Slide2
PDF Available  
Special Report

กลยุทธ์การลงทุน - สรุปภาพรวมผลประกอบการ 3Q24 ของ บจ. ใน SET และ mai

18 Nov 24 11:07 AM
สรุปสาระสำคัญ

ผลประกอบการ 3Q24 ของ 630 บจ. ใน SET:

  • รายได้รวม: ประมาณ 4.52 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% YoY แต่ลดลง 3.6% QoQ
  • กำไรสุทธิ: ประมาณ 2 แสนล้านบาท ลดลง 28.5% YoY และ 20.1% QoQ
  • กลุ่มที่กำไรขยายตัวสูงสุด YoY: AGRI, TRANS, FOOD
  • กลุ่มที่กำไรหดตัวสูงสุด YoY: CONS, STEEL, PETRO, TOURISM, FASHION, TOURISM ENERG
  • หากไม่รวมกลุ่ม ENERG และ PETRO: กำไรสุทธิขยายตัว 9.5% YoY แต่ลดลง 0.2% QoQ
  • ผลประกอบการ 3Q24 ของ 630 บจ. ใน SET พลิกหดตัว : รายได้รวม (~4.52 ล้านลบ.) ขยายตัว 1.0%YoY แต่หดตัว 3.6%QoQ ส่วนกำไรสุทธิ (~2.00 แสนลบ.) หดตัว 28.5%YoY และ 20.1%QoQ โดยกลุ่มที่กำไรขยายตัวสูงสุด YoY นำโดย AGRI TRANS และ FOOD ขณะที่กลุ่มที่กำไรหดตัวสูงสุด YoY นำโดย CONS STEEL PETRO TOURISM FASHION และ TOURISM ENERG หากไม่รวมกลุ่ม ENERG และ PETRO (ex ENERG & PETRO) พบว่ากำไรสุทธิขยายตัว 9.5%YoY แต่หดตัว 0.2%QoQ

  • ผลประกอบการ 3Q24 ของ 138 บจ. ใน SET ที่ตลาดมีคาดการณ์ส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับคาด: รายได้รวมใกล้เคียงกับคาดการณ์ของตลาด ส่วนกำไรสุทธิต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ เพราะได้รับผละกรทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (บาทแข็งค่า) และสต็อกน้ำมัน รวมทั้งการตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ โดยกลุ่มที่กำไรสุทธิสูงกว่าตลาดคาด นำโดย TRANS (RCL SJWD), CONS (CK), AUTO (STANLY), FIN (AEONTS SAWAD) และ ICT (TRUE) ขณะที่กลุ่มที่กำไรสุทธิต่ำกว่าตลาดคาด นำโดย PETRO (PTTGC), TOURISM (MINT), PKG (SCGP), CONMAT (SCCC SCC), ENERG (OR BGRIM SPRC PTT), AGRI (STA NER) และ ETRON (KCE HANA) ทั้งนี้พบว่า มี 41 บจ. กำไรสุทธิดีกว่าตลาดคาด (29.7%), 44 บจ. กำไรสุทธิต่ำกว่าตลาดคาด (31.9%) และ 53 บจ. กำไรสุทธิใกล้เคียงตลาดคาด (38.4%)

  • ผลประกอบการ 3Q24 ของ 197 บจ. ใน mai : รายได้รวม (~5.24 หมื่นลบ.) ขยายตัว 4.1%YoY และ 1.2%QoQ ส่วนกำไรสุทธิ (~931 ลบ.) หดตัว 63.2%YoY และ 40.2%QoQ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำไรขยายตัวสูงสุด YoY นำโดย RESOURC และ SERVICE ขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่กำไรหดตัวสูงสุด YoY คือ FINCIAL INDUS AGRO CONSUMP PROPCON และ TECH

  • มุมมองของเราต่อแนวโน้มผลประกอบการ 4Q24 : ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการค้าระหว่างประเทศหลังนาย โดนัล ทรัมป์เป็นผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ เราแนะนำพิจารณาลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยหนุนการเติบโตที่แน่นอน เช่น ธุรกิจที่พึ่งพิงการดำเนินงานภายในประเทศเป็นหลัก (Domestic) ซึ่งยังมีอุปสงค์ที่เติบโตหรือมีปัจจัยบวกจากรัฐมีแผนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ซึ่งมองว่าจะสามารถทนทานต่อความผันผวนได้ เชิงกลยุทธ์การลงทุน เราเลือก คือ CPALL CRC AOT GULF TIDLOR CBG AU
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5