1.ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ปรับขึ้น!
2.สหรัฐฯ-จีน เจรจาการค้าต่อที่สวีเดน ลุ้นขยายเวลาพักรบการค้า
3.Merck-Boeing-UNH จ่อรายงานงบคืนนี้
4.จับตาข้อมูลเศรษฐกิจสัปดาห์นี้ ทั้งตัวเลขตลาดแรงงานและความเชื่อมั่นผู้บริโภค
5.Nvidia สั่งชิป H20 เพิ่ม 300,000 ชิ้น รับดีมานด์จีนพุ่ง
6.SET ปิดบวก 16.53 จุด นโยบายภาษีการค้าสหรัฐฯ และข่าวหยุดยิงไทย-กัมพูชาหนุน
1. ฟิวเจอร์สปรับขึ้น: ฟิวเจอร์ส S&P 500 ปรับขึ้น 0.1% ขณะที่ Nasdaq 100 Futures ขยับขึ้น 0.3% เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา S&P 500 ทำสถิติสูงสุดใหม่ และ Nasdaq Composite ก็ปรับขึ้นเช่นกัน หลังจากมีการประกาศข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อตกลงดังกล่าวเป็นหนึ่งในชุดข้อตกลงที่ทำเนียบขาวเร่งดำเนินการก่อนวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่มีการปรับขึ้นภาษี "ตอบโต้" กับหลายประเทศ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูสัญญาณเบื้องต้นว่าฤดูการรายงานผลประกอบการรายไตรมาสอาจแข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้แต่แรก รวมถึงการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่จะมาถึงในปลายสัปดาห์นี้ สำหรับหุ้นรายตัว หุ้น Nike (NKE) พุ่งขึ้นหลังจากนักวิเคราะห์จาก JPMorgan ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นเป็น "Overweight" จาก "Neutral"
2. การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ-จีน: สหรัฐฯ และจีนคาดว่าจะเจรจาการค้ารอบล่าสุดต่อในวันนี้ที่ประเทศสวีเดน โดยที่ปักกิ่งกำลังเผชิญกับเส้นตายวันที่ 12 สิงหาคมในการบรรลุข้อตกลงภาษีระยะยาวกับวอชิงตัน เจ้าหน้าที่จากทั้งสองประเทศ รวมถึงรัฐมนตรีคลัง Scott Bessent เข้าร่วมทีมเจรจาในการประชุมที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีสวีเดนในสต็อกโฮล์ม มีรายงานว่ารองนายกรัฐมนตรีจีน He Lifeng ก็เข้าร่วมด้วย ทั้งสองฝ่ายเคยตกลงข้อตกลงการค้าเบื้องต้นเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งช่วยคลี่คลายสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น แม้ว่าผู้แทนการค้าสหรัฐฯ Jamieson Greer จะแนะนำว่า "ความก้าวหน้าครั้งใหญ่" ยังไม่เกิดขึ้นในทันที แต่รายงานของสื่อได้ชี้ให้เห็นถึงโอกาสที่จะขยายการพักรบทางการค้าออกไปอีก 90 วัน ซึ่งอาจเปิดทางให้มีการประชุมในอนาคตระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน
3. คลื่นผลประกอบการกำลังมา: คลื่นการประกาศผลประกอบการของบริษัทต่างๆ กำลังจะเริ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีบริษัทใน S&P 500 จำนวน 164 แห่งที่จะเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุดในสัปดาห์นี้ ก่อนตลาดวอลล์สตรีทเปิด บริษัทต่างๆ เช่น Merck & Co (MRK), UnitedHealth Group (UNH) และ Boeing (BA) จะประกาศผลประกอบการ นอกจากนี้ Procter & Gamble (PG) ซึ่งประกาศการลาออกของ CEO Jon Moeller เมื่อวันจันทร์ ก็มีกำหนดจะรายงานผลประกอบการเช่นกัน ส่วน Visa (V) จะเป็นไฮไลต์ของการประกาศผลหลังตลาดสหรัฐฯ ปิด กลุ่มบริษัทบัตรชำระเงินและคู่แข่งอย่าง MasterCard คาดว่าจะให้ภาพรวมใหม่เกี่ยวกับสถานะของผู้บริโภคชาวอเมริกันในช่วงเวลาที่ความไม่แน่นอนจากภาษีกำลังส่งผลกระทบ
4. ข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะมา: สัปดาห์นี้นักวิเคราะห์กล่าวว่าเป็นหนึ่งในสัปดาห์ที่คึกคักและสำคัญที่สุดของปี จะมีข้อมูลสำคัญมากมายที่อาจส่งผลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของอเมริกา ตัวเลขสำคัญในวันนี้ ได้แก่ การวัดจำนวนตำแหน่งงานว่างและอัตราการลาออก ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความต้องการแรงงาน การสำรวจ JOLTS คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยเป็น 7.510 ล้านตำแหน่งจาก 7.769 ล้านตำแหน่ง ตัวเลขเหล่านี้จะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพของตลาดแรงงานสหรัฐฯ ในปลายสัปดาห์นี้ ยังมีกำหนดการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนและรายงานการจ้างงานประจำเดือนกรกฎาคมที่สำคัญยิ่ง นอกจากนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนกรกฎาคมของ Conference Board ก็มีกำหนดจะเปิดเผยด้วย โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ข้อมูลเหล่านี้ออกมาในขณะที่ Fed เริ่มการประชุมนโยบายสองวันล่าสุดในวันนี้ ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิมเมื่อสิ้นสุดการประชุม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ผู้กำหนดนโยบายบางรายแนะนำเมื่อเร็วๆ นี้ว่าการรอดูสถานการณ์อาจเป็นเรื่องที่รอบคอบ เนื่องจากพวกเขารอความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายภาษีที่เข้มข้นของรัฐบาลทรัมป์
5. Nvidia สั่งชิป H20 300,000 ชิ้น รับดีมานด์จีนพุ่ง: Nvidia (NVDA) ได้สั่งซื้อชิป AI H20 เพิ่มเติม 300,000 ชิ้นจากบริษัทผู้ผลิตตามสัญญา Taiwan Semiconductor Manufacturing Co (TSMC) ท่ามกลางความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากจีน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันอังคารโดยอ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อ การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลทรัมป์อนุญาตให้ Nvidia กลับมาขาย H20 ให้กับลูกค้าชาวจีนได้เมื่อต้นเดือนนี้ โดยยกเลิกคำสั่งห้ามในเดือนเมษายนที่มุ่งจำกัดการเข้าถึงชิป AI ขั้นสูง คำสั่งซื้อใหม่กับ TSMC จะเพิ่มสต็อกชิป H20 ที่มีอยู่ 600,000 ถึง 700,000 ชิ้น รายงานระบุว่าบริษัทขายชิป H20 ได้ประมาณ 1 ล้านชิ้นในปี 2024 ตามข้อมูลจาก SemiAnalysis ชิป H20 ซึ่งพัฒนาขึ้นสำหรับจีนโดยเฉพาะ มีพลังประมวลผลน้อยกว่าชิป H100 หรือ Blackwell ซึ่งเป็นเรือธงของ Nvidia แต่ยังคงมีความสำคัญในการแข่งขันด้าน AI Jensen Huang CEO ของ Nvidia กล่าวในปักกิ่งเมื่อเดือนนี้ว่าการผลิตอาจใช้เวลาเก้าเดือนจึงจะกลับมาดำเนินการได้
6. SET ปรับขึ้นต่อเนื่อง นโยบายภาษีการค้าสหรัฐฯ มีแนวโน้มเป็นบวก ไทย-กัมพูชาตกลงหยุดยิงสำเร็จ: SET Index ปิดที่ 1233.68 จุด (+16.53จุด / +1.36%) ในวันที่ 29 ก.ค. 2568 ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.1 หมื่นล้านบาท โดยได้รับแรงซื้อจากกลุ่มปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ พลังงาน รับเหมาฯ เกษตร และไฟแนนซ์ ส่วนแรงขายมาจากกลุ่มมีเดีย และ ICT
-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX
ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b