Keyword
Company History

Siemens AG (SIEd.CHI) 178 ปีแห่งเทคโนโลยีจากเยอรมนี สู่ AI ผู้อยู่เบื้องหลัง BTS-MRT ของไทย

27 Jun 25 10:51 AM
Siemens AG (SIEd.CHI) 178 ปีแห่งเทคโนโลยีจากเยอรมนี สู่ AI ผู้อยู่เบื้องหลัง BTS-MRT ของไทย
สรุปสาระสำคัญ

Siemens AG (SIE.DE) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากประเทศเยอรมนีที่จดทะเบียนใน Frankfurt Stock Exchange (FSE) กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ในวงการอุตสาหกรรมโลกด้วยการเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและความยั่งยืน ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Altair Engineering และข้อตกลงในการซื้อ Dotmatics ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทแห่งนี้กำลังสร้าง Ecosystem AI และ Digital Twin ที่ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยพัฒนาไปจนถึงการผลิต ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและลดการปล่อยคาร์บอนได้ การลงทุนในหุ้น Siemens จึงไม่ได้เป็นเพียงการเก็งกำไรในระยะสั้น แต่เป็นการร่วมเดินทางกับบริษัทที่กำลังขับเคลื่อนการปฏิวัติอุตสาหกรรมสู่อนาคตที่ยั่งยืน

จากบริษัทโทรเลขสู่ผู้นำเทคโนโลยี

 

Siemens ก่อตั้งขึ้นในปี 1847 โดย Werner von Siemens และ Johann Halske ด้วยนวัตกรรม Pointer Telegraph ในกรุงเบอร์ลิน ในช่วงแรกบริษัทมุ่งเน้นการขยายเครือข่ายโทรเลขทั่วยุโรปและรัสเซีย และในปี 1866 ได้ก้าวสู่การเป็นผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมไฟฟ้าเมื่อค้นพบหลักการขดลวดนำไฟฟ้าเคลื่อนที่ตัดผ่านสนามแม่เหล็ก จะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟ้า หรือกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำขึ้นในขดลวดนั้น (Dynamo-Electric Principle)

 

ในปี 1903 การเปลี่ยนผ่านสำคัญเกิดขึ้น เมื่อรวมกิจการกับ Schuckert & Co ก่อตั้ง Siemens-Schuckertwerke และต่อมาในปี 1966 รวมบริษัทลูกสามแห่งเป็น Siemens AG หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง บริษัทฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและเริ่มพัฒนาไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ระบบอัตโนมัติ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน

 

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญมาถึงในช่วงทศวรรษ 1980 เมื่อ Siemens เปิดตัวโทรศัพท์ดิจิทัล (EWSD) และเริ่มโครงการ MEGA สำหรับชิปคอมพิวเตอร์ การซื้อกิจการ UGS ในปี 2007 ทำให้เข้าสู่ธุรกิจ Digital Factory และในปี 2018 ได้ปรับโครงสร้างตามแผน Vision 2020+ โดยแยกออกเป็น Siemens AG, Siemens Energy และ Siemens Healthineers

 

 

 โครงสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งและหลากหลาย

 

Siemens ดำเนินธุรกิจผ่านสามสายธุรกิจหลักที่สร้างรายได้แบบสมดุล ได้แก่

 

  1. Digital Industries - 37% ของรายได้รวม

ธุรกิจซอฟต์แวร์อุตสาหกรรมและระบบอัตโนมัติที่ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การจำลองการผลิต ไปจนถึงการผลิตจริง รวมถึงซอฟต์แวร์ PLM (Product Lifecycle Management) และ EDA (Electronic Design Automation) กลุ่มธุรกิจนี้มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการเข้าสู่ยุคดิจิทัลของอุตสาหกรรม และการนำ AI มาใช้ในกระบวนการผลิต

 

  1. Smart Infrastructure - 35% ของรายได้รวม

ธุรกิจระบบไฟฟ้าและอาคารอัจฉริยะ ครอบคลุมระบบจัดจำหน่ายไฟฟ้า ระบบอาคารอัจฉริยะ และโซลูชันด้านพลังงาน กลุ่มธุรกิจนี้ได้รับแรงหนุนจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดทั่วโลก

 

  1. Mobility - 28% ของรายได้รวม

 ธุรกิจขนส่งสินค้าหรือผู้โดยสารโดยรถไฟและโซลูชันการจราจร รวมถึงรถไฟฟ้า ระบบสัญญาณไฟจราจร และระบบรถไฟใต้ดิน กลุ่มธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานการขนส่งสาธารณะและการพัฒนาระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

 

asdfghh.png

 

กลยุทธ์การขับเคลื่อนนวัตกรรมและจุดแข็งเชิงแข่งขัน

 

Siemens วางกลยุทธ์ "ONE Tech Company" ที่มุ่งสร้าง Ecosystem แบบครบวงจรผ่านแพลตฟอร์ม Siemens Xcelerator ซึ่งรวมเทคโนโลยี Digital Twin, AI และ Industrial IoT เข้าด้วยกัน การซื้อกิจการ Altair และ Dotmatics เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์นี้ เพื่อขยายขีดความสามารถในการจำลองและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่

 

จุดแข็งหลักของ Siemens คือความเชี่ยวชาญในด้านการเชื่อมโลกความเป็นจริงเข้ากับโลกดิจิทัล ทำให้สามารถสร้างโซลูชันที่ช่วยลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทยังมีฐานลูกค้าที่หลากหลายและแพร่กระจายทั่วโลก ทำให้มีความมั่นคงในการสร้างรายได้

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่งในตลาดโลก

 

เมื่อเทียบกับ General Electric (GE) ในสหรัฐอเมริกา: General Electric ก่อตั้งในสหรัฐฯ ปี 1892 โดย Thomas Edison และพัฒนาเป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมระดับโลกที่มีความเชี่ยวชาญในด้านพลังงาน อากาศยาน และบริการด้านเทคโนโลยี ปัจจุบัน GE ได้ปรับโครงสร้างใหม่ โดยแยกธุรกิจออกเป็นบริษัทเฉพาะทาง เช่น GE Aerospace และ GE Vernova เพื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพในการ ทั้ง GE และ Siemens มีจุดร่วมในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีระดับโลกที่ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐาน โดยมีเป้าหมายคล้ายกันคือการสร้างนวัตกรรมที่ยั่งยืนและขยายตลาดผ่าน Smart Technology

โครงสร้างธุรกิจของทั้งสองแตกต่างกัน GE มุ่งเน้นการปรับโฟกัสและ Spin-off เพื่อให้แต่ละกลุ่มธุรกิจดำเนินงานได้อย่างอิสระและเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ขณะที่ Siemens เน้นการบูรณาการข้ามธุรกิจ และลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเสริมศักยภาพภาคการผลิตและโครงสร้าง

 

 

เปรียบเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย

 

เมื่อเทียบกับ Delta Electronics Thailand (DELTA): Delta Electronics (Thailand) ก่อตั้งในปี 1988 โดยเป็นบริษัทลูกของ Delta Electronics จากไต้หวัน ดำเนินธุรกิจหลักในด้านพาวเวอร์ซัพพลาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ประหยัดพลังงาน และโซลูชันอุตสาหกรรมอัตโนมัติ ปัจจุบันเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของไทย โดยมีโรงงานและศูนย์ R&D รองรับลูกค้าทั่วโลก

ทั้ง Delta และ Siemens มีจุดร่วมในฐานะผู้พัฒนาโซลูชันระบบอัตโนมัติและประหยัดพลังงานให้กับอุตสาหกรรมทั่วโลก โดยมุ่งเป้าลูกค้าองค์กรในภาคการผลิต การขนส่ง และพลังงานเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม โครงสร้างธุรกิจต่างกันชัดเจน Delta เน้นการผลิตและส่งออกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยเน้นความเชี่ยวชาญเชิงเทคนิคในตัวสินค้าหลัก ส่วน Siemens มีความหลากหลายทางธุรกิจสูงกว่า และเน้นการบูรณาการซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์เพื่อสร้างระบบอุตสาหกรรมอัตโนมัติขั้นสูง

 

 

ความท้าทายและความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ

 

Siemens ต้องเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว โดยเฉพาะการแข่งขันในตลาดซอฟต์แวร์และ AI ที่มีผู้เล่นใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ความผันผวนทางเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้า อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจในตลาดต่างๆ การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีความเสี่ยงที่อาจไม่ได้ผลตอบแทนตามที่คาดหวัง

 

 

อนาคตและโอกาสการเติบโต

 

Siemens มีโอกาสเติบโตอย่างมากจากเทรนด์สำคัญหลายประการ ได้แก่ การปรับตัวสู่พลังงานสะอาด การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 การซื้อกิจการล่าสุดจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งในด้าน Software และ AI ทำให้สามารถแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำได้

 

การขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา จะเป็นแหล่งรายได้สำคัญในอนาคต นอกจากนี้ แนวโน้มการนำ AI และ Machine Learning มาใช้ในอุตสาหกรรมจะสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับ Siemens ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

 

สนใจลงทุนในหุ้น Siemens (SIE.DE) และหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ เปิดประสบการณ์ลงทุนไร้ขีดจำกัดกับแอป InnovestX! เข้าถึง 23 ประเทศ 31 ตลาดทั่วโลกได้ง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว เปิดบัญชีลงทุน คลิกเลย! 👉 https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b

 

คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

Stocks Mentioned
SIEd.CHI
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5