สรุปสาระสำคัญ
ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์ หลังยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่เพิ่ม
- ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับลง 1% เนื่องจากถูกกดดันความกังวลสงครามการค้าที่มีมากขึ้น หลังว่าที่ ปธน. สหรัฐ โดนัล ทรัมป์ เริ่มขู่ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน 10% และเม็กซิโก และแคนาดา 25% ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง ส่งผลให้กระแสเงินทุนยังไหลออกจากภูมิภาค อีกทั้งตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในช่วงพักฐานหลังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ ขณะที่มีประเด็นเฉพาะตัว (ส่วนใหญ่เป็นลบ) ของหุ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ส่วนราคาน้ำมันปรับลดลงสัปดาห์ก่อนหลังความไม่สงบในตลาดวันออกกลางดูมีทิศทางเชิงบวกมากขึ้น เนื่องจากอิสราเอลและกลุ่มฮิซบอลเลาห์บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว โดยสองสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องอีก 3.36 พันลบ. (ตลอดเดือน พ.ย. มียอดขายสุทธิ 1.36 หมื่นลบ.) ทั้งนี้หุ้นที่มีแรงซื้อ นำโดย PTTEP KBANK MINT BTS AOT ส่วนหุ้นที่มีแรงขาย นำโดย DELTA CCET BDMS CPALL SCGP TRUE HANA
- ช่วงสั้นมอง SET จะยังเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ในกรอบ โดยมีแนวรับเชิงจิตวิทยาที่บริเวณ 1400 จุด และตลาดจะมีการรีบาวน์เป็นระยะๆ เป็นผลสืบเนื่องจากปัจจัยต่างประเทศยังค่อนข้างจำกัด โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มทรงตัว ขณะที่ภาคการค้าระหว่างประเทศของจีนยังมีแนวโน้มได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ส่วนปัจจัยในประเทศยังไม่มีประเด็นใหม่ๆ เข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุน และยังติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้
1.หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคและท่องเที่ยว แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CPALL CPAXT CRC HMPRO TNP) และกลุ่มท่องเที่ยว (AWC AOT MINT)
2.หุ้น Earning Play ซึ่งมองมีโมเมนตัมกำไร 4Q67 จะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งเราแนะนำ Outperform เลือก GULF OSP AMATA AU TIDLOR BCP
3.หุ้นที่จ่ายปันผลสูงและคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี อาทิ SSF RMF และ THAIESG แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating สูงตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก BBL ADVANC HMPRO
4.Trading Idea : นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรหุ้นที่คาดมีโอกาสเข้าคำนวณ SET50 ในงวด 1H68 อาทิ BANPU, CCET, COM7, SAWAD รวมทั้งหุ้นที่ได้อานิสงส์บวกจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ แนะนำ HMPRO CPALL และ TASCO ขณะที่ระมัดระวังการลงทุนสำหรับหุ้นกลุ่มการแพทย์ กลุ่มยานยนต์ และกลุ่มวัสดุก่อสร้างที่กำไร 4Q67 มีโมเมนตัมอ่อนแอ
5 หุ้น Top Pick Bi-weekly Portfolio

ผลการดำเนินงานย้อนหลัง bi-weekly portfolio Biweekly Portfolio Strategy
