สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดทรงตัวหลังได้รับปัจจัยบวกจาก (1) ตัวเลขการจ้างงานที่ขยายตัวแข็งแกร่ง โดยการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 3.39 แสนตำแหน่ง สูงกว่าที่ตลาดคาดที่ 1.9 แสนตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม อัตราการว่างงานปรับเพิ่มขึ้นรุนแรง จาก 3.4% ในเดือน เม.ย. เป็น 3.7% ในเดือน พ.ค. ขณะที่ค่าจ้างรายสัปดาห์ ขยายตัว 3.4% ในเดือน พ.ค. ชะลอจาก 3.7% ในเดือน เม.ย.(2) ธนาคารกลางแคนาดาปรับขึ้นดอกเบี้ยผิดคาดสู่ 4.25% จากเงินเฟ้อที่เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับ ธ. กลางออสเตรเลียที่ปรับขึ้นดอกเบี้ยเหนือคาดมาอยู่ที่ 4.1% เช่นกัน ทำให้นักลงทุนเริ่มกังวลว่า Fed อาจต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก อย่างไรก็ตาม สัญญาณจากสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) หลายท่านในสัปดาห์ก่อน (ก่อน Silence Period) ส่งสัญญาณว่าจะคงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ (3) เศรษฐกิจจีนเสี่ยงชะลอตัวลงมากหลังการส่งออกกลับมาหดตัวอีกครั้งที่ -7.5% จากความต้องการโลกที่หดลง ขณะที่การนำเข้าหดตัวเช่นกันที่ -4.5% (4) ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน อันได้แก่ ICBC , AgriBank, Bank of China และ Bank of Communications ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสามปีและห้าปีลง 15bps และอัตราดอกเบี้ยรายปีสำหรับเงินฝากกระแสรายวันลง 10 bps ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากสองปีลดลง 10bps เพื่อตอบสนองต่อคำร้องขอของรัฐบาลเพื่อส่งเสริมการเติบโตเศรษฐกิจ (5) ดัชนี ISM ภาคบริการสหรัฐเดือน พ.ค. ชะลอลงมาก โดยอยู่ที่ 50.3 จุด ชะลอลงจาก 51.9 ในเดือน เม.ย. ขณะที่ดัชนี ISM PMI ภาคการผลิตอยู่ระดับต่ำกว่า 50 จุดต่อเนื่อง 7 เดือนติดกัน นอกจากนั้น ดัชนีย่อยของ ISM ภาคบริการชะลอลงเช่นกัน โดยการจ้างงานภาคบริการเริ่มเข้าสู่แดนลบแล้ว ขณะที่ดัชนีด้านคำสั่งซื้อใหม่ชะลอเหลือ 52.9 จาก 56.1 ในเดือนก่อน (6) คำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานลดลงต่อเนื่อง โดยหากหักอาวุธยุทโธปกรณ์แล้ว คำสั่งซื้อหดตัว -0.4% ต่อเดือนในเดือน เม.ย. อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อสินค้าคงทนหักอาวุธฯ ปรับขึ้นเล็กน้อย
ตลาดหุ้นโลก•สัปดาห์นี้ตลาดทรงตัวหลังได้รับปัจจัยบวกจากการจ้างงานที่ขยายตัวแข็งแกร่ง แต่เผชิญปัจจัยลบจากการที่ ธ. กลางแคนาดาและออสเตรเลียปรับขึ้นดอกเบี้ยสวนตลาด ด้านเศรษฐกิจจีนเสี่ยงชะลอตัวลงมากหลังการส่งออกกลับมาหดตัวอีกครั้งจากความต้องการโลกที่หดลง ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทรงตัวในระดับสูงหลังข้อตกลงหนี้สาธารณะถูกตราเป็นกฎหมาย ทำให้กระทรวงการคลังสหรัฐจะออกพันธบัตรเพื่อเติมเงินคงคลังมากขึ้น ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐทรงตัวในระดับสูง
ตลาดหุ้นไทย
•สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นรุนแรงในวันที่ 8 มิ.ย. จากแรงซื้อของหุ้นขนาดใหญ่ เช่น PTT, DELTA และ GULF ที่ช่วยหนุนตลาดหุ้นโดยรวม ทั้งนี้ ระหว่างสัปดาห์มีปัจจัยสนับสนุนดังนี้ (1) เงินเฟ้อผู้บริโภคไทยขยายตัว 0.5% ชะลอรุนแรงเหนือคาดจากราคาพลังงานที่ลดลงและมาตรการภาครัฐ ทำให้ตลาดเริ่มมองว่า ธปท. น่าจะยุติการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว (2) กกร. คงคาดการณ์ GDP ปีนี้ 3-3.5% จากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว (3) ททท. ระบุจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน พ.ค. มี 1.97 ล้านคน
ตลาดพันธบัตร•ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.79% จากประเด็นกระทรวงการคลังจะออกพันธบัตรมากขึ้นและ ธ. กลางแคนาดาขึ้นดอกเบี้ยเหนือคาด ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้นรุนแรงต่อเนื่องไปอยู่ที่ 4.56% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -77 bps•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.57% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ปรับทรงตัวมาอยู่ที่ 2.08% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,927 ล้านบาท
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนลงที่ 103.9 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 139.7 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.07 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 34.82 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนลงที่ระดับ 7.13 หยวน
