ผลประกอบการของ Tesla ออกมาอ่อนแอตามคาด เนื่องจากบริษัทเผชิญความท้าทายหลายด้าน อาทิ กระบวนการขายที่ล่าช้า การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า อุปสงค์ที่ลดลง และปัญหาการผลิต เช่น การปิดโรงงานในเบอร์ลิน
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นกลับปรับตัวขึ้นกว่า 13.3% ซึ่งอาจเป็นผลจาก:
1. ตลาดได้รับรู้แนวโน้มผลประกอบการที่อ่อนแอไปแล้วในช่วงก่อนประกาศงบ
2. นักลงทุนมีความคาดหวังเชิงบวกต่อ:
• แผนการปรับลดต้นทุน
• การเร่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด (Model 2) ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้ตลาด หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวว่าบริษัทอาจยกเลิกแผนดังกล่าว
• การเปิดตัว Robotaxi
• การเปิดตัว Model 3 แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งผู้ซื้อจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลกลาง
Tesla งบอ่อนแอตามคาด...แต่ราคาหุ้นขึ้นหลังคาดหวังต่อการลดต้นทุนและ Model 2 Tesla เผยงบ 1Q24 ผิดคาด โดยรายได้หดตัวลง 9%YoY และกำไรต่อหุ้นปรับตัวลงมาอยู่ที่ $0.45 ต่อหุ้น ผลกระทบจากยอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกที่ต่ำกว่าคาดอยู่ที่ 386,810 คัน นอกจากนี้บริษัทประกาศประกาศปลดพนักงานทั่วโลก 10% ทั้งนี้มีแผนเร่งการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัดออกสู่ตลาดมากขึ้นและมีแผนพัฒนารถบรรทุกไฟฟ้า Semi ในปี FY25
มุมมองของ InnovestX
มุมมองต่องบ 1Q24 : เรามองว่างบออกมาอ่อนแอตามที่เราเคยคาดการณ์ไว้หลังในช่วงที่ผ่านมา Tesla ยังคงมีแรงกดดันจากหลายปัจจัย เช่น กระบวนการขายที่ช้า, การแข่งขันที่ในอุตฯ EV, อุปสงค์ที่ลดลง, ปัญหาการผลิต เช่น การปิดโรงงานในเบอร์ลิน ฯลฯ แต่อย่างไรก็ดีราคาหุ้นกลับปรับตัวขึ้นกว่า 13.3% ซึ่งเรามองว่า 1) ตลาดรับรู้แนวโน้มงบที่อ่อนแอไปพอสมควรในช่วงก่อนประกาศงบ 2) ตลาดมีความคาดหวังเชิงบวกต่อการปรับลดต้นทุน, แผนการเร่งผลิตรถ EV ราคาประหยัด หรือ Model 2 ที่ Surprise ตลาดซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเคยแจ้งว่าจะวางจำหน่ายในปี 2568 (ก่อนหน้านี้ตลาดคาดว่ายกเลิกแผนไปแล้ว) นอกจากนี้ยังคาดหวังต่อการเปิดตัว Robotaxi และ Model 3 แบบขับเคลื่อน 4 ล้อสำหรับการขับขี่ ซึ่งผู้ซื้อจะได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีจากรัฐบาลกลาง
มุมมองใน FY24 : ในช่วง 1H24 เรามองว่า Tesla ยังคงมี Downside ที่ทำให้ราคาหุ้นมีความผันผวนอยู่จาก 1) แนวโน้มผลประกอบการที่ยังคงซบเซาและจะ bottom ในช่วงไตรมาส 3-4 นี้ 2) ภาพอุตฯ และ Peer ที่ยังคงปรับลดราคาแข่งขัน รวมถึง Tesla ที่ล่าสุดมีการปรับลดราคารถลงทั่วโลก 3) บริษัทอยู่ในระหว่างปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ เช่น การลดคนงาน อย่างไรก็ดีใน 2H24 เราประเมินว่า Tesla มีพัฒนาการเชิงบวกที่ดีกว่าในช่วงครึ่งปีแรกซึ่งมีส่วนส่งผลให้ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นดีกว่า โดย 1) โปรแกรมทดลองใช้ฟรีในฟีเจอร์ Full Self-Driving ที่หากว่ามีการสมัครสมาชิกจะมีค่าใช้จ่ายราว 199$ ต่อเดือนซึ่งภาพนี้มีส่วนช่วยเพิ่มแหล่งที่มารายได้ให้กับบริษัทได้ 2) การรับรู้รายได้ Cybertruck เข้าสู่ผลประกอบการ 3) แผนธุรกิจใหม่ เช่น Robotaxi ที่คาดว่าจะช่วยหนุนรายได้ให้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งสำหรับใครที่รับความเสี่ยงการปรับลดราคาของอุตฯ รวมถึงความผันผวนของธุรกิจในช่วงครึ่งปีแรกได้ เราแนะมองจังหวะย่อตัวลงของหุ้นเพื่อคาดหวังการฟื้นตัวของธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งมองว่าจะให้ Risk-Reward ที่ดี ขณะที่ประเด็นที่ต้องติดตามคือการลดต้นทุนและปรับเปลี่ยนกลยุธสามารถชดเชยการลดราคาทันหรือไม่ ด้าน PE ปัจจุบันอยู่ที่ 51.4x ขณะที่ Bloomberg ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 185.7USD ซึ่งมี Upside 28.3% จากราคาปัจจุบัน
|
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก TSLA_240424 |