Keyword
Company History

Walmart (WMT) พลิกเกมค้าปลีก ประสบการณ์ช้อปปิ้งเชื่อมต่อหน้าร้าน-ออนไลน์ในมือคุณ

18 Jun 25 11:12 AM
Walmart (WMT) พลิกเกมค้าปลีก ประสบการณ์ช้อปปิ้งเชื่อมต่อหน้าร้าน-ออนไลน์ในมือคุณ
สรุปสาระสำคัญ

Walmart Inc. (WMT) หุ้นในตลาด NYSE ประเทศสหรัฐอเมริกา คือหนึ่งในยักษ์ใหญ่ค้าปลีก ที่น่าสนใจบริษัทนี้ไม่ได้หยุดอยู่แค่การเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตธรรมดา แต่กำลังปฏิวัติตัวเองให้เป็น "Tech-Powered Omnichannel Retailer" ที่ผนวกเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) การซื้อขายออนไลน์ (E-commerce) และบริการสมาชิก (Membership) เข้าด้วยกัน ขณะที่มีฐานลูกค้ากว่า 270 ล้านคนต่อสัปดาห์ในร้านค้ากว่า 10,750 แห่งทั่ว 19 ประเทศ ทำให้นักลงทุนระดับโลกจับตาเป็นหุ้นการค้าปลีกที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว

จากร้านขายของชำเล็กๆ สู่จักรวาลค้าปลีกระดับโลก

 

Walmart เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1945 โดย Sam Walton ที่เมือง Bentonville รัฐ Arkansas ด้วยแนวคิดเรียบง่ายแต่ทรงพลัง "ช่วยให้ผู้คนประหยัดเงินและมีชีวิตที่ดีขึ้น" (Save Money and Live Better) โดยเน้นขายสินค้าคุณภาพดีในราคาที่ต่ำที่สุด.

 

จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี 1988 เมื่อ Walmart เปิด Supercenter แห่งแรก ที่รวมซุปเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าไว้ในที่เดียว สร้างแนวคิด "One-Stop Shopping" ที่ลูกค้าสามารถซื้อได้ทุกอย่างในสถานที่เดียว

 

ในช่วงทศวรรษ 1990-2000 บริษัทขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติและพัฒนาห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ที่มีประสิทธิภาพสูง ขณะเดียวกันก็เริ่มลงทุนด้านเทคโนโลยีและ E-commerce อย่างจริงจัง โดยปรับเปลี่ยนตัวเองจาก "Wal-Mart Stores, Inc." เป็น "Walmart Inc." ในปี 2018 เพื่อสะท้อนการเป็นบริษัทเทคโนโลยีและค้าปลีกแบบครบวงจร

 

 

โครงสร้างรายได้ที่หลากหลายและแข็งแกร่ง


Walmart มีโครงสร้างรายได้ที่กระจายความเสี่ยงผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย

  1. Walmart U.S: 68%- ธุรกิจหลักในสหรัฐอเมริกา ประกอบด้วยร้าน Supercenter กว่า 3,500 แห่ง และ Walmart Neighborhood Market
  2. Walmart International: 18%- มาจากแพลตฟอร์ม Flipkart รวมทั้งบริการ PhonePe ที่เป็นระบบชำระเงินดิจิทัลขนาดใหญ่ในอินเดีย
  3. Sam's Club: 13%- สโมสรคลังสินค้าแบบสมาชิกที่แข่งขันกับ Costco โดยมีจุดแข็งในด้านสินค้าแบบขายยกและการบริการแบบ B2B สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
  4. Other Revenue Streams: 1%- มาจากการโฆษณา Walmart Connect ค่าสมาชิก Walmart+ บริการทางการเงิน และบริการด้านสุขภาพและเภสัชกรรม

โครงสร้างรายได้ที่หลากหลายนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่ง และสร้างกระแสรายได้ที่เสถียรผ่านช่องทางการขายที่แตกต่างกัน

 

walmart-wmt.png

 

 

กลยุทธ์การเติบโตและจุดแข็งเชิงแข่งขัน

 

Walmart มีจุดแข็งหลักจากกลยุทธ์ "Every Day Low Price " ที่ผนวกกับเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ผ่านการลงทุนด้าน AI และ Automation ในดำเนินการและการจัดการสินค้าคงคลัง ทำให้สามารถลดต้นทุนและส่งต่อผลประโยชน์ให้ลูกค้า

 

การพัฒนาระบบ Omnichannel เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งสำคัญ ที่เชื่อมต่อการซื้อขายในร้าน การสั่งซื้อออนไลน์ การรับสินค้าหน้าร้าน และการจัดส่งถึงบ้านเข้าด้วยกัน โดยใช้ร้านค้ากว่า 4,600 แห่งเป็นศูนย์กระจายสินค้าสำหรับ E-commerce


การลงทุนในธุรกิจโฆษณาดิจิทัล Walmart Connect ที่เติบโตแรงกว่า 30% และการพัฒนาบริการสมาชิก Walmart+ ที่แข่งขันกับ Amazon Prime ได้อย่างใกล้ชิด ทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้จากช่องทางใหม่ที่มีอัตรากำไรสูงกว่าธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิม


นอกจากนี้ การขยายธุรกิจสุขภาพและบริการการเงิน รวมทั้งการร่วมมือกับ Symbotic ในการพัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

 

 

เปรียบเทียบกับคู่แข่ง


เมื่อเปรียบเทียบกับ Costco Wholesale (COST): Walmart และ Costco ต่างเน้นราคาประหยัด แต่ใช้แนวทางที่ต่างกัน Costco ใช้โมเดลสมาชิก (Membership Model) ที่เน้นปริมาณและราคาต่ำมากแบบ “Bulk Purchase” ทำให้สามารถลดต้นทุนได้สูงและรักษาฐานลูกค้าประจำได้ดี ส่วน Walmart ใช้กลยุทธ์ "Everyday Low Price" โดยไม่จำเป็นต้องมีค่าสมาชิก และครอบคลุมสินค้าหลากหลายมากกว่าCostco มีข้อได้เปรียบด้านอัตรากำไรจากค่าสมาชิกที่มั่นคง แต่ Walmart มีฐานลูกค้าหลากหลายกว่าและเข้าถึงได้ง่ายกว่า ทำให้สามารถใช้หน้าร้านร่วมกับแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อขยายบริการแบบ Last-Mile ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

เมื่อเทียบกับธุรกิจในประเทศไทย


เมื่อเปรียบเทียบกับ CP Axtra Public Company Limited (CPAXT): ในตลาดไทย CP Axtra เป็นเจ้าของเครือข่ายค้าส่งและค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น Makro และ Lotus’s โดยบริษัทเน้นกลยุทธ์การสร้าง Ecosystem ค้าปลีกที่ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย CP Axtra เน้นการเสริมความแข็งแกร่งด้วยกลยุทธ์ “Hybrid Retail” ที่ผสานการขายหน้าร้านเข้ากับช่องทางออนไลน์ (Omni-channel) เช่น MakroClick และ Lotus’s Smart App ในขณะที่ Walmart พัฒนาเทคโนโลยีล้ำหน้า เช่น AI ในคลังสินค้า ระบบซื้อของอัตโนมัติ และการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อและบริหารสินค้าแบบเรียลไทม์

 

 

ความท้าทายและความเสี่ยงในการแข่งขัน


Walmart ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจาก Amazon ในด้าน E-commerce และ Cloud Services ที่ต้องลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อไม่ให้ตกขบวน นอกจากนี้ การเติบโตของ E-commerce platforms จากประเทศจีนอย่าง Temu และ Shein ที่เสนอสินค้าราคาถูกมาก ก็สร้างแรงกดดันด้านราคาในหลายหมวดสินค้า


ความเสี่ยงจากการพึ่งพาตลาดสหรัฐอเมริกามากถึง 68% ของรายได้ ทำให้อ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคอเมริกัน รวมทั้งผลกระทบจากนโยบายภาษีนำเข้าและสงครามการค้าที่อาจส่งผลต่อต้นทุนสินค้า

 

การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันไปใช้บริการส่งอาหารและ Quick Commerce มากขึ้น ทำให้ Walmart ต้องปรับกลยุทธ์และลงทุนเพิ่มเติมในด้านการส่งของเร็วและบริการ Last-Mile Delivery เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป

 

 

อนาคตและโอกาสการเติบโต


Walmart มีแผนการขยายตัวในตลาดเอเชียและตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะการลงทุนใน Flipkart และ PhonePe ในอินเดียที่คาดว่าจะเป็นตลาด E-commerce ที่ใหญ่ที่สุดในโลกในอนาคต การพัฒนาเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เพื่อพยากรณ์ความต้องการและบริหารสินค้าคงคลังอย่างชาญฉลาด จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน


การขยายธุรกิจสุขภาพผ่านคลินิกใน Walmart Health Centers และบริการเภสัชกรรม มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มเติมจากตลาดสุขภาพที่มีมูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การพัฒนา Walmart+ ให้เป็นระบบนิเวศแบบครบวงจรสำหรับสมาชิก จะช่วยเพิ่มความผูกพันของลูกค้าและสร้างรายได้ที่เสถียร


การลงทุนในเทคโนโลยี Automation และ Robotics ร่วมกับ Symbotic คาดว่าจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานถึง 20% และเพิ่มความแม่นยำในการจัดการสินค้า ส่วนการพัฒนาระบบ Omnichannel ที่สมบูรณ์แบบจะช่วยให้ Walmart แข่งขันกับ Amazon ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น


สนใจลงทุนในหุ้น Walmart (Ticker: WMT) และหุ้นเติบโตอื่น ๆ จากทั่วโลกได้ง่าย ๆ ผ่านแอปพลิเคชัน InnovestX ที่ให้คุณเข้าถึงการลงทุนระดับโลกได้แบบไร้ขีดจำกัด สนใจเปิดบัญชีลงทุน คลิก https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b


คำเตือน: ผู้ลงทุนควรศึกษา ทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนในต่างประเทศมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน

Stocks Mentioned
WMT.N
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5