เคยสงสัยไหมว่าบริษัทไหนในประเทศไทยที่มีมูลค่ามากที่สุด ?
และเคยสงสัยไหมว่าบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในไทยทำธุรกิจอะไร ถึงสามารถก้าวขึ้นมาเป็นยักษ์ใหญ่ในตลาดหุ้นได้ ?
สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้น เชื่อว่านักลงทุนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับการลงทุนในบริษัทที่มีมูลค่าธุรกิจสูง เนื่องจากสะท้อนถึงความมั่นคงและความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่จะมีแต่ขาขึ้นเสมอไป ดังนั้น การได้ทราบรายละเอียดว่าบริษัทเหล่านั้นทำธุรกิจอะไรบ้างจึงเป็นข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถวิเคราะห์และใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลือกหุ้นไทยน่าลงทุนได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ เราจึงจะพาไปทำความรู้จักกับ 5 บริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุดในประเทศไทย พร้อมสำรวจว่าธุรกิจหลักของพวกเขาเป็นอย่างไร และมีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกในภาพรวม
เชื่อว่าหลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในไทยตามมูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (Market Cap) คือ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือชื่อหุ้นว่า DELTA โดยบริษัทนี้ถือเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีระดับโลก โดยเฉพาะในด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการจัดการพลังงานไฟฟ้า ธุรกิจหลักของ DELTA ครอบคลุมถึงการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เช่น Power Management Solutions ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานในเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายประเภท
อีกทั้ง DELTA ยังเป็นผู้ผลิต DC Fan (พัดลมระบายความร้อน) ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ โดยพัดลมเหล่านี้จะถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุปกรณ์ ตั้งแต่คอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงระบบระบายความร้อนในยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีการผลิต EMI ฟิลเตอร์ และ โซลินอยด์ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์ที่ต้องการลดการรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ด้วยฐานการผลิตที่กระจายอยู่ใน เอเชีย ยุโรป และอเมริกาใต้ DELTA จึงสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดโลกได้อย่างยอดเยี่ยม และยังได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ - 1,896,020.05 ล้านบาท
⦁ P/E - 88.21 เท่า
⦁ P/BV - 24.56 เท่า
ข้อมูล ณ วันที่ 02 ธ.ค. 2567
เมื่อนึกถึงหุ้นไทยน่าซื้อที่อยู่คู่กับตลาดหลักทรัพย์มาอย่างยาวนาน และทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี คงจะต้องนึกถึง PTT หรือ ปตท. ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีบทบาทสำคัญในภาคพลังงานของประเทศไทย และยังขยายธุรกิจสู่ระดับโลกอีกด้วย การดำเนินธุรกิจของ PTT ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ เช่น การสำรวจ การผลิต การขนส่ง และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลังงาน
ธุรกิจหลักของ PTT ได้แก่ ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ซึ่งครอบคลุมการจัดหา การผลิต และการขนส่งก๊าซธรรมชาติผ่านระบบท่อส่งก๊าซที่ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึง ธุรกิจน้ำมันและค้าปลีก ที่คนไทยรู้จักกันดีผ่านสถานีบริการ PTT Station ที่มีเครือข่ายกว้างขวางที่สุดในประเทศไทย
นอกจากนี้ ปตท. ยังดำเนินธุรกิจในด้านปิโตรเคมีและการกลั่น โดยผลิตวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ รวมถึงขยายธุรกิจสู่พลังงานหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนความยั่งยืนในระยะยาว เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Station)
ด้วยการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่และโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับเศรษฐกิจอนาคต PTT จึงเป็นหุ้นไทยน่าลงทุนในระยะยาว และมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไทย
⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ - 921,156.63 ล้านบาท
⦁ P/E - 8.11 เท่า
⦁ P/BV - 0.82 เท่า
ข้อมูล ณ วันที่ 02 ธ.ค. 2567
เหตุผลที่ทำให้ AOT หรือ ทอท. เป็นอีกหนึ่งหุ้นไทยน่าซื้อ คือการที่หุ้นนี้เป็นผู้ให้บริการด้านการบริหารจัดการท่าอากาศยานในประเทศไทยที่สำคัญที่สุด บริษัทนี้มีหน้าที่รับผิดชอบการดำเนินงานของท่าอากาศยาน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่
บทบาทหลักของ AOT คือการพัฒนาและบริหารจัดการท่าอากาศยานให้เป็นศูนย์กลางการเดินทางในระดับภูมิภาคและระดับโลก โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่ถือเป็นศูนย์กลางการบินของประเทศไทย นอกจากนี้ AOT ยังมีโครงการขยายโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น การขยายอาคารผู้โดยสารใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการ
⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ - 882,141.98 ล้านบาท
⦁ P/E - 45.99 เท่า
⦁ P/BV - 7.10 เท่า
ข้อมูล ณ วันที่ 02 ธ.ค. 2567
เมื่อพูดชื่อหุ้น ADVANC หลายคนอาจจะยังขมวดคิ้ว แต่ถ้าบอกว่าหุ้นนี้คือ AIS เชื่อว่าทุกคนต้องร้องอ๋อแน่นอน เพราะ ADVANC หรือ AIS คือผู้นำในธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศไทย โดยมุ่งเน้นการให้บริการด้านเครือข่ายการสื่อสารและดิจิทัลโซลูชัน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศด้วยเทคโนโลยี 5G และยังเป็นผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ภายใต้แบรนด์ AIS Fibre ที่ได้รับความนิยมจากครัวเรือนทั่วประเทศ
นอกจากนี้ AIS ยังขยายธุรกิจสู่ด้านดิจิทัล เช่น การพัฒนา IoT (Internet of Things) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร รวมถึงโซลูชันทางดิจิทัลที่ช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจดิจิทัล
ด้วยการลงทุนในโครงข่ายและเทคโนโลยี AIS จึงเป็นอีกหนึ่งหุ้นไทยน่าลงทุนในระยะยาว จากการที่บริษัทช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของประเทศไทยทั้งในอดีตสู่อนาคต
⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ - 850,623.98 ล้านบาท
⦁ P/E - 25.92 เท่า
⦁ P/BV - 9.65 เท่า
ข้อมูล ณ วันที่ 02 ธ.ค. 2567
ถ้าพูดถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศ และเป็นหุ้นไทยน่าซื้อ คงไม่พูดถึงบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF คงไม่ได้ เพราะนี่คือบริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในหลากหลายธุรกิจ โดยมุ่งเน้นใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค และธุรกิจดิจิทัล
ในด้านธุรกิจพลังงาน GULF เป็นหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าชั้นนำของประเทศไทย โดยมีการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม บริษัทมีโรงไฟฟ้าที่ให้บริการทั้งภาครัฐ เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และภาคเอกชน ซึ่งโครงการเหล่านี้ช่วยสนับสนุนความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศและส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างยั่งยืน
ขณะที่ด้านธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค GULF ก็มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาโครงการที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งและการบริหารจัดการทรัพยากร เช่น การลงทุนในมอเตอร์เวย์เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าและการเดินทางที่เพิ่มขึ้น รวมถึงโครงการพัฒนาท่าเรือที่ช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศ
สุดท้ายคือด้านธุรกิจดิจิทัล ที่ GULF มุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เช่น บล็อกเชน (Blockchain) และระบบการจัดการพลังงานอัจฉริยะ รวมถึงการพัฒนาระบบที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลไฟแนนซ์ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นในยุคดิจิทัล
⦁ มูลค่าบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ - 718,655.44 ล้านบาท
⦁ P/E - 37.76 เท่า
⦁ P/BV - 6.07 เท่า
ข้อมูล ณ วันที่ 02 ธ.ค. 2567
สำหรับใครที่สนใจลงทุนหุ้นของ 5 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในไทยเหล่านี้ รวมถึงหุ้นไทยน่าซื้อตัวอื่น ๆ ในตลาดหุ้นไทย สามารถศึกษาและลงทุนได้ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ที่เรียกได้ว่ารวมจักรวาลการลงทุนมาอยู่ในมือคุณ ซื้อได้หลากหลายประเภท สามารถเลือกลงทุนได้ตามใจ พิชิตเป้าหมายทางการเงินได้อย่างที่ตั้งใจ เริ่มเปิดพอร์ตหุ้นออนไลน์แล้วลงทุนกับ InnovestX ได้แล้ววันนี้ แอปเดียวครบทุกจักรวาลการลงทุน ดาวน์โหลดได้ฟรีทั้งระบบ iOS และ Android การลงทุนมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุนเลยอาจเสี่ยงยิ่งกว่า เริ่มลงทุนวันนี้เลย
คำเตือน
*การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศโดยตรงมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
ข้อมูลอ้างอิง:
⦁ Largest companies in Thailand by market cap. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2567 จาก https://companiesmarketcap.com/thailand/largest-companies-in-thailand-by-market-cap/