ข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจในสัปดาห์ที่ผ่านมา
- ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเริ่มทรงตัวหลังความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์มีมากขึ้นหลังยุเครนใช้ขีปนาวุธสหรัฐยิงถล่มรัสเซีย
- ดัชนีตลาดหลักทรัพย์เริ่มผันผวนขึ้นหลังนักลงทุนกังวลความเสี่ยงเชิงนโยบายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้นบางส่วนยังคงสนับสนุนการลงทุนต่อเนื่อง
- เศรษฐกิจไทยขยายตัวดีเกินคาดจากการลงทุนรัฐ แต่ส่งออกเริ่มน่ากังวลจากนำเข้าจากจีนสูง
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับขึ้นได้เล็กน้อย โดยเป็นการปรับลดลงแรงในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน แต่ทยอยฟื้นตัวในสัปดาห์นี้ จากความคาดหวังผลประกอบการของหุ้น Nvidia ที่ออกมาดีกว่าคาด พร้อมมุมมองที่ยังแข็งแกร่งในไตรมาสถัดไปสงครามรัสเซีย-ยูเครนเริ่มรุนแรงขึ้นหลังยูเครนใช้ขีปนาวุธสหรัฐฯ โจมตีคลังแสงของรัสเซีย เกิดขึ้นเพียง 2 เดือนก่อนที่โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี และทำให้รัสเซียใช้ขีปนาวุธระยะไกลยิงตอบโต้ และประกาศพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ตอบโต้อีกด้วย ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงเล็กน้อย และหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานและ Materials ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9%-2.4% ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.9% ตามแนวโน้มผลประกอบการที่เกี่ยวกับ AI และกำไรของ NVDA ออกมาดีกว่าที่คาด กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตลาดจากความกังวลต่อการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐของ ปธน.ทรัมป์ ด้านตลาด EM ทรงตัวในสัปดาห์นี้ หลังธนาคารกลางจีน (PBOC) คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิง (Loan Prime Rate: LPR) ระยะ 1 ปี และระยะ 5 ปี ไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่ผู้ว่าการ PBOC ระบุว่าธนาคารกลางอาจปรับลด RRR ลงอีก 25 ถึง 50 BPS ภายในสิ้นปีนี้ ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงเล็กน้อย แม้จะได้ประโยน์จากตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2024 ดีเกินคาด แต่ถูกดดันจากผลกระทบหุ้น DELTA ที่ปรับลดลงแรง หลัง ตลท. ประกาศให้ DELTA เข้าข่ายเกณฑ์ Cash Balance ระดับที่ 1 มีผลระหว่างวันที่ 21 พ.ย. – 11 ธ.ค. ตลาดน้ำมันปรับตัวขึ้นจากความเสี่ยงสงครามรัสเซียยูเครนที่เพิ่มขึ้น หนุนราคาน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้น 2.3%
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดโลกเคลื่อนไหวผันผวน โดยสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังผลประกอบการออกมาดี ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐเริ่มลดลงหลังความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์มีมากขึ้น ด้านนักลงทุนเริ่มกังวลความเสี่ยงเชิงนโยบายจากว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ดีขึ้นบางส่วนยังคงสนับสนุนการลงทุนต่อเนื่องขณะที่ ธ. กลางจีนยังคงดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นไทย
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเล็กน้อยกดดันจากหุ้น DELTA แม้ (1) ตัวเลข GDP ไตรมาส 3/2024 ดีเกินคาด จากการเบิกจ่ายภาครัฐที่ขยายตัวดี แม้การส่งออกสุทธิจะขยายตัวลดลงก็ตาม (2) บอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจเห็นชอบพักชำระดอกเบี้ยเป็นเวลา 3 ปี ผ่านการปรับลดเงินนำส่ง FIDF เหลือ 0.23% (3) คลังประกาศแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 4 ล้านราย เริ่ม เม.ย. 2568
ตลาดพันธบัตร
- ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.41% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปีปรับลดลงมาที่ 4.34% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 7 bps
- ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 2.44% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.07% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 531 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นสู่ 74.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความกังวลด้านอุปทานน้ำมันหลังสงครามรัสเซีย-ยูเครนกลับมาปะทุอีกครั้ง ด้านราคาทองคำ (Spot) เพิ่มขึ้นสู่ 2,669.4 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 107.04 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนแข็งขึ้นที่ 154.37 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.05 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 34.78 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงที่ระดับ 7.25 หยวน
