Macro Making Sense 1
PDF Available  
Macro Making Sense

Macro Making Sense – 27 พ.ย. 2567

By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์|27 Nov 24 7:45 AM
สรุปสาระสำคัญ

สรุปประเด็นส่งออกไทย ต.ค. ขยายตัวแรง จากทองคำ + เร่งส่งออกก่อน Trade war

  • การส่งออกไทยเดือนตุลาคม 2567 มีมูลค่า 27,222.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 14.6% (YoY) สูงกว่าตลาดคาดที่ 5.4% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ 10.7% โดยการส่งออกขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และทำมูลค่าสูงสุดในรอบ 19 เดือน ซึ่งการส่งออกที่เร่งตัวเป็นผลจากต่างประเทศที่เร่งนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบเพื่อรองรับเตรียมรับมือความท้าทายด้านการค้าระหว่างประเทศในอนาคต รวมถึงผลจากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น เรามองว่า การส่งออกไทยในเดือนนี้ มีประเด็นน่าสนใจ 3 ประเด็น
  1. การส่งออกที่ขยายตัวดีเป็นผลจากหมวดสำคัญ 3 หมวด ได้แก่ (1.1) อัญมณีและเครื่องประดับ ผลจากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น (1.2) เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลจากการเร่งนำเข้าของหลายประเทศเพื่อรองรับความเสี่ยงสงครามการค้า โดยขยายตัวในตลาดสำคัญ เช่น สหรัฐ จีน และเนเธอร์แลนด์ และ (1.3) เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ โดยขยายตัวในตลาดหลัก เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น อินเดีย และจีน

  2. หากพิจารณาการส่งออกไทยเทียบกับกลุ่มประเทศ Asian NICS จะพบขยายตัวดีเกินประเทศในกลุ่ม Asian NICS มาก โดยประเทศอื่น ๆ ขยายตัวในระดับ Low single digit และเป็น Trend ที่ชะลอลง มีเพียงไทยที่เร่งตัวขึ้นแรง และเมื่อพิจารณาการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ Asian NICS พบว่าชะลอลงชัดเจนขึ้น บ่งชี้ว่าการส่งออกไทยในระยะต่อไปอาจไม่ฟื้นตัวยั่งยืน และยังเผชิญความท้าทายจากการส่งออกรถยนต์ที่หดตัว 16.8% ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่ชะลอตัว รวมถึงความเสี่ยงจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และความผันผวนของค่าเงินบาท

  3. ในมิติตลาดตลาดส่งออกสำคัญขยายตัวได้ดี โดยเฉพาะสหรัฐฯ ยุโรป และกลุ่ม CLMV ขณะที่การส่งออกไปจีนขยายตัว 8.5% แม้เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัว แต่การส่งออกไปตลาดรอง เช่น ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง ลดลง โดยการส่งออกไปออสเตรเลียและตะวันออกกลางหดตัวจากการหดตัวของสินค้าสำคัญ โดยเฉพาะรถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบที่หดตัวรุนแรง บ่งชี้ความต้องการที่ชะลอลงและความไม่แน่นอนจากสถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคที่มากขึ้น
  • การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม แม้จะขยายตัวดีแต่มีสัญญาณที่น่ากังวล โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเทคโนโลยี เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบที่เห็นสัญญาณเพิ่มขึ้นชั่วคราวแม้ว่า Trend ใหญ่จะเริ่มชะลอตัวลง นอกจากนี้ ยังมีความกังวลในกลุ่มยานยนต์ โดยเฉพาะรถยนต์ที่หดตัว 16.8% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สะท้อนผลกระทบจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนั้น ยังมีประเด็น การฟื้นตัวอย่างอ่อนแอของสินค้าขั้นกลาง โดยเฉพาะเม็ดพลาสติก และเหล็กกล้า สะท้อนความเสี่ยงสำคัญ 2 ประการ คือ 1) การทุ่มตลาดจากจีนที่มีกำลังการผลิตส่วนเกินจำนวนมาก และ 2) การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่กระทบต่ออุตสาหกรรมดั้งเดิม โดยเฉพาะในกลุ่มยานยนต์ที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า

  • การนำเข้าโดยรวมขยายตัว 15.9% โดยมีการขยายตัวในเกือบทุกหมวดสินค้าสำคัญ ยกเว้นยานพาหนะ และอื่น ๆ สะท้อนถึง

(1) การทุ่มตลาดจากจีน การนำเข้าจากจีนในสินค้าสำเร็จรูปและกึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะเหล็กและผลิตภัณฑ์

(2) การนำเข้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่งหดตัวรุนแรง สะท้อนการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยียานยนต์ และ

(3) การนำเข้าสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นอาจเป็นการเตรียมรับมือการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น

  • นอกจากนั้น มูลค่าการนำเข้าชะลอลงเป็นเดือนที่สอง สะท้อนความระมัดระวังในการลงทุนของภาคเอกชน อาจได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก

  • ทั้งนี้ การที่การนำเข้าขยายตัวสูงกว่าการส่งออก ทำให้เกิดการขาดดุลการค้า 794.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นการทุ่มตลาดจากจีนที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตในประเทศ
Author
Slide3
ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์

หัวหน้านักวิจัยเศรษฐกิจ

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5