Investment Thesis
COST เผยรายได้พ.ย. 24 เติบโตต่อเนื่อง...แต่ในส่วนสหรัฐฯ ต่ำกว่าคาดจากวันหยุดที่เลื่อนออกไป
COST เผยยอดขายเดือนพ.ย. 24 เพิ่มขึ้น 5.6%YoY และ SSS ex gas +4.9%YoY อย่างไรก็ดียอดขายในสหรัฐฯ เติบโต +4.3% ต่ำกว่าคาดและลดลงจากเดือนก่อน
มุมมองของ InnovestX
ภาพรวมยอดขายเดือนพ.ย.มีแรงหนุนจากจาก 1) จำนวนลูกค้าและการซื้อเฉลี่ยต่อรายการที่เพิ่มขึ้น 2) สินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่เติบโตดี ส่วนหมวดสินค้าไม่ใช่อาหารเติบโตปานกลาง อย่างไรก็ดียอดขายสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาดหลังยอดขายออนไลน์ได้รับผลกระทบเชิงลบ 15ppts เนื่องจากวันหยุด Thanksgiving, Black Friday และ Cyber Monday ถูกเลื่อนออกไปหนึ่งสัปดาห์และตกในเดือนธ.ค.
ในระยะถัดไป เราประเมินว่า COST ยังมีแรงกดดันหลักจาก 1) การแข่งขันในอุตฯ ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากคอมเมิซและกลุ่มสินค้าปลีก 2) เศรษฐกิจชะลอตัวส่งผลให้ผู้บริโภคจับจ่ายแบบมีกลยุทธ์ เช่น การใช้จ่ายใน Black Friday รวมถึงมีแรงซื้ออยู่ในสินค้าจำเป็น แต่อย่างไรก็ดีเราเชื่อว่าปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อ Costco ค่อนข้างจำกัดหลัง 1) กลุ่มลูกค้า Membership ของ Costco เป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงและมีความ Loyalty ทำให้ยังคงมีแรงซื้อหนุนยอดขาย COST ได้ 2) มองการปรับขึ้นราคาสมาชิกของ Costco ช่วยหนุนรายได้ให้โตเพิ่มขึ้นกว่า $260mn - $520mn โดยหากอิงกับจำนวนสมาชิกที่คาดว่าได้รับผลกระทบจากการขึ้นราคาราว 52 ล้านคน ประกอบกับในสถานการณ์ที่ Costco ปรับขึ้นราคาสมาชิกที่ราว $5-$10
ขณะที่หากมองในส่วน Valuation และการตอบสนองต่อราคาหุ้นสมเหตุสมผลกับปัจจัยพื้นฐาน ประกอบกับด้วยแนวโน้มธุรกิจที่ยังคงเติบโตได้ดี และการที่หุ้นสามารถลดความผันผวนพอร์ตได้ ทำให้ในระยะสั้นเรามองว่ายังคงสามารถลงทุนได้ อย่างไรก็ดีสำหรับการลงทุนระยะยาว หากประเมินจากภาพ Performance ในช่วงปีที่ผ่านมาเราจะเห็นการ Correction ของบริษัทราว 4 ครั้งและอยู่ในกรอบราว 4.5-6% ด้วยภาพนี้ทำให้เรามองว่าอาจรอราคาหุ้นย่อตัวราว 5-6% แล้วค่อยมองลงทุนระยะยาวที่คาดว่าให้ Risk Reward ที่ดี