดอยู่

Mindset แบบนักพนัน (The Gambler)

Mindset แบบเจ้ามือ (The House)

😰 โฟกัสระยะสั้น

หัวเสียทันทีที่ขาดทุน 1 ครั้ง รู้สึกเหมือนโลกถล่ม จิตตกง่าย

😎 โฟกัสระยะยาว

มองภาพรวม 100-1,000 เทรด ไม่หวั่นไหวกับผลลัพธ์แค่ตาเดียว

🤬 หาแพะรับบาป

โทษตลาด โทษข่าว โทษโบรคเกอร์ เมื่อผิดทาง

📊 เคารพสถิติ

เข้าใจว่า "การขาดทุน" คือส่วนหนึ่งของความน่าจะเป็นที่หนีไม่พ้น

🔄 ไร้จุดยืน

เปลี่ยนแผนไปมาทุกครั้งที่เสียเงิน เพราะความกลัวเข้าครอบงำ

🛡️ มีระบบที่ชัดเจน

ทำตามแผนเดิมซ้ำๆ อย่างมีวินัย เพราะมั่นใจใน "แต้มต่อ" ของระบบ

💸 มองการขาดทุนคือ

"ความล้มเหลว" หรือความพ่ายแพ้

💼 มองการขาดทุนคือ

"ต้นทุนทางธุรกิจ" (Cost of Business)

*ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

 

ภาคปฏิบัติ: วัดกันที่ "หน้ากราฟ" (On the Chart)

เมื่อวิธีคิดเปลี่ยน การกระทำก็จะเปลี่ยนครับ มาดูกันว่า Mindset สองแบบนี้ส่งผลต่อ การอ่านกราฟ ต่างกันอย่างไร

  1. คำถามแรกเมื่อเปิดกราฟ
  • มือใหม่: "พรุ่งนี้หุ้นจะขึ้นหรือลง?" (พยายามทำนายอนาคต)
  • Pro Trader: "ตอนนี้ตลาดเป็นเทรนด์อะไร และฉันจะได้เปรียบตรงไหน?" (อ่านสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อหาแต้มต่อ)
  1. การใช้อินดิเคเตอร์ (Indicators)
  • มือใหม่: ใส่ Indicator เต็มหน้าจอ 3-4 ตัว เพราะเชื่อว่ายิ่งเครื่องมือเยอะ ยิ่งแม่น (แต่สุดท้ายสัญญาณตีกันเองจนสับสน)
  • Pro Trader: กราฟโล่ง (Clean Chart) หรือใช้น้อยที่สุดเท่าที่จำเป็น เน้นอ่าน "พฤติกรรมราคา" (Price Action) และโครงสร้างตลาด (Market Structure) เป็นหลัก
  1. จุดเข้าซื้อ (Entry)
  • มือใหม่: เข้าเพราะ "กลัวตกรถ" (FOMO) เห็นกราฟพุ่งเขียวๆ ก็รีบกระโดดใส่โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ
  • Pro Trader: เข้าเมื่อ "คุ้มเสี่ยง" (Risk/Reward) เท่านั้น ถ้าคำนวณแล้วจุด Stop Loss ไกลเกินไป ต่อให้กราฟสวยแค่ไหนเขาก็เลือกที่จะ "รอ"

 

เช็คลิสต์: ระบบเบรกอารมณ์ก่อนเทรด (HALT Strategy)

แม้จะมีแผนดีแค่ไหน แต่อารมณ์คือศัตรูตัวฉกาจ ก่อนกดส่งคำสั่งซื้อขายทุกครั้ง ให้ลองเช็คตัวเองด้วยหลัก "HALT" ถ้าคุณกำลังตกอยู่ในสภาวะข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้... ให้หยุดเทรดทันที!

 

H – Hungry (ความหิว / ความโลภ)

  • อาการ: ไม่ใช่แค่ความหิวทางกายภาพ แต่รวมถึง "ความหิวเงิน" ความโลภ อยากรวยเร็วๆ หรือกำลังร้อนเงิน
  • ผลกระทบ: ทำให้หน้ามืดตามัว มองข้ามความเสี่ยง และมักจบลงด้วยการ Overtrade

A – Angry (ความโกรธ / หัวร้อน)

  • อาการ: ทะเลาะกับคนรอบข้าง หรือที่พบบ่อยที่สุดคือ "โกรธตลาด" เพราะเพิ่งโดน Cut Loss มาหมาดๆ
  • ผลกระทบ: เกิดความอยาก "เอาคืน" (Revenge Trading) ทำให้ลืมวินัยและกระโดดเข้าใส่กราฟด้วยอารมณ์ ซึ่งมักเป็นจุดจบที่ไวที่สุดของพอร์ต

L – Lonely (ความเหงา / ขาดความมั่นใจ)

  • อาการ: รู้สึกไม่มั่นใจ มองหาที่พึ่งทางใจ
  • ผลกระทบ: นำไปสู่การเทรดตามเพื่อน ตามกลุ่มไลน์ หรือเชื่อกูรู แทนที่จะเชื่อมั่นในระบบของตนเอง

T – Tired (ความเหนื่อยล้า / อ่อนเพลีย)

  • อาการ: พักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน หรือเครียดจากงานประจำ
  • ผลกระทบ: สมองส่วนเหตุผลจะทำงานช้าลง และปล่อยให้สัญชาตญาณดิบ (ซึ่งมักจะผิด) เข้ามาควบคุมการตัดสินใจ

 

HALT.jpg

Pro Rule: "ถ้าชีพจรเต้นเร็ว มือสั่น หรือจ้องกราฟแล้วหน้ามืดด้วยเหตุผลข้างต้น... ปิดจอแล้วไปพักผ่อนครับ ตลาดยังเปิดรอให้คุณกลับมาทำกำไรในวันที่พร้อมเสมอ"

 

The Secret Weapon: เปลี่ยนนักพนันเป็นเจ้ามือด้วย Trading Journal

สิ่งเดียวที่แยก "นักพนัน" ออกจาก "เจ้าของธุรกิจ" คือการทำบัญชีครับ ในโลกการเทรดเราเรียกสิ่งนี้ว่า Trading Journal ซึ่งเราสามารถจดบันทึกได้อย่างละเอียดตามความต้องการ และจะเป็นแหล่งการเรียนรู้แบบ “Personalized” ชั้นยอดแก่ตัวนักลงทุนเองด้วย โดยทั่วไปแล้ว Trading Journal จะประกอบไปด้วยข้อมูลต่างๆ ดังต่อไปนี้

 

  1. องค์ประกอบที่ต้องจด (The Data)
  • Setup: เข้าเทรดด้วยท่าไหน? ควรเป็น Setup ง่ายๆ ไม่ซับซ้อน เช่น Breakout, Pullback
  • Entry/Exit: ราคาที่เข้าและออก (ทั้งเป้าหมายราคาและจุด Stop Loss)
  • Position Size: ขนาดของการเทรดแต่ละครั้ง เช่น จำนวนหุ้น จำนวนสัญญา และ/หรือจำนวนเงินที่ใช้
  • Why: เหตุผลที่เข้าเทรด (ต้องอธิบายได้ชัดเจนใน 1 ประโยค)
  • Emotion: อารมณ์ตอนเข้าเทรด (มั่นใจ, กลัว, ลังเล) เพื่อการสังเกตตัวเองและปรับปรุงให้เกิดความเสถียรทางอารมณ์ **ตรงนี้สำคัญมาก เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้เราจะไม่สามารถหาจาก Data ใดๆ ได้เลยถ้าเราไม่จดเอง**

 

  1. สถิติที่ต้องดู (The Key Stats)

เลิกดูแค่ว่า "วันนี้ได้เงินกี่บาท" แต่ให้ดูค่าเหล่านี้เพื่อวัดคุณภาพระบบเทรดของคุณ:

  • Win Rate (%): อัตราความแม่นยำ (ชนะกี่ครั้งจาก 100 ครั้ง)
  • Risk per Trade: เสียเงินกี่ % ของพอร์ตต่อการเทรดแต่ละครั้ง (มืออาชีพมักคุมไว้ไม่เกิน 1-2%)
  • Reward to Risk Ratio (RRR): ความคุ้มค่าในการเทรด (เช่น เสี่ยงเสีย 100 บาท ต้องมองเห็นกำไร 200 บาทขึ้นไป หรือ RRR = 1:2)
  • Expectancy: ความสามารถในการทำกำไรของระบบเทรดที่ใช้อยู่ว่า “ทำเงิน” หรือ “เผาเงิน”

 

trading-journal.jpg

 

ตัวอย่างการจดบันทึกสำหรับสินค้า GOZ25 (Gold Online Futures) โดยเน้นจด "อารมณ์" และ "บทเรียน"

วันที่/เวลา

สินค้า

วิเคราะห์กราฟ / Setup

Time Frame

Action Plan (Entry/Exit)

จำนวนสัญญา

RR (คาด/จริง)

ผลลัพธ์

อารมณ์ & บทเรียน

07 Nov

14:00

GOZ25

Setup: Reversal Pin Bar

เหตุผล: ราคาย่อลงมาทดสอบแนวรับสำคัญที่ $3,950 ซึ่งเป็น Low เดิม และเกิดแท่งเทียนกลับตัว

H4

Long

In: $3,960

SL: $3,940

TP: $4,020

1

1 : 3

(1 : 3)

Win

(+60 pts)

อารมณ์: นิ่ง สงบ

บทเรียน: การรอให้ราคาลงมาถึงโซน (Wait for Setup) ดีกว่าไล่ราคา ทำให้ได้ RR ที่คุ้มค่าและจุด Stop Loss สั้น

14 Nov

20:30

GOZ25

Setup: Bearish Engulfing (Failed)

เหตุผล: ราคาขึ้นชนแนวต้านจิตวิทยา $4,100 แล้วมีแรงเทขาย แต่เทรนด์หลักยังเป็นขาขึ้น

H1

Short

In: $4,100

SL: $4,115

TP: $4,050

1

1 : 3.3

(-1 R)

Loss

(-15 pts)

อารมณ์: หงุดหงิด (Angry) อยากเลื่อน SL หนี

บทเรียน: การสวนเทรนด์ (Counter Trend) ในช่วงขาขึ้นมีความเสี่ยงสูง ต้องยอมรับความเสี่ยงให้ได้และห้ามเลื่อน SL เด็ดขาด

20 Nov

11:00

GOZ25

Setup: Breakout Bullish Flag

เหตุผล: ราคาพักตัวสร้างฐานเหนือ $4,100 แล้วเบรกแนวต้านย่อย $4,120 ขึ้นมาพร้อม Volume

M15

Long

In: $4,125

SL: $4,110

TP: $4,185

2

1 : 4

(1 : 4)

Win

(+60 pts)

อารมณ์: ตื่นเต้น (Excited) อยากรีบขายหมูที่ $4,150

บทเรียน: เกือบปิดทำกำไรก่อนถึงเป้า (TP) เพราะกลัวกำไรหาย ต้องฝึกถือ (Let Profit Run) ตามระบบให้จบ

28 Nov

21:00

GOZ25

Setup: ไม่มี (N/A)

เหตุผล: เห็นราคาพุ่งแรงทำ New High ทะลุ $4,200 ไป $4,250 เลยรีบตามเพราะกลัวตกรถ

M5

Long

In: $4,245

SL: ไม่มี

TP: ไม่มี

2

N/A

(-3 R)

Loss

(-45 pts)

อารมณ์: โลภ & FOMO (Hungry)

บทเรียน: หายนะ! เข้าที่ยอดดอย ($4,250) โดยไม่มี Setup โดนทุบลงมาแล้วไม่ยอมคัทเพราะไม่มีแผน เสียหายหนักกว่าปกติ 3 เท่า (กฎ HALT ทำงาน!)

04 Dec

10:30

GOZ25

Setup: Pullback EMA 50

เหตุผล: หลังจากราคาปรับฐานลงมาที่ $4,150 ราคายืนได้และเริ่มสร้างฐานใหม่ ไม่หลุด Low

H1

Long

In: $4,160

SL: $4,140

TP: $4,200

1

1 : 2

(Wait)

Pending

(Running)

อารมณ์: กลัว (Fear) ลังเลไม่กล้าเข้าเพราะไม้ก่อนหน้าเพิ่งโดนหนักมา

บทเรียน: กลับมาเทรดตามระบบ แต่ลดขนาดสัญญา (Position Sizing) ลงเพื่อเรียกความมั่นใจกลับคืนมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป

*ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

 

มาตั้ง Mindset ที่ถูกต้องสำหรับการลงทุนกันเถอะ

การประสบความสำเร็จในตลาดทุนไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา แต่ขึ้นอยู่กับการปรับ Mindset ให้เป็นเหมือน "เจ้ามือคาสิโน" ที่มองเกมในระยะยาวและใช้สถิติความน่าจะเป็น (House Edge) เพื่อสร้างความได้เปรียบเหนือตลาด แทนที่จะตื่นตระหนกกับผลแพ้ชนะในระยะสั้นเหมือนนักพนันทั่วไป เทรดเดอร์มืออาชีพจะยึดมั่นในวินัยและระบบที่วางไว้อย่างเคร่งครัด โดยมีเครื่องมือสำคัญอย่าง กฎ HALT เพื่อช่วยดึงสติและหยุดยั้งอารมณ์ด้านลบก่อนที่จะสร้างความเสียหายให้พอร์ต และการจดบันทึก Trading Journal อย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมและอุดรอยรั่วของตนเอง

 

ท้ายที่สุดแล้ว กุญแจสำคัญไม่ใช่การทำกำไรมหาศาลในวันเดียว แต่คือความสม่ำเสมอในการทำตามแผน การเลิกใช้อารมณ์และหันมาบริหารพอร์ตด้วยตรรกะแบบเจ้าของธุรกิจ คือหนทางเดียวที่จะเปลี่ยนคุณจาก "แมงเม่า" ผู้เข้ามาเล่นพนันในตลาดไปวันๆ ให้กลายเป็น "ผู้คุมเกม" ที่ทำกำไรได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

 

"ถ้าวันนี้คุณเทรดตามแผนเป๊ะๆ แล้วผลลัพธ์คือขาดทุน... ให้ภูมิใจได้เลยว่าคุณทำหน้าที่ได้สมบูรณ์แบบแล้ว"

 

TFS Challenge: ลองเขียน Trading Journal ของคุณตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องสวยงาม ขอแค่ซื่อสัตย์กับตัวเอง แล้วอีก 30 วันลองกลับมาอ่าน คุณจะเห็นจุดแข็ง จุดอ่อนและเห็นการพัฒนาการที่น่าทึ่งได้อย่างแน่นอนครับ

 

แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม & อ้างอิง

หากคุณสนใจศึกษาต่อเกี่ยวกับ Mindset การลงทุนและการวิเคราะห์ทางเทคนิค สามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:

  1. InnovestX Cafe Invest: คลังความรู้การลงทุนแบบครบวงจรจาก InnovestX
  2. Trader Foundation Series: ติดตามบทความซีรีส์พื้นฐานสำหรับเทรดเดอร์ได้ที่
  3. TFEX (Thailand Futures Exchange): แหล่งความรู้ทางการเกี่ยวกับอนุพันธ์
  4. Trading Psychology & Discipline (Investopedia): บทความเจาะลึกเรื่องจิตวิทยาการเทรด
  5. Understanding House Edge (Investopedia): ทำความเข้าใจคณิตศาสตร์เบื้องหลังคาสิโน

 

🚀ลงทุน TFEX เข้าถึงโอกาสทำกำไรในตลาดอนุพันธ์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว

เพียงแค่เปิดบัญชีกับ InnovestX และ Activate บัญชี TFEX

  1. เปิดบัญชี InnovestX 👉https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
  2. Activate TFEX: อ่านขั้นตอนการเปิดใช้บริการ 👉https://www.innovestx.co.th/products/derivatives/product-tfex

⚠️ คำเตือน: ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนการซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น มีความเสี่ยงสูงที่อาจก่อนให้เกิดผลขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจังไม่เหมาะสมกับบุคคลทุกคน ก่อนตัดสินใจซื้อขายฟิวเจอร์สและออปชั่น ท่านควรพิจารณาถึงฐานะทางการเงินวัตถุประสงค์การลงทุน ตลอดจนความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้อย่างรอบคอบเนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่ท่านอาจสุญเสียเงินลงทุนมากกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5