Keyword
Bites for Breakfast

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 12 ก.ย. 2568

12 Sep 25 7:30 AM
Bites-Thumbnail-01
สรุปสาระสำคัญ

1. ตลาดหุ้นโลกพุ่งรับคาดการณ์ Fed Rate Cut หลังข้อมูลแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ
2. ECB คงอัตราดอกเบี้ยที่ 2% พร้อมส่งสัญญาณพักการปรับนโยบาย
3. BOJ ส่งสัญญาณเตรียมขาย ETF ปิดฉากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
4. รัฐบาลจีนเตรียมออกนโยบายให้ความช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่น 
5. ททท. ชู “ทัวร์ไทยคนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ

Bites for Breakfast - เรื่องต้องรู้ ก่อนเทรด วันนี้ 12 ก.ย. 2568

 

Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
12 September 2025


1. ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ S&P 500 +0.85% และ Nasdaq +0.72% หลังตัวเลข Jobless Claims สหรัฐฯ สูงกว่าคาด ในขณะที่ CPI ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.9% YoY เท่ากับตลาดคาด นักลงทุนมองว่า Fed มีโอกาสจะลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ อ้างอิง CME FedWatch Tool ส่วน Dollar Index ปรับตัวลดลงจาก USD อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับ Euro, Yen และสกุลเงินหลักอื่น ๆ ด้าน Bond Yield 10 ปี สหรัฐฯ ร่วงแตะระดับต่ำสุดรอบ 5 เดือน ส่วน ECB คงดอกเบี้ยที่ 2% ตามคาด น้ำมันดิบ WTI และ Brent ปรับลงกว่า $1/bbl จากความกังวลอุปสงค์ที่อ่อนตัวและอุปทานที่ล้นเกิน ทองคำร่วงเล็กน้อยหลังทำจุดสูงสุดใหม่ต้นสัปดาห์


2. ECB ประกาศคงอัตราดอกเบี้ย (Deposit rate) ที่ 2% ตามคาดการณ์ พร้อมมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดย Christine Lagarde ระบุว่าเศรษฐกิจยูโรโซนยังอยู่ในจุดที่ดี (good place) แต่ยังไม่ปิดโอกาสการใช้นโยบายผ่อนคลายเพิ่มเติม ทั้งนี้ตลาดเริ่มลดโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยรอบสุดท้าย เหลือเพียง 40% ภายในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ECB คาดการณ์เงินเฟ้อปี 2027 ที่ 1.9% ต่ำกว่าเป้าหมาย 2% แต่ Lagarde ชี้ว่าการเบี่ยงเบนเล็กน้อยไม่จำเป็นต้องปรับนโยบายทันที ขณะที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจถูกมองว่า มีความสมดุล (balanced) มากขึ้น นักลงทุนคาด ECB จะพักการปรับดอกเบี้ยนโยบายไปอีกระยะ


3. Bank of Japan (BOJ) กำลังวางกลยุทธ์เพื่อทยอยขาย ETF ที่ถือครองอยู่ในพอร์ตขนาดใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 37 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการยุตินโยบายกระตุ้นที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2010 โดยจะเน้นการขายแบบค่อยเป็นค่อยไปในตลาด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบต่อตลาดและขาดทุนจากราคาตลาด ยังไม่มีเรื่องระยะเวลาที่แน่นอน เนื่องจากสถานการณ์การเมืองหลังนายกฯ Ishiba ลาออก BOJ ยืนยันจะดำเนินการด้วยความระมัดระวัง และอาจใช้ประสบการณ์จากการขายหุ้นที่เคยถือครองจากธนาคารในอดีต  นักวิเคราะห์คาดว่า BOJ จะยังไม่ตัดสินใจในการประชุมรอบหน้า แต่การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นจุดสำคัญในการลดงบดุลของ BOJ


4. ทางการจีนเตรียมออกนโยบายช่วยรัฐบาลท้องถิ่นแก้ปัญหาหนี้ค้างชำระกับเอกชนซึ่งยอดรวมอาจสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยจะใช้ธนาคารรัฐและธนาคารนโยบายปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลท้องถิ่นนำไปจ่ายหนี้ตั้งเป้าคลี่คลายปัญหาภายในปี 2027 เฟสแรกจะดูแลหนี้ประมาณ 1 ล้านล้านหยวน (ประมาณ $140 พันล้าน) โดยมีแผนออกพันธบัตรพิเศษ 200,000 ล้านหยวนเพื่อช่วยเหลือส่วนหนึ่ง มาตรการนี้ได้รับการผลักดันหลังประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเตือนว่าปัญหาหนี้ค้างชำระต่อเอกชนจะทำลายความเชื่อมั่นต่อรัฐและบั่นทอนเศรษฐกิจวงกว้าง อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้โยกรัฐบาลภาระเสี่ยงไปยังแบงก์รัฐซึ่งต้องเผชิญปัญหาคุณภาพสินเชื่อและตั้งสำรองขาดทุนเพิ่มขึ้น


5. ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เสนอแนวคิดโครงการ “ทัวร์ไทยคนละครึ่ง” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยใช้เงินงบประมาณที่เหลือจากโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ทั้งนี้เป็นการรับมือผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าซึ่งส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยโครงการฯ นี้จะเน้นการสนับสนุนการเดินทางกับบริษัททัวร์ และเร่งนำเสนอรัฐบาลใหม่ เพื่อหวังให้ทันใช้งานภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้รอติดตามความชัดเจนอีกครั้ง เบื้องต้นมองเป็นบวกเล็กน้อยต่อกลุ่มโรงแรม


ประเด็นที่ต้องติดตาม: CPI ของเยอรมนีเดือน ส.ค. คาดการณ์ที่ 0.1% MoM ก่อนหน้าที่ 0.3% MoM

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5