มอง SET ฟื้นได้บ้างจากแรงขายชะลอหลังมีมาตรการ ThaiESGX
ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา SET ปรับตัวลงต่อเนื่องอีก 2.5% ซึ่งให้ผลตอบแทนแย่กว่าตลาดหุ้นทั่วโลก และปิดที่ระดับต่ำกว่า 1,200 จุด ต่ำสุดในรอบ 5 ปี (ช่วงโควิด-19 ระบาด) แรงกดดันจากอุปสงค์ภายในประเทศ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังเปราะบาง รวมถึงความกังวลจากประเด็นสงครามการค้าที่รุนแรงขึ้น จากนโยบายทรัมป์ 2.0 แม้รัฐบาลจะเห็นชอบมาตรการกระตุ้นตลาดทุนผ่านกองทุน Thai ESGX ซึ่งเป็นกองทุนผสมเน้นหุ้นไม่ต่ำกว่า 65% แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1) รองรับเงินจากการโอนย้ายจากกองทุน LTF เดิม ซึ่งจะเป็นการช่วยลดแรงขาย LTF ที่สูงกว่าปกติในปีนี้ และ 2) รองรับเม็ดเงินใหม่ โดยให้สิทธิสูงสุด 3 แสนบาท โดยจำกัดช่วงเวลาลงทุนในเดือน พ.ค.- มิ.ย. แล้วก็ตาม โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงมียอดขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยราว 1.28 หมื่นลบ. ทั้งนี้มีแรงขายในหุ้นขนาดใหญ่ นำโดย AOT DELTA PTT ADVANC CPALL ขณะที่มีแรงซื้อพักตัวในกลุ่มขนาดใหญ่ นำโดย KTB SCC PTTGC SCB TOP
ช่วงสั้นมอง SET จะฟื้นตัวได้บ้าง หลังดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแรง 17%YTD แย่สุดในตลาดหุ้นทั่วโลกแล้ว เนื่องจากถูกกดดันทั้งจากกังวลสงครามการค้าและขาดปัจจัยหนุนในประเทศ อย่างไรก็ดีมองว่าแรงขายในภาพรวมน่าจะชะลอตัวลง เนื่องจากมีความชัดเจนของมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุน ThaiESGX ซึ่งคาดจะจำกัดแรงขายของ LTF และมีความหวังจากเม็ดเงินลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาในเดือน พ.ค.-มิ.ย. 68 ขณะที่การประชุมนโยบายการเงินของ FED, BoE, BoJ คาดไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยยังมีแนวโน้มคงดอกเบี้ยนโยบาย ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดยคัดเลือกจาก 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ 3) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 68 อย่างน้อยปีละ 3% พบหุ้น SET50 ที่น่าสนใจ ได้แก่ ADVANC BBL BDMS CPALL PTT ส่วนหุ้น SET100 ที่น่าสนใจ ได้แก่ AP BCH BTG
หุ้นปันผลคุณภาพดี โดยมีคุณสมบัติ 1) มีสถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไป และมี SET ESG Rating ตั้งแต่ระดับ A-AAA 2) คาดบริษัทจ่ายเงินปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว ยังให้ Div. Yield สูงเกิน 4% และ Div. payout ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว และ 3) ปี 2568 ผลประกอบการยังแข็งแกร่ง และราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside เกิน 15% แนะนำ AP KTB BBL SPALI KBANK
หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน โดยคัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุน โดยมีคุณสมบัติ 1) ปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตได้ YoY 2) มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ยสูง (Interest Coverage ratio > 1) 3) Valuation ไม่แพง โดยปัจจุบันซื้อขายที่ PER และ PBV 68F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) มีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อยปีละ 2% และ 5) มี SET ESG Rating ระดับ A-AAA แนะ-นำ CPALL BDMS MTC MINT BTG