ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดทั่วโลกปรับลดลง 2.5% โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายทำกำไรในกลุ่มเทคโนโลยี จากความกังวลว่าราคาหุ้นกลุ่ม AI ตึงตัวเกินไป ประกอบกับความหวังในการลดดอกเบี้ยของ FED ในเดือนธันวาคมเริ่มจางหายไปหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณเชิงนโยบายที่เข้มงวดขึ้น และความไม่แน่นอนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่น
ภาพรวม – ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดปรับตัวลงและผันผวนต่อเนื่องหลังมีแรงกดดันจากปัจจัยมหภาคเป็นหลัก โดย 1) มีแรงเทขายทำกำไรในกลุ่มเทคโนโลยีเนื่องจากความกังวลว่าราคาหุ้นกลุ่ม AI ตึงตัวเกินไป 2) ความหวังในการลดดอกเบี้ยของ FED ในเดือนธันวาคมเริ่มลดลงหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณเชิงนโยบายที่เข้มงวดขึ้น 3) นอกจากนี้ความไม่แน่นอนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่นยังเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดเช่นเดียวกัน
กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (24 – 28 พ.ย.) เราแนะติดตาม 1) การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ข้อมูลราคาผู้ผลิต ข้อมูลยอดค้าปลีก ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค 2) รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ (Beige Book) ที่จะสะท้อนทิศทางการลดดอกเบี้ย 3) ผลประกอบการที่จะประกาศได้แก่ Agilent Tech, Alibaba, Analog Devices, Autodesk, Best Buy, Deere, Dell, DiDi Global, Li Auto, Naspers, Nio, Pony AI, Prosus, Workday, Zoom Communications, Zscaler
เราประเมินว่าตลาดในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มผันผวนได้ต่อหลังการซื้อขายในสัปดาห์นี้จะน้อยลงเนื่องจากมีวันหยุดจากวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) และ Black Friday โดยตลาดจะให้น้ำหนักกับปัจจัยมหภาคมากกว่าจุลภาค โดยเฉพาะตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศออกมาและจะตัดสินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของ Fed
ด้วยภาพนี้แนวโน้มตลาดที่มีทิศทางผันผวน ทำให้เราแนะนำอยู่ในหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตดีและเก็งกำไรกลุ่มหุ้นที่คาดผลประกอบการออกมาดีและแนวโน้มเติบโต อย่าง DELL ZS PONY และ DR อย่าง BABA23 TRIP23
