
1.ฟิวเจอร์สสหรัฐฯ ทรงตัว ซึมซับงบฯ และข่าวนัด Trump-Xi ยังไม่แน่นอน
2.Netflix กำไร/รายได้โต แต่ Margin ถูกกดดันจากปัญหาภาษีในบราซิล หั่นเป้ากำไรทั้งปี
3.Tesla รายงานงบคืนนี้ ตลาดมองข้ามยอดขาย EV ไปที่ 'Hope & Hype' ของ Robotaxis
4.Hermes สัญญาณดีในจีน ยอดขายในตลาดสำคัญเริ่มฟื้นตัว หนุนความเชื่อมั่นสินค้าหรู
5.ทองรีบาวด์ หลังร่วงหนักถึง 5% เมื่อวานนี้ ตลาดรอข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ
6. SET ปิดเหนือ 1,300 หลัง รมช.คลังลาออก คลายประเด็นการเมือง
1. ฟิวเจอร์ส Dow และ S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่ Nasdaq 100 Futures แทบไม่เปลี่ยนแปลง การปิดตลาดวานนี้ของวอลล์สตรีทเป็นแบบผสมผสาน โดยมีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป ซึ่งตั้งคำถามต่อการปรับขึ้นของตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ก็ได้รับความสนใจ โดยประธานาธิบดี Donald Trump แย้มว่าการประชุมกับ Xi Jinping ผู้นำจีนในเกาหลีใต้ปลายเดือนนี้ อาจไม่เกิดขึ้น แม้ว่าทรัมป์จะกล่าวเสริมว่าหากการประชุมเกิดขึ้น จะเป็นไปอย่าง "ประสบความสำเร็จอย่างมาก" และจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าที่ "ยุติธรรม" ขณะเดียวกัน การประชุมสุดยอดระหว่างทรัมป์กับ Vladimir Putin ก็ถูกระงับ
2. หุ้น Netflix ร่วงลงในการซื้อขายช่วงหลังตลาดปิดทำการ เนื่องจากอัตรากำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่สามอยู่ที่ 28% ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย สาเหตุหลักมาจากการตั้งค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทกับหน่วยงานสรรพากรใน บราซิล ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออัตรากำไรสำหรับทั้งปีด้วย ทำให้ Netflix ต้องปรับลดแนวโน้มอัตรากำไรประจำปีลงเหลือ 29% จากเดิม 30% อย่างไรก็ตาม รายได้และกำไรในช่วงนี้ยังคงเติบโต โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายโฆษณาที่ดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ การเพิ่มขึ้นของจำนวนสมาชิก และการปรับขึ้นราคา
3. คืนนี้ตลาดจะจับตาการรายงานผลประกอบการของ Tesla ยักษ์ใหญ่รถยนต์ไฟฟ้าหลังตลาดสหรัฐฯ ปิดทำการ Tesla เคยรายงานยอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาส 3 ที่ทำสถิติสูงสุดเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากกลยุทธ์การตลาดและการลดราคาเพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษี $7,500 แต่ความกังวลก็มีอยู่ว่าผลประกอบการจะได้รับผลกระทบอย่างไรหลังสิทธิประโยชน์ทางภาษีหมดอายุ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่าตัวเลขผลประกอบการหลักอาจไม่มีผลมากนัก เพราะมูลค่าหุ้นส่วนใหญ่ของ Tesla มาจากความหวังในผลิตภัณฑ์แห่งอนาคต เช่น Robotaxis และเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
4. หุ้น Hermes ในยุโรปปรับตัวขึ้นในการซื้อขายช่วงเช้า หลังจากผู้ผลิตกระเป๋า Birkin รายงานยอดขายในตลาดสำคัญอย่าง จีน ที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสที่สาม Eric de Halgouet CFO ของ Hermes กล่าวว่าการฟื้นตัวนี้เป็นผลจากเสถียรภาพของราคาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองใหญ่ และแนวโน้มตลาดหุ้นที่เป็นบวก การประกาศของ Hermes นี้พร้อมกับความเห็นจากคู่แข่งอย่าง L'Oreal และ LVMH บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มสินค้าหรูหรา แม้ว่าจีนจะยังคงเผชิญกับวิกฤตอสังหาริมทรัพย์และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ซบเซา
5. ราคาทองคำดีดตัวกลับขึ้นมาในวันนี้ หลังจากราคาร่วงลงกว่า 5% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการลดลงในวันเดียวที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563 ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากการเข้าซื้อเพื่อหาจังหวะ (Bargain Hunting) และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ความสนใจของตลาดมุ่งไปที่ข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญของสหรัฐฯ ที่จะเปิดเผยในช่วงปลายสัปดาห์ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลทางการเดียวที่ Fed ได้รับก่อนการประชุมปลายเดือนตุลาคมนี้
6. SET Index ปิดวันนี้ที่ 1,302.35 จุด เพิ่มขึ้น 11.63 จุด (+0.90%) และสามารถยืนเหนือระดับ 1,300 จุดได้สำเร็จ โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยการเมืองในประเทศที่คลี่คลาย หลังจากมีรายงานว่า นายวรภัค ธันยาวงษ์ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อให้รัฐบาลพ้นข้อครหาที่เกี่ยวข้องกับขบวนการสแกมเมอร์ การลาออกนี้เป็นปัจจัยเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นของตลาด นอกจากนี้ ตลาดยังมีแรงซื้อกลุ่มหุ้นธนาคารที่รายงานผลประกอบการไตรมาส 3/2568 ดีกว่าคาด รวมถึงหุ้นกลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยว
-----
ที่มา: Investing.com และ InnovestX Research
แปลและเรียบเรียง: Content Team, InnovestX
ดาวน์โหลดแอป InnovestX วันนี้ เพื่อเข้าถึงโอกาสการลงทุนในหุ้นสหรัฐและตลาดทั่วโลก
📱 ดาวน์โหลดแอป: https://innovestx.onelink.me/23if/2jlpsi7b