Coinbase กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมการเงินด้วยเทคโนโลยี Blockchain ที่ทรงพลัง ในฐานะบริษัทคริปโตเคอร์เรนซีชั้นนำที่ได้รับการบรรจุเข้าดัชนี S&P 500 สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้วงการด้วยการเติบโตอย่างก้าวกระโดด นักวิเคราะห์ชั้นนำจาก Goldman Sachs และ JPMorgan ต่างยอมรับว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของการผลักดันอุตสาหกรรมคริปโตให้เข้าสู่กระแสหลัก ซึ่งนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสนี้มีแนวโน้มจะได้รับผลตอบแทนที่น่าสนใจในอนาคต
Coinbase ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 โดย Brian Armstrong และ Fred Ehrsam โดยเริ่มต้นเป็นเพียงแพลตฟอร์มซื้อขาย Bitcoin ที่เรียบง่าย ก่อนจะพัฒนากลายเป็นแพลตฟอร์มครบวงจรที่ให้บริการทั้งการซื้อขาย เก็บรักษา และใช้สินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลาย
ปัจจุบัน Coinbase มีผู้ใช้งานกระจายอยู่ทั่วโลกกว่า 100 ประเทศ ด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มมูลค่ามหาศาล บริษัทมีผลิตภัณฑ์และบริการหลัก 3 กลุ่มที่สร้างรายได้ ได้แก่:
Coinbase Exchange (60% ของรายได้) - แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และเชื่อถือได้สำหรับนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
Coinbase Prime (25% ของรายได้) - บริการครบวงจรสำหรับนักลงทุนสถาบันและองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการเข้าถึงตลาดคริปโตแบบมืออาชีพ ด้วยเครื่องมือการเทรดขั้นสูง ระบบคัสโตเดียน และสภาพคล่องที่เหนือกว่า
บริการและผลิตภัณฑ์อื่นๆ (15% ของรายได้) - บริการเสริมต่างๆ เช่น Coinbase Cloud, Coinbase Card, บริการ staking และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง USDC stablecoin ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว
Coinbase วางกลยุทธ์การเติบโตที่แข็งแกร่งผ่านการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยมีจุดแข็งที่โดดเด่นหลายประการ:
ความน่าเชื่อถือและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ - ในขณะที่ผู้ให้บริการคริปโตหลายรายประสบปัญหาด้านกฎหมาย Coinbase ยึดมั่นในการปฏิบัติตามกฎระเบียบและได้รับใบอนุญาตที่จำเป็นในตลาดสำคัญทั่วโลก ทำให้ได้รับความไว้วางใจจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
การขยายบริการสู่นวัตกรรมใหม่ - Coinbase ไม่หยุดนิ่งเพียงการเป็นแพลตฟอร์มซื้อขาย แต่ยังขยายบริการครอบคลุมทั้ง staking, lending, และฟีเจอร์ DeFi ผ่าน Layer 2 blockchain ที่เรียกว่า Base ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบ
การเป็นพันธมิตรกับองค์กรชั้นนำระดับโลก - บริษัทร่วมมือกับสถาบันการเงินและองค์กรชั้นนำทั่วโลก รวมถึงผู้ออกกองทุน ETF คริปโตที่ได้รับการอนุมัติจาก SEC ทำให้มีเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่ง
การพัฒนาบริการ USDC - การร่วมมือกับ Circle ในการพัฒนา USDC ซึ่งเป็น stablecoin สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ได้รับการยอมรับ ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว สร้างรายได้ประจำที่มีความมั่นคงให้กับบริษัท
ล่าสุด Coinbase ประกาศเข้าซื้อกิจการ Deribit ด้วยมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดอนุพันธ์คริปโตด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 75% ในตลาดตราสารสิทธิ (options) ระดับโลก การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของ Coinbase ในตลาดต่างประเทศและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์การเทรด
เมื่อเทียบกับคู่แข่งสำคัญในอุตสาหกรรม Coinbase มีข้อได้เปรียบและจุดเด่นที่แตกต่าง:
เทียบกับ Binance - Binance เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตระดับโลก เน้นตลาดเอเชียและบริการหลากหลาย เช่น เทรดอนุพันธ์และ DeFi ส่วน Coinbase เน้นตลาดสหรัฐฯ ให้บริการเทรด บริการ custody และร่วมพัฒนา USDC โดยมีมูลค่าตลาดราว $60 พันล้าน ขณะที่ Binance ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
เทียบกับบริษัทไทย - Bitkub เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชั้นนำในประเทศไทยที่เน้นบริการในตลาดท้องถิ่น โดยมีฐานลูกค้าในประเทศไทย ส่วน Gulf ได้ร่วมลงทุนกับ Binance ผ่าน Gulf Binance เพื่อขยายบริการสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศ โดยมุ่งเน้นตลาดไทยและเอเชีย
แม้ Coinbase จะเป็นผู้นำในธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และได้รับแรงสนับสนุนจากการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกด้านกฎระเบียบในสหรัฐฯ แต่เส้นทางข้างหน้ายังไม่ไร้ขวากหนาม ความผันผวนของตลาดคริปโตยังคงส่งผลโดยตรงต่อรายได้หลักจากค่าธรรมเนียมการซื้อขาย (transaction revenue) ซึ่งทำให้รายได้โดยรวมของบริษัทขึ้นอยู่กับภาวะตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกัน ความพยายามขยายตลาดไปยังธุรกิจอนุพันธ์ในสหรัฐฯ ยังต้องเผชิญกับกระบวนการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น CFTC และกฎเกณฑ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงในอนาคต นอกจากนี้ คู่แข่งรายใหญ่ ทั้งแพลตฟอร์มคริปโตและสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม ต่างเริ่มรุกตลาดด้วยผลิตภัณฑ์คล้ายกัน ซึ่งอาจกระทบต่อส่วนแบ่งตลาดของ Coinbase ได้ในระยะยาว
Coinbase กำลังสร้างภาพลักษณ์ใหม่ในฐานะโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบการเงินยุค Web3 ไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มซื้อขายอีกต่อไป การเข้าดัชนี S&P 500 ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของการยอมรับจากตลาดทุน แต่ยังเปิดประตูสู่เม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนสถาบันทั่วโลก บริษัทกำลังเร่งขยายธุรกิจด้าน Stablecoin ผ่านความร่วมมือกับ Circle และ Binance โดย USDC กลายเป็นแกนหลักที่สร้างรายได้ประจำ พร้อมทั้งต่อยอดด้วยบริการ Custody, Lending, และ B2B Payments นอกจากนี้ การเข้าซื้อ Deribit ทำให้ Coinbase ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอนุพันธ์คริปโตระดับโลก ขณะที่กลยุทธ์ “Crypto as a Service” ช่วยเปลี่ยนคู่แข่งหลายรายให้กลายเป็นลูกค้าใน ecosystem ของตัวเอง ซึ่งหากเดินเกมต่อเนื่องได้ดี จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตในอีกหลายปีข้างหน้า
📱 สนใจลงทุนในหุ้น Coinbase (COIN) และหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ จากทั่วโลกได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ที่ให้คุณเข้าถึงการลงทุนระดับโลกได้แบบไร้ขีดจำกัด สนใจเปิดบัญชีลงทุน คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน