Keyword
ลงทุนก้าวแรก

คู่มือลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม: เข้าใจง่าย ใช้งานได้จริง

By ดร.รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ|6 Aug 25 4:25 PM
Invest_Snack-38
สรุปสาระสำคัญ

หลักการลงทุนตามชะรีอะฮ์คืออะไร?

การลงทุนตามหลักศาสนาอิสลาม หรือที่เรียกว่าการลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ คือแนวทางการบริหารจัดการทรัพย์สินที่ยึดมั่นในข้อกำหนดทางศาสนาอย่างเคร่งครัด โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนโดยไม่ขัดต่อหลักการอิสลาม หลักการเหล่านี้มาจากแหล่งอ้างอิงสำคัญ 4 แหล่ง ได้แก่ คัมภีร์อัล-กุรอาน, คำสอนของท่านศาสดามูฮัมมัด (อัส-ซุนนะฮ์), มติเอกฉันท์ของนักวิชาการ (อัล-อิจญมา), และการเทียบเคียงกรณีใหม่ๆ กับหลักการเดิม (อัล-กิยาส)

หัวใจสำคัญของการลงทุนแบบนี้คือ การหลีกเลี่ยงสิ่งต้องห้าม (ฮารอม) อย่างชัดเจน ซึ่งได้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ เหล้า สุรา สิ่งมึนเมา, การพนัน, ธุรกิจบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่, อาวุธสงคราม, หรือผลิตภัณฑ์ที่มาจากสุกร นอกจากนี้ยังต้องหลีกเลี่ยงธุรกิจที่เกี่ยวกับดอกเบี้ย (ริบา) เช่น ธนาคารพาณิชย์และบริษัทเช่าซื้อต่างๆ

 

นอกจากธุรกิจแล้ว หลักชะรีอะฮ์ยังห้ามการทำธุรกรรมที่มีความไม่แน่นอนสูงเกินไป (Gharar) และการพนัน (Maisir) ตัวอย่างเช่น การลงทุนในอนุพันธ์ ฟิวเจอร์ส หรือออปชั่น ซึ่งไม่มีทรัพย์สินจริงรองรับ และมีความเสี่ยงในระดับที่ถือว่าเป็นการเสี่ยงโชค ดังนั้น การลงทุนควรมีทรัพย์สินรองรับจริง เช่น หุ้นของบริษัทที่มีธุรกิจจับต้องได้ หรืออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งแตกต่างจากการพนันที่อาศัยเพียงการเสี่ยงโชคเพื่อแสวงหาผลประโยชน์

 

ทำไมการลงทุนในหุ้นถึงไม่ถือเป็นการพนัน?

การลงทุนในหุ้นไม่ถือว่าเป็นการพนันในทัศนะของศาสนาอิสลาม เพราะการซื้อหุ้นคือการเข้าร่วมเป็นเจ้าของกิจการ (มุชารอกะฮ์) ในฐานะหุ้นส่วน เมื่อบริษัททำกำไร ผู้ถือหุ้นก็จะได้รับผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล (Dividend) และหากบริษัทมีผลประกอบการดี มูลค่าของหุ้นก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นสามารถขายหุ้นได้ในราคาที่สูงขึ้น (Capital Gain) ผลกำไรเหล่านี้มีที่มาจากการดำเนินธุรกิจจริง ไม่ใช่จากการเสี่ยงโชคหรือการพนัน ซึ่งหลักการนี้สอดคล้องกับแนวคิดที่ว่า "ไม่มีกำไรหากไม่มีความเสี่ยง" (Al-ghunm bil-ghurm) 

 

กระบวนการคัดกรองหุ้นตามหลักชะรีอะฮ์

หุ้นฮาลาล คือหุ้นที่สามารถลงทุนได้ตามหลักศาสนาอิสลาม โดยบริษัทเหล่านั้นจะถูกกลั่นกรองโดยคณะกรรมการชะรีอะฮ์ ซึ่งจะพิจารณาจากเกณฑ์สากลอย่าง SC MALAYSIA หรือ FTSE SET Shariah กระบวนการนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ:

  • การคัดกรองทางธุรกิจ: ตรวจสอบว่าบริษัทมีรายได้หลักไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจต้องห้าม เช่น การพนัน สุรา ดอกเบี้ย ธุรกิจบันเทิง และผลิตภัณฑ์ที่มาจากสุกร เลือดสัตว์ หรือสิ่งน่ารังเกียจ (นะยิส)
  • การคัดกรองทางการเงิน: ตรวจสอบงบการเงินเพื่อดูว่าบริษัทมีหนี้สินที่มีดอกเบี้ยสูงเกินไปหรือไม่ ซึ่งมักมีเกณฑ์กำหนดไว้เป็นสัดส่วนของมูลค่าตลาด

หากบริษัทใดไม่ผ่านเกณฑ์ คณะกรรมการชะรีอะฮ์ก็จะเพิกถอนการรับรอง และหุ้นนั้นจะกลายเป็นหุ้นที่ไม่ฮาลาลทันที

 

การลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ในประเทศไทย

แม้ในประเทศไทยการลงทุนแบบนี้จะมีทางเลือกจำกัดเมื่อเทียบกับต่างประเทศ แต่ก็เริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้น นักลงทุนสามารถเริ่มต้นได้จาก:

  • หุ้นไทย: แม้จะไม่มีดัชนีชะรีอะฮ์อย่างเป็นทางการ แต่นักลงทุนสามารถคัดกรองหุ้นด้วยตนเองโดยการตรวจสอบธุรกิจหลักและงบการเงิน โดยต้องศึกษาว่าธุรกิจหลักของบริษัทไม่มีความเกี่ยวข้องกับสิ่งต้องห้าม และมีรายได้จากแหล่งเหล่านี้ในสัดส่วนที่ต่ำมาก หรือไม่มีเลย รวมถึงตรวจสอบระดับหนี้สินในงบการเงินด้วย ตัวอย่างกลุ่มธุรกิจที่มักจะผ่านเกณฑ์เบื้องต้น ได้แก่ กลุ่มโรงพยาบาล สื่อสาร ค้าปลีก และพลังงาน ทั้งนี้ ควรตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อยืนยันว่าบริษัทนั้นไม่มีรายได้จากธุรกิจต้องห้ามในสัดส่วนที่เกินเกณฑ์
  • กองทุนรวมอิสลาม: เป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด เนื่องจากมีผู้จัดการกองทุนและคณะกรรมการชะรีอะฮ์ดูแลการคัดกรองให้เรียบร้อยแล้ว เช่น กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอิสลามิกหุ้นระยะยาว ชนิดเพื่อการลงทุน (MIFMF) ลงทุนในหุ้นไทยที่ผ่านเกณฎ์การคัดเลือกตามหลักศาสนาอิสลาม
  • ตราสาร Sukuk: เป็นเครื่องมือทางการเงินที่คล้ายหุ้นกู้แต่ไม่มีดอกเบี้ย ผลตอบแทนจะมาจากรายได้ที่เกิดจากสินทรัพย์จริงแทนการจ่ายดอกเบี้ย ในประเทศไทย ตราสารศุกูกสำหรับนักลงทุนรายย่อยมักจะอยู่ในรูปแบบของกองทุนรวม เช่น กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี โกลบอล ศุกูก (M-SUKUK) ของ บลจ. เอ็มเอฟซี ซึ่งมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลักที่ไปลงทุนในตราสารศุกูกทั่วโลก ช่องทางการซื้อจึงสามารถทำได้ผ่านบริษัทจัดการกองทุนโดยตรง หรือผ่านตัวแทนขายกองทุนรวม เช่น บริษัทหลักทรัพย์ หรือแพลตฟอร์มการลงทุนต่างๆ

 

โอกาสการลงทุนในต่างประเทศ

ตลาดต่างประเทศมีทางเลือกที่กว้างขวางกว่า โดยเฉพาะในประเทศมุสลิมที่มีตลาดหลักทรัพย์รองรับการลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์ เช่น มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ซาอุดีอาระเบีย, ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

  • กองทุน ETF ที่สอดคล้องกับหลักชะรีอะฮ์: เป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสูง เช่น SPUS (SP Funds S&P 500 Sharia Industry Exclusions ETF) และ HLAL (Wahed FTSE USA Shariah ETF)
  • SPUS (SP Funds S&P 500 Sharia Industry Exclusions ETF) และ HLAL (Wahed FTSE USA Shariah ETF) ถือเป็นสองตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด แม้ทั้งสองกองทุนจะมุ่งเน้นการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตามหลักชะรีอะฮ์เช่นเดียวกัน แต่ก็มีข้อแตกต่างที่สำคัญหลายประการ SPUS ติดตามดัชนี S&P 500 Sharia Industry Exclusions Index ซึ่งมุ่งเน้นหุ้นขนาดใหญ่ (Large-cap) เป็นหลัก เช่น NVIDIA, Microsoft, Apple, Broadcom และ Alphabet (Google) 
  • ในขณะที่ HLAL ติดตามดัชนี FTSE USA Shariah Index ซึ่งครอบคลุมทั้งหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง (Mid-cap) ในพอร์ตโฟลิโอ เช่น Microsoft, Apple, Meta, Alphabet (Google), Tesla และ Exxon Mobil ในด้านการจัดสรรสินทรัพย์ ทั้งสองกองทุนมีสัดส่วนในกลุ่มเทคโนโลยีสูงใกล้เคียงกัน โดย SPUS มีสัดส่วน 45.76% และ HLAL มี 42.81% อย่างไรก็ตาม HLAL มีการกระจายความเสี่ยงในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้ดีกว่าเล็กน้อย ซึ่งจะเห็นได้ว่าหุ้นส่วนใหญ่ในทั้งสองกองทุนเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่ผ่านการคัดกรองตามหลักศาสนาอิสลาม
  • การเข้าถึง: นักลงทุนไทยสามารถเข้าถึงกองทุนเหล่านี้ได้โดยการเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ต่างประเทศกับบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศไทยที่ให้บริการ รวมถึง InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม  SCBX เครือเดียวกับธนาคารไทยพาณิชย์  

ทั้งนี้ การลงทุนใน ETF หรือกองทุนชะรีอะฮ์จากต่างประเทศแม้จะเปิดโอกาสกว้าง แต่ก็มีข้อควรระวัง เช่น ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอาจทำให้ผลตอบแทนผันผวนได้มากกว่าที่คาด และค่าธรรมเนียมของกองทุนบางแห่งอาจสูงกว่าปกติ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบและรับรองโดยคณะกรรมการชะรีอะฮ์ จึงควรศึกษารายละเอียดของแต่ละกองทุนให้ดี รวมถึงวางแผนเรื่องระยะเวลาการลงทุน การบริหารความเสี่ยง และติดตามข้อมูลอัปเดตจากแหล่งที่เชื่อถือได้อยู่เสมอ


 

สรุปทางเลือกการลงทุนสำหรับมือใหม่

สำหรับผู้ที่เริ่มต้นศึกษาการลงทุนตามหลักศาสนาอิสลามและต้องการเริ่มต้นอย่างถูกหลักการ ควรพิจารณาจากทางเลือกดังนี้:

  1. ทำความเข้าใจหลักการพื้นฐาน: ศึกษาว่าอะไรคือ "ฮาลาล" และ "ฮารอม" ในการลงทุน เพื่อให้คุณสามารถประเมินสินทรัพย์ด้วยตนเองได้ในระดับหนึ่ง
  2. เริ่มต้นจากกองทุนรวมอิสลามในประเทศ: นี่คือทางเลือกที่ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านอิสลามิกไฟแนนซ์คัดกรองและบริหารจัดการให้คุณแล้ว คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนในไทยได้
  3. พิจารณาลงทุนใน ETF ชะรีอะฮ์จากต่างประเทศ: หากต้องการกระจายความเสี่ยงและมีโอกาสเติบโตที่หลากหลายมากขึ้น การลงทุนใน ETF ต่างประเทศเป็นทางเลือกที่ดี แต่ควรเตรียมพร้อมสำหรับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน
  4. ศึกษาการคัดกรองหุ้นด้วยตนเอง: เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น คุณสามารถเริ่มศึกษาการคัดกรองหุ้นไทยที่เข้าเกณฑ์ชะรีอะฮ์ เพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น

สิ่งสำคัญที่สุดคือการแสวงหาความมั่งคั่งต้องอยู่บนพื้นฐานของชะรีอะฮ์ ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่น และไม่ละเมิดบทบัญญัติของศาสนา การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไม่ถือเป็นสิ่งต้องห้าม แต่ต้องเลือกหุ้นที่ฮาลาลและอยู่ภายใต้หลักการศาสนาอย่างเคร่งครัด

 

ดาวน์โหลดและเปิดบัญชีกับ InnovestX ลงทุนได้ 23 ประเทศ 31 ตลาด

https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน

 

 

Author
DR RHATSARUN TANAPAISANKIT
ดร.รัฐศรัณย์ ธนไพศาลกิจ

Head of Investment Strategy & Trading Product Specialist

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5