FPT Corporation (FPT) บริษัทเทคโนโลยีข้อมูลและการสื่อสารชั้นนำของเวียดนามที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เวียดนาม (Ho Chi Minh Stock Exchange) กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการเทคโนโลยีโลก ด้วยการประกาศให้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เป็นเสาหลักทางยุทธศาสตร์สำคัญที่สุด และผลักดันให้เวียดนามกลายเป็นผู้นำด้าน AI ในภูมิภาคเอเชีย บริษัทที่เริ่มต้นจากทีมนักวิทยาศาสตร์เพียง 13 คน กลับเติบโตเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีพันธมิตรระดับโลกอย่าง Silvaco (ผู้นำด้านซอฟต์แวร์ออกแบบและจำลองชิป) และ TreSemi (องค์กรฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญ Semiconductors จากสหรัฐฯ) มาร่วมมือ พร้อมได้รับใบสั่งซื้อชิปถึง 70 ล้านหน่วย สะท้อนศักยภาพในการแข่งขันระดับสากล
FPT Corporation เริ่มต้นจากจุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์เวียดนามในปี 1986 เมื่อนโยบาย "Doi Moi" เปิดทางให้รูปแบบเศรษฐกิจใหม่และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของผู้ประกอบการ คุณ Truong Gia Binh ซึ่งทำงานอยู่ที่ Institute of Mechanics ภายใต้ Vietnam Academy of Science ได้ตัดสินใจก่อตั้งทีม "Heat and Substance Exchange" ด้วยความปรารถนาที่จะสร้างรายได้จำนวนมากในขณะที่ยังคงทำงานด้านวิทยาศาสตร์
FPT ก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในฤดูร้อนปี 1988 เพื่อดำเนินตามสัญญาจัดหาคอมพิวเตอร์ให้กับ Russian Academy of Sciences โดยได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเวียดนามในระดับกระทรวง ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณ Truong Gia Binh ได้พัฒนาความรู้และความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นับเป็นจุดเริ่มต้นของ FPT ที่มีสมาชิกเพียง 13 คน
ช่วงปี 1990 บริษัทเริ่มพัฒนาซอฟต์แวร์ประยุกต์สำหรับภาคเศรษฐกิจในอนาคต เช่น ธนาคารและโทรคมนาคม โดยมีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาในชีวิตจริง การเติบโตอย่างก้าวกระโดดเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมา โดยเฉพาะในปี 2022 ที่มีการเข้าซื้อกิจการสำคัญ 4 แห่ง ได้แก่ Intertec International (บริการ IT ในอเมริกา), Cardinal Peak (วิศวกรรม Internet of Things (IoT) และ Embedded ซึ่งเป็นการออกแบบและพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่ฝังอยู่ในอุปกรณ์ต่าง ๆ), AOSIS (ที่ปรึกษาระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการองค์กEcosystem ในยุโรป), และ Landing AI (AI ด้าน Computer Vision) เพื่อขยายขีดความสามารถและฐานลูกค้าในตลาดต่างประเทศ
FPT Corporation มีโครงสร้างรายได้ที่กระจายความเสี่ยงได้ดี โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
ธุรกิจให้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่เป็นแกนหลักของบริษัท ครอบคลุมการพัฒนาระบบ IT การให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี และบริการ Digital Transformation ทั้งในและต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง จากการเร่งตัวของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล ความต้องการใช้ AI, Cloud, Data และบริการ IT เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในญี่ปุ่น สหรัฐฯ และ APAC
ธุรกิจโทรคมนาคมผ่านเครือข่าย FPT Telecom ที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบรนด์ เคเบิลทีวี โซลูชันเครือข่ายองค์กร รวมถึงบริการ Data Center และ Cloud กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการขยายโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของเวียดนาม และความต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง บริการ Cloud และ Data Center ที่เพิ่มขึ้นในภาคธุรกิจ
ธุรกิจการศึกษาผ่านมหาวิทยาลัย FPT University และสถาบันการศึกษาต่างๆ ที่เน้นการผลิตบุคลากรด้านเทคโนโลยี กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตจากความต้องการบุคลากร IT ที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และการสนับสนุนจากภาครัฐในการยกระดับการศึกษาในด้านดิจิทัล
ธุรกิจอื่น ๆ และการลงทุน เช่น AI, Semiconductors และ Automotive Software แม้จะมีสัดส่วนรายได้เพียงเล็กน้อยในปัจจุบัน แต่กลุ่มนี้มีศักยภาพเติบโตสูง โดยเฉพาะจากกลยุทธ์ระยะยาวที่มุ่งพัฒนา AI เป็นเสาหลักยุทธศาสตร์ และการเข้าสู่ตลาด Semiconductors ซึ่งเป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่สำคัญในอนาคต
FPT Corporation มีกลยุทธ์การเติบโตที่ชัดเจนผ่านการลงทุนในเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยเฉพาะ AI ที่ถูกกำหนดให้เป็นเสาหลักทางยุทธศาสตร์สำคัญที่สุด บริษัทได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสร้างระบบนิเวศ AI ที่ล้ำสมัย พร้อมขยายไปยังสาขาอื่นๆ เช่น Semiconductors ยานยนต์ และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด
จุดแข็งหลักของ FPT คือการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระดับโลก โดยเฉพาะความร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Silvaco และ TreSemi ในภาค Semiconductors ที่นำไปสู่คำสั่งซื้อชิป 70 ล้านหน่วย นอกจากนี้ การก่อตั้ง FPT Automotive ยังแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวเข้าสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีศักยภาพสูง ด้วยการเชี่ยวชาญด้านบริการและผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์
การเข้าซื้อกิจการ 4 แห่งในปี 2022 (Intertec International, Cardinal Peak, AOSIS, และ Landing AI) เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยขยายขีดความสามารถและฐานลูกค้าในตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และภูมิภาคอื่นๆ ทำให้ FPT สามารถแข่งขันในระดับโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทียบกับ International Business Machines Corporation (IBM) ในสหรัฐอเมริกา:
IBM ก่อตั้งในสหรัฐฯ ปี 1911 เป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่เก่าแก่และทรงอิทธิพลที่สุดในโลก มีโครงสร้างธุรกิจที่ครอบคลุม Cloud, AI, Software และ Consulting โดยมุ่งเน้นลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ทั้ง FPT และ IBM เน้นการผลักดัน Digital Transformation ผ่านบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่ Cloud Computing, AI, Analytics, Business Automation จนถึงระบบ Core IT ทั้งคู่ยังพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เช่น IBM Watson และ FPT AI Platform ความแตกต่างสำคัญ คือ IBM และ FPT มีโมเดลธุรกิจที่แตกต่างกันตามบริบทการเติบโตและกลุ่มเป้าหมาย IBM เน้นโมเดลแบบผสานซอฟต์แวร์ อุปกรณ์ และบริการที่ปรึกษาในระดับองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ส่วน FPT ใช้โมเดล Global Delivery ที่เน้น IT Services และ Software Outsourcing
เทียบกับ MFEC Public Company Limited (MFEC): MFEC ก่อตั้งในประเทศไทยปี 1997 มีโครงสร้างธุรกิจที่ให้บริการด้านไอทีโซลูชันครบวงจรที่เชี่ยวชาญใน Digital Transformation, Cybersecurity, Cloud Services และ Software Development สำหรับองค์กรชั้นนำในประเทศ โดยมุ่งเน้นการเป็นพันธมิตรเทคโนโลยีกับลูกค้าองค์กร ทั้ง MFEC และ FPT มีจุดที่คล้ายกันในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีระดับองค์กรที่มุ่งตอบโจทย์การเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ และให้ความสำคัญกับการให้คำปรึกษา ออกแบบ และพัฒนาโซลูชันที่เชื่อมโยงระหว่างระบบดั้งเดิมกับเทคโนโลยีใหม่ เช่น AI, Cloud, และ Cybersecurity ความแตกต่างที่สำคัญ คือ MFEC เน้นให้บริการลูกค้าองค์กรในประเทศไทยเป็นหลัก ส่วน FPT ใช้โมเดล Global Delivery ที่ขยายบริการ IT Services และ Software Outsourcing ไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐฯ
แม้ว่า FPT จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ การแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีระดับโลกที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะจากบริษัทใหญ่อย่าง IBM, Accenture และ Infosys ที่มีทรัพยากรและประสบการณ์มากกว่า การพึ่งพาตลาดเวียดนามเป็นหลักทำให้มีความเสี่ยงจากปัจจัยเศรษฐกิจภายในประเทศ นอกจากนี้การลงทุนขนาดใหญ่ในเทคโนโลยีใหม่อย่าง AI และ Semiconductors ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก และมีความเสี่ยงในการสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนเวียดนาม (ดอง) กับสกุลเงินต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องบริหารจัดการอย่างรอบคอบ
FPT Corporation มีอนาคตที่สดใสด้วยการวางตำแหน่งตัวเองเป็นผู้นำด้าน AI ในภูมิภาคเอเชีย การประกาศภารกิจ "Building A Happier Future" สะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการสร้างคุณค่าให้กับสังคมผ่านเทคโนโลยี การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI และการสร้างระบบนิเวศที่ครบวงจรจะช่วยให้บริษัทสามารถแข่งขันกับผู้เล่นระดับโลกได้
การขยายธุรกิจไปยังสาขาใหม่อย่าง Semiconductors และยานยนต์ เปิดโอกาสการเติบโตในตลาดที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกจะช่วยเร่งการพัฒนาเทคโนโลยีและการเข้าถึงตลาดใหม่ นอกจากนี้ การเป็นผู้ผลิตบุคลากรด้านเทคโนโลยีผ่านระบบการศึกษาของตัวเอง ยังช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระยะยาว
สนใจลงทุนในหุ้น FPT Corporation (Ticker: FPT หรือ DR: FPTVN19) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b
คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน