สำหรับใครที่เริ่มสนใจลงทุน คำแรก ๆ ที่มักจะได้ยินคือ “กองทุนรวม”
แต่หลายคนก็ยังงงว่า… จริง ๆ แล้วกองทุนรวมคืออะไร ลงทุนไปแล้วจะได้อะไร และเหมาะกับมือใหม่จริงหรือเปล่า?
วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจ “กองทุนรวม 101” กันแบบง่าย ๆ พร้อมกับเหตุผล 5 ข้อว่าทำไมกองทุนรวมถึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับนักลงทุนมือใหม่
กองทุนรวม คือ การที่นักลงทุนหลาย ๆ คนเอาเงินมารวมกัน แล้วให้ บริษัทจัดการกองทุน (บลจ.) นำไปลงทุนแทนเรา ไม่ว่าจะเป็นหุ้น พันธบัตร ทองคำ หรือแม้แต่กองทุนต่างประเทศ
พูดง่าย ๆ คือ:
คุณในฐานะผู้โดยสาร ไม่ต้องมานั่งจับพวงมาลัยเอง แต่ก็ยังได้ “ส่วนแบ่งผลตอบแทน” ตามสัดส่วนเงินที่ลงทุนไป
นี่คือ 5 เหตุผลหลัก ที่ทำให้กองทุนรวมถูกมองว่าเป็น “ทางลัด” สำหรับผู้ที่เริ่มต้นลงทุนใหม่ ๆ
1️. มีผู้เชี่ยวชาญดูแล
2️. เริ่มต้นง่าย ใช้เงินไม่มาก
3️.กระจายความเสี่ยงอัตโนมัติ
4️.โปร่งใสและตรวจสอบได้
5️.เข้าถึงการลงทุนทั่วโลก
นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนหลัก ๆ 2 ทาง:
โดยทั่วไป กำไรจากการขายกองทุนรวมสำหรับบุคคลธรรมดา ไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้ามีการจ่ายปันผล จะถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10%
การทำความรู้จัก “ประเภทของกองทุน” ก่อนเริ่มต้นลงทุน จึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเลือกกองทุนที่เหมาะสม สอดคล้องกับสไตล์การลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของตนเอง
ซึ่งกองทุนรวมที่ขายในประเทศไทยแบ่งเป็น
8 ประเภทหลักๆ ตามระดับความเสี่ยง (Risk Spectrum) เรียงจากน้อยไปมาก
Source: Setinvestnow
ความเสี่ยงระดับที่ 1 กองทุนรวมตลาดเงินในประเทศ
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก ตั๋วเงิน รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี มีความเสี่ยงต่ำที่สุด เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง หรือผู้ที่ต้องการพักเงินในช่วงที่ผลตอบแทนไม่ดี
ตัวอย่างกองทุน: K-CASH
กองทุนรวมตลาดเงินที่ลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย หรือพันธบัตรที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งตราสารหนี้ที่กองทุนลงทุนจะต้องมีกำหนดวันชำระหนี้ไม่เกิน 397 วันนับแต่วันที่ลงทุน กองทุนจะคงอายุตราสารเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก (Portfolio Duration) ของกองทุนไม่เกิน 92 วัน
ความเสี่ยงระดับที่ 2 กองทุนรวมตลาดเงินต่างประเทศ
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในเงินฝาก ตั๋วเงิน รวมถึงตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี เหมือนกลุ่มแรก แต่อาจมีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วน จึงทำให้มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นมา แต่โดยปกติกองทุนประเภทนี้มักจะมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเอาไว้
ตัวอย่างกองทุน: K-MONEY
ลงทุนในเงินฝาก ตราสารหนี้ ธุรกรรมการเงิน และหรือตราสารการเงินอื่นใด ที่จะครบกำหนดชำระคืนไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันที่ลงทุน และอาจลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศไม่เกินร้อยละ 30 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยทำการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนตามความเหมาะสม
ความเสี่ยงระดับที่ 3 กองทุนรวมพันธบัตรรัฐบาล
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอายุเฉลี่ยมากกว่า 1 ปีขึ้นไป จึงมีความผันผวนมากกว่ากองทุนรวมตลาดเงิน
ตัวอย่างกองทุน: K-TREASURY
กองทุนมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะสั้น ความเสี่ยงต่ำ จากดอกเบี้ยและกำไรส่วนเกินทุน โดยลงทุนหลักในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ไม่ลงทุนในตราสารหนี้เอกชนหรือ Structured Notes ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากสถาบันการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง โดยคุมอายุเฉลี่ยพอร์ต (Duration) ไม่เกิน 1 ปี
ความเสี่ยงระดับที่ 4 กองทุนรวมตราสารหนี้
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เช่น พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ตั๋วเงินคลัง และหุ้นกู้เอกชน ซึ่งมีทั้งกองที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น (อายุเฉลี่ยไม่เกิน 1 ปี) และตราสารหนี้ระยะยาว (อายุเฉลี่ยมากกว่า 1 ปี) จึงเหมาะกับผู้ที่ลงทุนได้ทั้งระยะสั้น ระยะยาว และผู้ที่รับความเสี่ยงได้ไม่มาก คาดหวังผลตอบแทนที่แน่นอน สม่ำเสมอ รวมถึงผู้ที่ต้องการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน
ตัวอย่างกองทุน: KFSMART-A
กองทุนจะลงทุนในประเทศ หรือต่างประเทศ ในตราสารหนี้ และเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่ออกรับรอง รับอาวัล หรือค้ำประกันการจ่ายเงินโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน หรือภาคเอกชน ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
ความเสี่ยงระดับที่ 5 กองทุนรวมผสม
เป็นกองทุนที่สามารถลงทุนในสินทรัพย์อะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก ตราสารหนี้ หุ้น หรืออื่นๆ ซึ่งสัดส่วนการลงทุนจะลงทุนในอะไรมากกว่ากัน ก็ต้องไปดูในนโยบายการลงทุนของกองทุน เหมาะสำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงสูง และผู้ที่ไม่มีเวลาในการปรับสัดส่วนกองทุนหรือหุ้น หากตลาดมีความผันผวนมาก
ตัวอย่างกองทุน: K-GA-A(A) - กองทุนเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BGF Global Allocation Fund A2 USD (กองทุนหลัก) กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนต่างประเทศ
ความเสี่ยงระดับที่ 6 กองทุนรวมตราสารทุน
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลตอบแทนสูงและรับความเสี่ยงได้สูง หรือผู้ที่ชอบการลงทุนในหุ้น แต่ไม่มีเวลาบริหารการลงทุน
ตัวอย่างกองทุน: K-GSELECT
กองทุนจะลงทุนในกองทุน JPMorgan Global Select Equity ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุนอีทีเอฟที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ประเทศสหรัฐอเมริกา และมีนโยบายเน้นลงทุนในตราสารทุนของบริษัทในประเทศที่พัฒนาแล้วทั่วโลก
ความเสี่ยงระดับที่ 7 กองทุนรวมตามหมวดอุตสาหกรรม
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้น แต่เจาะจงอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น หุ้นธนาคาร หุ้นสื่อสาร หุ้นโรงพยาบาล ฯลฯ แต่กองทุนประเภทนี้จะมีความเสี่ยงสูงกว่ากองทุนรวมตราสารทุนทั่วไป เนื่องจากมีการลงทุนแบบกระจุกตัว จึงเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และมีความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมนั้นๆ อย่างดี
ตัวอย่างกองทุน: KT-ENERGY
กองทุนจะลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BGF World Energy Fund โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน โดยกองทุนหลักเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานทั่วโลก
ความเสี่ยงระดับที่ 8 กองทุนรวมทางเลือก
เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในทางเลือกอื่นๆ ที่นอกเหนือจากสินทรัพย์พื้นฐาน เช่น ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ เหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนโดยรวม แต่อาจต้องศึกษาและทำความเข้าใจรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับทางเลือกนั้นๆ มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างกองทุน: UOBSG – H
ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน “SPDR Gold Trust” ที่ลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินของกองทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำในตลาดโลกหักกับค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทุน และกองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
กองทุนรวมอาจไม่ใช่การลงทุนที่หวือหวาที่สุด แต่ถือเป็นเครื่องมือที่ตอบโจทย์มือใหม่ที่สุด เพราะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ง่ายและปลอดภัยกว่า
ถ้าคุณกำลังมองหาก้าวแรกในเส้นทางการลงทุน…
กองทุนรวมอาจเป็นคำตอบที่ง่าย ปลอดภัย และมั่นใจที่สุดสำหรับคุณ
คำเตือน: กองทุนรวมนี้มีลักษณะเฉพาะและความเสี่ยงเฉพาะ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะ เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงของกองทุนรวมก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่บล.อินโนเวสท์ เอกซ์