เลือกออมหุ้น DCA แบบไหนให้มีโอกาสทำกำไรสูง?

 

 

เหตุผลที่ควรเริ่มต้นลงทุนแบบ DCA ในปี 2024

 

การลงทุนแบบ DCA ย่อมาจาก Dollar Cost Averaging หมายถึงการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องด้วยจำนวนเงินที่เท่า ๆ กัน ทำให้นักลงทุนได้กำไรแบบถัวเฉลี่ย เป็นการฝึกฝนวินัยทางการลงทุนได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังมีโอกาสซื้อสินทรัพย์ได้ในราคาเฉลี่ยที่ถูกลงด้วย

 

และเหตุผลที่ทำให้การออมหุ้นด้วยวิธี DCA คือตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในปี 2024 ก็เพราะว่าตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในสภาวะที่อ่อนแอ นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น SET Index ปรับตัวลดลงถึง -16.3% ส่วน YTD หรือผลตอบแทนสะสมก็ต่ำเกินปัจจัยพื้นฐาน ราคาหุ้นจึงอยู่ในระดับ Undervalue หรือถูกเกินมูลค่าจริงมาก ซึ่งจากศึกษาของ InnovestX คาดการณ์ว่า SET Index จะยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง แต่ใน 12 เดือนข้างหน้ามีแนวโน้มที่จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จึงเป็นโอกาสดีที่จะเริ่มต้นซื้อหุ้นด้วยวิธี DCA เพราะความเสี่ยงน้อย หุ้นมีราคาถูก มีโอกาสทำกำไรในอนาคตค่อนข้างสูง

 

 

 

เช็กเกณฑ์การพิจารณา ลงทุนแบบ DCA เลือกออมหุ้นตัวไหนดี?

 

สำหรับนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสการทำกำไรในปี 2024 และต้องการซื้อหุ้นด้วยวิธี DCA แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกหุ้นตัวไหนดี เรามีคำแนะนำดี ๆ ที่ควรอ่านก่อนตัดสินใจเลือกหุ้นมาบอกกัน

 

● พื้นฐานกิจการดี มีสภาพคล่องทางการเงินสูง ทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ โดยสามารถพิจารณาได้จากผลประกอบการ และงบการเงินย้อนหลัง

 

● เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโต อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มที่ดีในอนาคต เช่น ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจ Wellness ธุรกิจการเงิน และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี

 

● ผู้บริหารมีศักยภาพและมีธรรมาภิบาลในการนำพาองค์กรให้เติบโตได้อย่างมั่นคง

 

● พิจารณาจาก ESG Rating เลือกบริษัทที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคมและบรรษัทภิบาล เป็นธุรกิจที่สร้างการเติบโตในระยะยาว ผลักดันด้านนวัตกรรม และเน้นความยั่งยืนเป็นหลัก

 

 

 

InnovestX แนะนำ 6 หุ้นน่าสนใจเพื่อการออมแบบ DCA

 

อยากออมหุ้น DCA แต่ไม่อยากเสียเวลาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง วันนี้ InnovestX มี 6 หุ้นน่าสนใจที่ตอบทุกโจทย์การลงทุนแบบ DCA มาแนะนำ ทั้งเรื่องราคา พื้นฐานธุรกิจ และ ESG Rating ที่อยู่ในระดับ AAA/AA แต่จะมีหุ้นตัวไหนอยู่ในช่วงราคา Undervalue และมีโอกาสทำกำไรได้สูงในปี 2024 บ้าง ไปติดตามกันเลย

 

 

หุ้น BBL

 

หุ้น BBL คือหุ้นของธนาคารกรุงเทพ เป็นธนาคารที่มีความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่น ๆ เพราะเน้นให้สินเชื่อกับลูกค้ากลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และมีงบดุลที่แข็งแกร่ง โดยมี LLR coverage (อัตราส่วนของปริมาณสินทรัพย์สภาพคล่อง) สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ 283% ซึ่งคาดว่าในปี 2024 กำไรของหุ้นตัวนี้จะเติบโตถึง 14% เลยทีเดียว

 

 

หุ้น BDMS

 

BDMS คือผู้ประกอบการโรงพยาบาลเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีโรงพยาบาลในเครือถึง 58 แห่ง รวมทั้งสิ้น 8,600 เตียง ให้บริการด้านการแพทย์ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกัน การรักษา และการฟื้นฟู คาดว่าในปี 2023 BDMS จะทำกำไรได้ถึง 1.4 หมื่นล้านบาท (+12% YoY) และในปี 2024 น่าจะมีกำไรสูงถึง 1.5 หมื่นล้านบาท (+8 YoY) จากผู้ใช้บริการชาวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงรายได้จากศูนย์ความเป็นเลิศและการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินและทรัพยากรที่มีอยู่ด้วย

 

 

หุ้น BEM

 

BEM เป็นบริษัทที่ได้รับสัมปทานทางด่วนเส้นหลักหลายสายในกรุงเทพฯ รวมทั้งรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินด้วย จึงมีความผันผวนต่ำ คาดว่าในปี 2024 ผลประกอบการจะเติบโตขึ้นถึง 27% คิดเป็นเงินประมาณ 4.5 พันล้านบาทจากปริมาณผู้ใช้ทางด่วนและรถไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น หากอยากออมหุ้นแบบ DCA หุ้น BEM ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

 

 

หุ้น CPALL

 

พูดถึง CPALL คงไม่มีนักลงทุนคนไหนไม่รู้จัก เพราะเป็นผู้นำในธุรกิจร้านสะดวกซื้อของประเทศไทย มีส่วนแบ่งในตลาดถึง 80% คาดว่าผลประกอบการปี 2024 จะเติบโต 22% YoY ซึ่งสูงกว่าอัตราการเติบโตเฉลี่ยของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกที่คาดว่าจะได้เพียง 16% YoY เท่านั้น โดยมีผลมาจากยอดขายและกำไรของร้านสะดวกซื้อ การกลับมาของนักท่องเที่ยว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และการรีไฟแนนซ์หนี้ของ CPAXT ที่สิ้นสุดลงแล้ว

 

 

หุ้น PTT

 

PTT คือผู้นำด้านธุรกิจพลังงานของประเทศไทยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ รวมทั้งยังกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า หรือธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งปัจจุบัน สถานีบริการน้ำมันของ PTT มีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 40% แม้ว่าราคาน้ำมันจะมีความผันผวน แต่ PTT ก็ยังคงรักษาระดับผลประกอบการได้ดี และมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งด้วยอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อผู้ถือหุ้นเพียง 0.46 เท่า

 

 

หุ้น SCC

 

ปิดท้ายด้วยหุ้น SCC ผู้นำในธุรกิจซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และเคมีภัณฑ์ในระดับภูมิภาค ASEAN คาดว่าในปี 2024 กำไรจะกลับมาฟื้นตัวได้ถึง 57% จากการฟื้นตัวของธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจ Packaging และต้นทุนพลังงานถ่านหินที่ลดลง นอกจากนี้ ในครึ่งปีหลังของปี 2024 Chemical Spread ยังมีโอกาสจะกลับมาสร้างกำไรได้อีกครั้ง การออมหุ้น SCC ด้วยกลยุทธ์ DCA ในตอนนี้ จึงมีราคาที่ต่ำกว่า Back Value ในรอบ 5 ปี จึงถือเป็นนาทีทองของนักลงทุนอย่างแท้จริง

 

 

 

อยากเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อเทรดหุ้นออนไลน์และออมหุ้นแบบ DCA เลือกแอป InnovestX ให้คุณลงทุนในทุกสินรัพย์ได้อย่างง่ายดายในแอปเดียว พร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ ทั้งระบบบริหารพอร์ตและบทวิเคราะห์ดี ๆ จากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนตัวจริง เพราะที่ InnovestX เราเข้าใจเรื่องการลงทุนเพื่อทุกคน ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android

 

 

คำเตือน * การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน