ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นแรง 5.37% ซึ่ง outperform ตลาดหุ้นในภูมิภาค และสามารถปิดยืนเหนือ 1400 จุดได้ในรอบ 5 เดือน อีกทั้งยังปรับขึ้น 0.83%YTD โดยบรรยากาศลงทุนได้รับแรงหนุนจากปัจจัยในประเทศเป็นหลัก เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีความคืบหน้าชัดเจน โดยจะมีการประชุม ครม. นัดพิเศษ 7 ก.ย. และเตรียมแถลงนโยบาย 12-13 ก.ย. ซึ่งจะมีการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตระยะที่ 1 สู่กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านคน อีกทั้งกองทุนวายุภักษ์มูลค่า 1.5 แสนลบ. มีแผนเปิดขายเร็วกว่าคาดช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดหุ้นไทย โดยจะเปิดจองให้แก่นักลงทุนทั่วไป 16-20 ก.ย. และสถาบัน 18-20 ก.ย. นอกจากนี้ กกร. ขยับเป้าส่งออกปีนี้เพิ่มเป็น 1.5-2.5% และคลังประเมิน GDP ปีนี้มีโอกาสเติบโตได้ถึง 2.7-3.0% หนุนให้ Fund flow ยังคงไหลเข้าตลาดหุ้นไทย โดยสองสัปดาห์ที่ผ่านมาหุ้นที่มีแรงซื้อ นำโดย KBANK CPALL ADVANC BBL IVL GPSC GULF ส่วนหุ้นที่มีแรงขาย นำโดย EA DELTA PTTEP CPF
แม้ SET ยังมีโมเมนตัมที่ดี แต่ต้องระวังอาจเผชิญแรงขายทำกำไรระยะสั้น
แม้เรามอง SET ยังมีโมเมนตัมที่ดีจากตลาดคลายกังวลเสถียรภาพทางการเมืองไทยและคาดหวังการเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในปลาย 3Q-4Q67 ซึ่งส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคและบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่อย่างไรก็ดีช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา SET Index ปรับขึ้นแล้วกว่า 10%MoM จึงอาจต้องระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นบริเวณแนวต้าน 1450-1460 จุด โดยมองเม็ดเงินลงทุนจะสลับไหลออกจากกลุ่มธนาคาร ไฟแนนซ์ สื่อสาร ไปเข้าสู่กลุ่มปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า อสังหา และการแพทย์ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมีความเสี่ยงจากเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น ซึ่งส่งผลให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงและคาดจะนำไปสู่การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของ FED และ ECB ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ "Selective Buy" ใน 4 ธีมหลัก ดังนี้
1. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งเทคนิคมีสัญญาณกลับตัว และ Valuation ยังไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER และ PBV ต่ำกว่า -1SD แนะนำ CPN GPSC TFFIF
2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นเก็งกำไรซึ่งคาดได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง แนะนำ กลุ่มเช่าซื้อ (MTC) กลุ่มอสังหาฯ (AP) กลุ่มค้าปลีก (CPALL CPAXT) กลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF) กลุ่ม Reits (LHHOTEL DIF)
3. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากคาดรัฐบาลใหม่จะเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นในช่วง ก.ย. นี้ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อหุ้นที่เกี่ยวกับสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต แนะนำ CPALL CPAXT BJC TNP CBG
4. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากกองทุนวายุภักษ์รอบใหม่ โดยเลือกหุ้น SET100 ที่มีคุณสมบัติ 1) จ่ายเงินปันผลดี โดยให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% 2) มี ESG Ratings สูงตั้งแต่ระดับ A-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว และ 3) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2025 เลือก KTB BBL BCP ADVANC HMPRO