
1. ตลาดหุ้นโลกปรับขึ้นรับคาดการณ์เฟด ขณะที่จับตาการแทรกแซงค่าเงินเยน
2. ยอดขายออนไลน์ช่วง Thanksgiving ของสหรัฐปีนี้มีสัญญาณดี โดย Salesforce คาดว่าจะโต 6% YoY
3. คลังอังกฤษเดินหน้าขึ้นภาษี เพื่อเพิ่มงบสวัสดิการ
4. ญี่ปุ่นเพิ่มการออกพันธบัตรระยะสั้น-กลางเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ Fitch เตือนความเสี่ยงต่ออันดับความน่าเชื่อถือ
5. กำไรภาคอุตสาหกรรมจีนลดลง -5.5% YoY สะท้อนอัตรากำไรยังถูกกดดัน
6. ททท. ประเมินนักท่องเที่ยวระยะไกล (Long-haul) เข้าไทยโต 13% ในปี 2025
Bites for Breakfast
By INVX Investment Products & Strategy
28 November 2025
1. ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้นจากความคาดหวังว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยในเดือนหน้า โดยนักลงทุนให้น้ำหนักกับโอกาสลดดอกเบี้ยถึง 85% ตาม CME FedWatch ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ยกเว้นเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นและอยู่ในโฟกัสการจับตาการแทรกแซง จาก BOJ ซึ่งมีแนวโน้มอาจขึ้นดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงิน ส่วนตลาดหุ้นยุโรปและเอเชียปรับขึ้นเล็กน้อย นำโดยหุ้นกลุ่ม defense และ tech ด้านความกังวล AI bubble เริ่มคลี่คลายชั่วคราว ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการเนื่องในวัน Thanksgiving ส่งผลให้การซื้อขายเบาบาง
2. Salesforce คาดว่ายอดขายออนไลน์ในสหรัฐฯ ในวัน Thanksgiving จะเติบโตราว 6% YoY แตะราว 8.6 พันล้านดอลลาร์ สะท้อนว่าผู้บริโภคยังใช้จ่ายแต่เน้นซื้อช่วงลดราคาหนักท่ามกลางความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและแรงกดดันจากภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ผลักต้นทุนขึ้นทั้งฝั่งค้าปลีกและผู้บริโภค ณ เวลาที่รายงานข่าวยอดใช้จ่ายออนไลน์เพิ่มแล้ว 5.8% YoY อยู่ที่ 2.6 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดใช้จ่ายดิจิทัลทั่วโลกแตะ 13.1 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าทั้งวันจะไปถึง 36 พันล้านดอลลาร์ สำหรับ Black Friday ซึ่งเป็นวันช้อปออนไลน์ใหญ่ที่สุดของปี Salesforce คาดว่ายอดขายออนไลน์ทั่วโลกจะอยู่ราว 78 พันล้านดอลลาร์ และ 18 พันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ แม้บรรยากาศการจับจ่ายโดยรวมจะอ่อนแอ แต่ผลประกอบการล่าสุดของผู้ค้าปลีกชี้ว่าลูกค้ายังซื้อสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และเสื้อผ้าหากมีโปรโมชั่นแรง โดย Best Buy , Gap และ Abercrombie & Fitch ส่งสัญญาณเชิงบวก ขณะที่ Mastercard และสำนักอื่น ๆ ยังมองว่ายอดขายสามารถโตได้แต่ยังคงถูกกดดันด้วยความผันผวนด้านเศรษฐกิจ
3. Rachel Reeves รัฐมนตรีการคลังอังกฤษประกาศขึ้นภาษีรวม 26 พันล้านปอนด์ในงบประมาณล่าสุด ต่อเนื่องจากการขึ้นภาษี 40 พันล้านปอนด์เมื่อปีที่แล้ว เพื่อสนับสนุนการเพิ่มงบสวัสดิการ (Welfare) และยกเลิกข้อจำกัด Child Benefit สำหรับครอบครัวรายได้น้อยที่มีลูกมากกว่า 2 คน แม้จะถูกฝ่ายค้านโจมตีว่าเป็นการเพิ่มภาระให้แรงงานเพื่อแลกกับคะแนนเสียงในพรรค Labour แต่รัฐบาลชี้ว่ามาตรการนี้จะช่วยลดความยากจนเด็ก 450,000 คน และตอบโจทย์ Productivity ที่ถูกปรับลดโดย OBR ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่างบประมาณนี้เน้นการกู้ยืมและใช้จ่ายในระยะสั้น และใช้ภาษีในการใช้จ่ายในระยะกลาง
4. รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมเพิ่มการออก Japanese Government Bonds (JGB) อายุ 2 และ 5 ปี เพื่อสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 21.3 ล้านล้านเยน โดยจะเพิ่มยอดขาย JGB ในปีงบประมาณนี้ราว 7 ล้านล้านเยน ขณะที่ยอดขาย JGB อายุ 10 ปีขึ้นไปยังคงเดิม Fitch Ratings เตือนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจเพิ่มความเสี่ยงต่ออันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น หากนำไปสู่การใช้นโยบายการคลังแบบผ่อนคลาย และกดดัน debt/GDP อย่างไรก็ตามนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อการไม่เพิ่มยอดขาย JGB ระยะยาว ส่งผลให้ yield 10 ปีลดลง 2 bps เหลือ 1.795% ตลาดยังจับตาความไม่แน่นอนเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BoJ และทิศทางหนี้สาธารณะ
5. กำไรภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนตุลาคมกลับมาหดตัว -5.5% YoY สะท้อนว่าการฟื้นตัวของภาคการผลิตยังไม่ยั่งยืนท่ามกลางสงครามราคาในประเทศและแรงกดดันจากภายนอกอย่างภาษีและความตึงเครียดทางการค้า ข้อมูลจากสำนักงานสถิติระบุว่ากำไรรวมของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ช่วง ม.ค.-ต.ค. 2024 ยังโต 1.9% แต่ชะลอลงจาก 3.2% ในช่วง ม.ค.-ก.ย. ภาคการผลิตยังขยายกำไรได้ 7.7% โดยกลุ่มสินค้า High-Tech ยังคงเป็นตัวหนุนการเติบโต ด้านธุรกิจสาธารณูปโภค (ไฟฟ้า ความร้อน ก๊าซ น้ำ) โต 9.5% ขณะที่ภาคเหมืองแร่กำไรดิ่งลงถึง 27.8% yoy สะท้อนราคาสินค้าโภคภัณฑ์และดีมานด์ที่อ่อนแรง สถิติบ่งชี้ว่าฐานสูงปีก่อนและต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุ
6.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประเมินว่านักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (Long-haul) เข้าไทยปี 2025 จะอยู่ที่ 11.10 ล้านคน โต 13% YoY ทำรายได้ราว 6.69 แสนล้านบาท (+14% YoY) ทุบสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากปี 2567 ที่ 9.79 ล้านคน ซึ่งมากกว่าปีก่อนโควิด 2562 ที่ราว 9.02 ล้านคน สะท้อนว่าตลาดระยะไกลฟื้นเกินช่วงก่อนเกิดโควิดแล้วทั้งด้านปริมาณและรายได้ ททท.ยังคาดว่าปี 2026 นักท่องเที่ยวระยะไกลจะเพิ่มเป็นราว 11.67 ล้านคน (+5% YoY) รายได้มากกว่า 7 แสนล้านบาท (+10% YoY) ภายใต้สมมติฐานว่าไม่มีช็อกภูมิรัฐศาสตร์รุนแรง แรงหนุนสำคัญคือค่าโดยสารที่มีแนวโน้มลดลงจากการเพิ่มที่นั่ง/เที่ยวบินของสายการบินต่างชาติและไทย เช่น United Airlines, EVA Air, Norse Atlantic และ Thai Airways ที่เปิด–กลับมาเปิดเส้นทางยุโรป–อเมริกา–สแกนดิเนเวีย–เชียงใหม่ รวมถึง Soft power จากซีรีส์ The White Lotus
ประเด็นที่ต้องติดตาม: CPI ของเยอรมนีในเดือน พ.ย. คาดการณ์ที่ 2.4% ก่อนหน้าที่ 2.3%