การที่ NVIDIA ประกาศลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ใน Intel เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2025 ไม่ใช่เพียงแค่ข่าวธุรกิจทั่วไป แต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะปรับโฉมภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐอเมริกาในระยะยาว
การปรับแนวร่วมในยุค AI
ความร่วมมือครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์สหรัฐฯ จากการแข่งขันแบบ zero-sum เป็นการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ NVIDIA ซึ่งเป็นผู้นำตลาด AI กำลังมองหาหุ้นส่วนที่สามารถช่วยขยายอำนาจและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาแหล่งผลิตเพียงหนึ่งเดียว ขณะที่ Intel ต้องการพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI เพื่อกู้คืนความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม
การเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 5 ของ NVIDIA ใน Intel ณ ราคา 23.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น ไม่ใช่แค่การลงทุนทางการเงิน แต่เป็นการส่งสัญญาณความมั่นใจต่อตลาดว่า Intel ยังคงมีศักยภาพในการฟื้นตัว การที่บริษัทที่มีมูลค่าตลาด 4.1 ล้านล้านดอลลาร์อย่าง NVIDIA เลือกที่จะลงทุนใน Intel แสดงให้เห็นว่าพวกเขามองเห็นโอกาสการเติบโตในระยะยาว
การลดพึ่งพา TSMC และการกระจายความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
ประเด็นหลักที่อยู่เบื้องหลังการลงทุนครั้งนี้คือการลดความเสี่ยงจากการพึ่งพา TSMC ที่ตั้งอยู่ในไต้หวัน NVIDIA ปัจจุบันพึ่งพาการผลิตจาก TSMC เกือบ 100% ซึ่งเป็นจุดเสี่ยงแบบ Single Point of Failure หากเกิดความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในเอเชีย การมี Intel เป็นตัวเลือกการผลิตสำรองในสหรัฐอเมริกาจะช่วยให้ NVIDIA รักษาความต่อเนื่องของธุรกิจได้
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันระหว่าง NVIDIA และ Intel ครอบคลุมทั้งในส่วนของ datacenter ที่ Intel จะสร้าง CPU x86 แบบกำหนดเองเพื่อให้ NVIDIA นำไปรวมในแพลตฟอร์ม AI infrastructure และในส่วนของ PC ที่ Intel จะพัฒนา system-on-chips (SOCs) x86 ที่รวม GPU chiplets ของ NVIDIA เข้าด้วยกัน การทำงานร่วมกันในระดับนี้จะสร้างผลิตภัณฑ์ที่ผสานจุดแข็งของทั้งสองบริษัทได้อย่างลงตัว
ผลกระทบต่อคู่แข่งและตลาด
AMD กลายเป็นบริษัทที่อาจได้รับผลกระทบเชิงลบจากความร่วมมือครั้งนี้มากที่สุด การที่ NVIDIA และ Intel รวมพลังกันจะทำให้ AMD ต้องเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันทั้งในตลาด enterprise server CPU และในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาด desktop ที่ AMD กำลังค่อย ๆ แย่งจาก Intel มา
ARM Holdings อาจจะได้รับผลกระทบทางอ้อมเช่นกัน เนื่องจากความร่วมมือระหว่าง NVIDIA และ Intel อาจทำให้การขยายตัวของ ARM ในตลาด datacenter ช้าลงกว่าที่คาดไว้ เมื่อนักลงทุนเริ่มเห็นว่าสถาปัตยกรรม x86 ยังคงมีความสำคัญในอนาคต
ในทางกลับกัน Synopsys ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้าน IP และเครื่องมือออกแบบชิป อาจจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของ Intel เพราะจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนของลูกค้ารายสำคัญ และอาจนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของการสั่งซื้อบริการและเครื่องมือต่าง ๆ
การเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทาน
ผู้ชนะที่น่าจะชัดเจนที่สุดคือ ASML ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องจักร EUV lithography เพียงรายเดียวในโลก การที่ Intel ได้รับเงินลงทุนและความมั่นใจใหม่ จะทำให้พวกเขาเร่งการสร้างโรงงานและสั่งซื้อเครื่องจักรขั้นสูงมากขึ้น ขณะเดียวกัน TSMC ก็จะต้องเร่งลงทุนเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน การแข่งขันระหว่างสอง foundry ยักษ์ใหญ่นี้จะสร้างความต้องการเครื่องจักรจาก ASML เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัทผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์อย่าง Super Micro Computer (SMCI) อาจจะได้ประโยชน์จากการที่มีแหล่งจัดหาชิปที่หลากหลายมากขึ้น และจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่เป็นผลมาจากความร่วมมือระหว่าง NVIDIA และ Intel
โอกาสสำหรับนักลงทุน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สร้างโอกาสการลงทุนในหลายมิติ โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทที่จะได้รับประโยชน์จาก AI infrastructure ที่กำลังขยายตัว NVIDIA เอง ก็จะได้ประโยชน์จากการมีตัวเลือกการผลิตที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ
Intel ที่กำลังได้รับการสนับสนุนจากทั้ง NVIDIA และ CHIPS Act ของรัฐบาลสหรัฐฯ มีโอกาสฟื้นตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ หากสามารถปฏิบัติตามแผนการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีได้สำเร็จ
ASML ยังคงเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ เนื่องจากไม่ว่าใครจะเป็นผู้ชนะในสงครามชิป บริษัทนี้จะได้ประโยชน์จากความต้องการเครื่องจักรที่เพิ่มขึ้น
สำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI ecosystem อย่าง Synopsys หรือบริษัทผู้ผลิตเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ ก็น่าจะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของตลาด AI ที่เร็วขึ้น
การมองในระยะยาว
ความร่วมมือระหว่าง NVIDIA และ Intel อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมในวงกว้าง ที่มองจากการแข่งขันเป็นรายบริษัท เปลี่ยนเป็นการแข่งขันเป็น ecosystem การที่ NVIDIA เข้าไปมีส่วนร่วมใน Intel อย่างลึกซึ้ง อาจเป็นการปูทางไปสู่การควบรวมกิจการในอนาคต หรือการสร้าง integrated ecosystem ที่แข็งแกร่งกว่าเดิมมาก
การลงทุนครั้งนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณต่อจีนว่าสหรัฐอเมริกากำลังเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอุตสaหกรรมเทคโนโลยีภายในประเทศ และลดการพึ่งพาแหล่งผลิตในเอเชีย ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับกลยุทธ์ของบริษัทเทคโนโลยีอื่น ๆ ในการกระจายความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์เพิ่มขึ้น
นักลงทุนที่สามารถมองเห็นและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้อย่างถูกต้อง จะสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในบริษัทที่จะได้รับประโยชน์โดยตรง หรือการเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในระยะยาว
💹 เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดโลก ผ่าน InnovestX
สนใจลงทุนหุ้นต่างประเทศ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย!
📱 ดาวโหลดและเปิดบัญชีกับ InnovestX คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
