สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง หลายตลาดทำจุดสูงสุดใหม่ระหว่างสัปดาห์ความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fed เพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐลดลงและต่ำกว่าคาด ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐลดลงต่ำกว่า 4.4% ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนที่ได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขการจ้างงานที่เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง หนุนสินทรัพย์เสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ หุ้น ทองคำ อย่างไรก็ตามท่าทีของกรรมการเฟดยังออกมาในโทนเดิมคือยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลดดอกเบี้ย ในส่วนตัวเลขเศรษฐกิจอื่น เริ่มมีทิศทางชะลอตัวลง ไม่ว่าจะเป็นยอดค้าปลีกสหรัฐ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ฝั่งตลาด EM ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยตลาดฮ่องกง ได้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขผลประกอบการของจีนออกมาดีกว่าที่คาด การออกมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง โดยทางการจีนเริ่มประกาศเริ่มขายพันธบัตรระยะยาวอายุ 20-50 ปี มูลค่า 1 ล้านล้านหยวนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าจะทำให้ GDP เพิ่มขึ้น 1% จากกรณีฐาน และเริ่มมีแนวคิดกระตุ้นภาคอสังหาเพิ่มเติม โดยให้รัฐบาลท้องถิ่นเข้าไปซื้ออสังหาฯที่ยังขายไม่ได้ เพื่อไปปล่อยเช่าต่อในราคาต่ำ ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นเล็กน้อย หลังตัวเลขผลประกอบการ 1Q24 ที่ประกาศออกมาส่วนใหญ่ดีกว่าคาด แสดงถึงการฟื้นตัว YoY ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 3 ราคาน้ำมันทรงตัว แม้ตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐออกมาต่ำกว่าคาด แต่ IEA ปรับลดาดการณ์อุปสงค์ลง
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้น จากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐลดลงเกินคาดในเดือน เม.ย.ท่ามกลางยอดค้าปลีกที่ชะลอตัวลง ทำให้ตลาดมองว่าโอกาสในการลดดอกเบี้ยในปีนี้มีเพิ่มขึ้น ขณะที่ทางการจีนเริ่มประกาศเริ่มขายพันธบัตรระยะยาวมูลค่า 1 ล้านล้านหยวนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่สงครามการค้ารุนแรงขึ้น โดยประธานาธิบดีไบเดนประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน โดยเฉพาะ EV ที่ขึ้นถึง 4 เท่า
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นได้ตามตลาดโลก แม้เศรษฐกิจไทยเสี่ยงมากขึ้นจาก (1) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และ ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เม.ย. 67 ลดลง จาก ศก. ฟื้นช้า พลังงานแพงส่วน SMEs กังวลค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาท (2) ‘เครดิตบูโร’ ชี้ ครัวเรือนเผชิญหนี้ท่วม กังวลหนี้เสียเช่าซื้อ-ค้างชำระบัตรเครดิตพุ่งขึ้น 32% แต่ (3) รมว.คลัง หารือผู้ว่า ธปท. ไม่กดดันลดดอก แต่ให้รายย่อยเข้าถึงสินเชื่อง่ายขึ้น และเตรียมปรับเป้าเงินเฟ้อ
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 4.37% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับลดลงที่ 4.77% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -40 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.73% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.34% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 4,083 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent เปลี่ยนแปลงเล็กน้อย มาอยู่ที่ 83.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,379.6 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่ 104.6 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 155.86 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนลงที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 36.30 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.23 หยวน