สรุปสาระสำคัญ
แกว่งในกรอบ 1455-1475 จุด
คาด SET แกว่งในกรอบ โดยคาดมีกรอบบนจำกัดบริเวณแนวต้าน 1470-1475 จุด จากปัจจัยกดดันแรงขายลดความเสี่ยงก่อนการเลือกตั้งปธน. สหรัฐ ในสัปดาห์หน้า และกระแสข่าวอิหร่านเตรียมโจมตีอิสราเอล ส่วนกรอบล่างมีแนวรับ 1455-1460 จุด คาดยังรองรับได้ ด้วยแรงซื้อประคองจากนักลงทุนสถาบันจากเม็ดเงินของกองทุนวายุภักษ์ และกองทุนประหยัดภาษี
ประเด็นสำคัญ
- ธปท. เผยภาพเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวต่อเนื่องใน 4Q67 แรงหนุนจากท่องเที่ยวและส่งออกที่ทยอยฟื้นตัว ส่วน 3Q67 เศรษฐกิจออกมาเป็นไปตามคาดใกล้เคียง 3% แนะจับตาการฟื้นตัวส่งออก-ภาคการผลิต-ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ต่อเนื่องหลังผลเลือกตั้งปธน. สหรัฐฯ
- 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์เสนอทางรอดฟื้นตลาด จี้ ธปท. ปลดล็อก LTV และปล่อยสินเชื่อหนุนเข้าถึงง่าย หวั่นไร้ทางออกไม่เกิน 6 เดือนสะเทือนหนัก ลาม Supply Chain วัสดุก่อสร้างผู้รับเหมาทั่วประเทศ
- รมว.คลังเผยสัปดาห์หน้ากระทรวงการคลังจะเสนอครม. พิจารณามาตรการสินเชื่อซื้อ-แต่ง-ซ่อม-สร้างบ้านและคอนโด ดอกเบี้ยต่ำ วงเงินรวม 5.5 หมื่นลบ. เพื่อหนุนธุรกิจอสังหาฯ เติบโตต่อเนื่อง โดยรองรับความต้องการมีบ้านของผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงสินเชื่อ
- หน่วยข่าวกรองของอิสราเอลเชื่อว่าอิหร่านกำลังเตรียมความพร้อมเพื่อโจมตีอิสราเอลจากดินแดนอิรักในอีกไม่กี่วันข้างหน้า มีความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พ.ย.
- วานนี้ราคาหุ้น Microsoft ปรับลง 6% และ Meta ปรับลง 4.1% แม้ทั้งสองบริษัทจะเผยกำไรและรายได้สูงเกินคาด แต่เตือนต้นทุนด้านเทคโนโลยี AI ที่สูงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อศักยภาพทำกำไรของบริษัท
- BOJ คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ตามตลาดคาด และผู้ว่า BOJ แถลงส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอีกแต่ไม่ระบุกำหนดเวลาล่วงหน้า โดยจะประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ
- กองทุนน้ำมันฯ อุ้มราคาดีเซลที่ 33 บาท/ลิตรต่อ หลังสิ้นสุดมาตรการตรึงเมื่อวันที่ 31 ต.ค. ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ติดลบไม่เกินแสนลบ. สภาพคล่องดีขึ้นมีรายรับ 7-9 พันลบ./เดือน จะชำระหนี้เงินกู้หมดในก.ย. 2571
กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET มีโอกาสแกว่งตัว Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากผลประกอบการ 3Q67 ของ บจ. ทั้งสหรัฐและไทย ที่คาดจะมีสัญญาณการฟื้นตัวดีขึ้น และคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน แต่คาด SET จะยังมี Upside จำกัด โดยมีแนวต้าน 1500 จุด เนื่องจากมองว่าค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะส่งผลให้มีแรงกดดันต่อ Fund Flow ที่ไหลเข้ามาในตลาด EM อีกทั้งตลาดยังอยู่ในช่วงปรับความคาดหวังว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิม ทำให้ช่วงสั้นต้องระวังหุ้นที่ได้อานิสงส์ดอกเบี้ยลงซึ่งราคาปรับตัวขึ้นมาสะท้อนความคาดหวังแล้ว ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
แม้ SET มีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้ แต่ช่วงสั้นคาด Upside จำกัด หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงติดตามผลประกอบการ 3Q67 ของ บจ. ไทยกลุ่ม Real Sector และรอปัจจัยใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 4 ธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
- หุ้น Global Play ซึ่งผลประกอบการมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดย 3Q67 คาดกำไรเติบโต YoY และ 2H67 คาดกำไรยังแข็งแกร่ง HoH และ YoY อีกทั้งระยะสั้นยังได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่าตั้งแต่ต้น ต.ค. เลือก KCE TU MINT AOT
- หุ้น Earning Play ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี และกำไร 3Q67 คาดเติบโต YoY และ QoQ เลือก BEM BCH BDMS AU TNP ขณะที่แนะนำระมัดระวังกลุ่มที่มีความเสี่ยง งบออกมาแย่กว่าตลาดคาด อาทิ กลุ่มพลังงาน, ปีโตรฯ และบรรจุภัณฑ์
- หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนลดหย่อนภาษี แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Div. Yield ขั้นต่ำ 3.5%, มี ESG Rating และ CG ระดับสูง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต เลือก BBL ADVANC HMPRO BCP ทั้งนี้แนะนำรอซื้อเมื่ออ่อนตัว หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมาแรงในช่วงที่ผ่านมา
- สำหรับนักลงทุนที่ยังกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางและต้องการหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP
Daily Top picks
PTTEP: มองราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งในระยะสั้นจะเป็นปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้น และยังนับเป็นหุ้นที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากกรณีกังวลความไม่สงบในตะวันออกกลาง ขณะที่ผลการดำเนินงานและงบดุลของบริษัทยังแข็งแกร่ง โดยปี 2567 คาดมีกำไรปกติ 8.0 หมื่นลบ. เติบโต 2%YoY ทั้งนี้วันนี้แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรราคาไม่เกิน 126.50 บาท
GULF: 3Q67 คาดกำไรจะทำนิวไฮที่ 5.7 พันลบ. เติบโต 20%QoQ และ 70%YoY จากคาดว่าจะรับรู้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนค่อนข้างมาก ส่วนกำไรปกติคาดจะอยู่ที่ 4.5 พันลบ. ลดลง 10%QoQ ตามฤดูกาล แต่ยังเพิ่มขึ้น 6%YoY จากกำลังผลิตใหม่ที่เข้ามาเพิ่ม อีกทั้งยังมองบวกต่อดีลควบรวมระหว่าง GULF และ INTUCH นอกจากนี้ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง