Earnings Brief - Tesla (TSLA) เผยผลประกอบการ 1Q25 ร่วงลง หลังมัสก์แบ่งเวลาไปทำงานให้รัฐบาลทรัมป์

กำไรร่วงหนัก! กว่า 70% ในไตรมาสแรก
Tesla รายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1Q25 อยู่ที่ $409mn ลดลงอย่างมากถึง 71%YoY จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1.4 พันล้านดอลลาร์ กำไรต่อหุ้นปรับฐานอยู่ที่ 27 Cent ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 41-45 Cent บริษัทเกือบจะขาดทุนหากไม่ได้รายได้จากดอกเบี้ยเงินสดและเงินลงทุน $400mn และรายได้จากการขายเครดิตคาร์บอนให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น $595mn ซึ่งเพิ่มขึ้น 35%YoY

รายได้ธุรกิจยานยนต์ลดลง 20% ขณะที่ธุรกิจพลังงานเติบโตแข็งแกร่ง
รายได้รวมของเทสลาในไตรมาส 1 อยู่ที่ $19.34bn ลดลง 9%YoY โดยรายได้จากธุรกิจยานยนต์หดตัวรุนแรงถึง 20%YoY เหลือ $13.97bn สาเหตุมาจากยอดส่งมอบรถยนต์ที่ลดลง 13%YoY เหลือเพียง 336,681 คัน (ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 377,592 คัน) การปรับปรุงสายการผลิตสำหรับ Model Y และราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ธุรกิจพลังงานเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 67%YoY แม้จะได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้า

อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลงกว่าครึ่ง
อัตรากำไรจากการดำเนินงานของเทสลาลดลงอย่างมีนัยสำคัญ มาอยู่ที่เพียง 2.1% เทียบกับ 5.5% ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 16.3% ลดลงเล็กน้อยจาก 17.4% ในปีก่อน แต่ยังดีกว่าที่นักคาดการณ์ไว้ที่ 16.1% การลงทุนด้าน AI และเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติที่เพิ่มขึ้น รวมถึงต้นทุนที่สูงขึ้นจากมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ ส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรอย่างมีนัยสำคัญ

เตรียมเปิดตัวรถราคาประหยัดและโรโบแท็กซี่
Tesla ยืนยันว่าแผนการผลิตรถยนต์รุ่นราคาประหยัดยังคงเดินหน้าตามกำหนดเดิม โดยจะเริ่มการผลิตใน 1H25 แม้จะมีรายงานก่อนหน้านี้ว่าอาจมีการเลื่อนออกไป นอกจากนี้ บริษัทยังยืนยันแผนการเปิดตัวบริการ Robotaxi ในออสติน เท็กซัส ในเดือนมิถุนายน และจะเริ่มการผลิตรถ Cybercab เชิงพาณิชย์ในปี 2026 มัสก์ย้ำว่าอนาคตของเทสลาขึ้นอยู่กับความสำเร็จในเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและหุ่นยนต์อย่าง Optimus

ความท้าทายและความเสี่ยง
เทสลาเผชิญความท้าทายรอบด้านจาก 1) เทสลาถูกกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ ทำให้ต้นทุนผลิตเพิ่ม 2) ธุรกิจพลังงานได้รับผลจากการพึ่งพาแบตเตอรี่จีน 3) ความไม่แน่นอนทางการเมืองลดความต้องการสินค้าเทสลา