Keyword
Wealth Weekend

Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 12/05/2023

12 May 23 3:47 PM
Program_Thumbnail-01

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้ 

สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลดลงจากปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามามากขึ้น ทั้งจาก (1) ความเสี่ยงภาคการเงินที่มีแนวโน้มกระทบเศรษฐกิจมากขึ้น โดยรายงาน Senior Loan Officer Survey ของ Fed ระบุมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อของธนาคารสหรัฐเข้มงวดใกล้เคียงระดับวิกฤต ขณะที่รายงาน Financial Stability Report ระบุว่าสถานการณ์ Silent bank run ทำให้เกิดวิกฤตสภาพคล่องธนาคาร Regional bank ต่อเนื่อง ทำให้เจ้าหน้าที่ธนาคารคุมเข้มมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อยากขึ้น เกิดความเสี่ยง Credit crunch และกระทบเศรษฐกิจในระยะต่อไป (2) ตัวเลขเศรษฐกิจและเงินเฟ้อชะลอลง โดยเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐและจีนต่ำกว่าคาด โดยเงินเฟ้อทั่วไปสหรัฐเดือนเม.ย.ปรับขึ้นมา 4.9%YoY (+0.4%MoM) ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดและตัวเลขเดือนมี.ค.ที่ 5.0%YoY ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 5.5%YoY (+0.4%MoM) ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาด ทั้งนี้ ราคาที่อยู่อาศัย น้ำมันเบนซินและยานพาหนะมือสองเป็นปัจจัยหลักของเงินเฟ้อในเดือนเม.ย. ซึ่งเงินเฟ้อที่ต่ำกว่าคาด ทำให้ Fed Watch Tool มองว่ามีโอกาส 93% ที่ Fed จะคงดอกเบี้ย และจะเริ่มลดลงในเดือน ก.ย. จนถึงระดับ 4.4% ณ สิ้นปี (3) เงินเฟ้อจีนชะลอตัวเช่นกัน โดยอยู่ที่ 0.1% YoY ต่ำกว่าคาดที่ 0.4% ด้านส่งออกและนำเข้าจีนหดตัวเกินคาดมาก โดยนำเข้าหดตัวถึงกว่า -7.9% จากคาดว่าจะอยู่ที่ +1.1% (4) การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเยอรมนี ที่หดตัว -3.4% เทียบกับเดือนก่อน ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจอื่น ๆ ชะลอเช่นกัน (5) การเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ไม่คืบหน้า หลังจากที่ ปธน.โจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ เนื่องจากไบเดน ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอจากทางฝั่งพรรครีพับลีกันที่ต้องการให้ลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางในช่วงหลายปีข้างหน้า ถึงอย่างนั้น ทั้งสองฝ่าย สองฝ่ายให้คำมั่นว่า จะไม่ให้เกิดการผิดชำระหนี้อย่างแน่นอน และจะกลับมาเจรจาร่วมกันอีกครั้งในวันศุกร์ (12 พ.ค.) ขณะที่เหลือเวลาอีก 3 สัปดาห์ก่อนที่รัฐบาลสหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยปัจจุบันเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่ระดับ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์

ตลาดหุ้นโลก

•สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลดลงจากปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามามากขึ้น ทั้งจาก (1) ความเสี่ยงภาคการเงินที่มีแนวโน้มกระทบเศรษฐกิจมากขึ้น โดยรายงานของ Fed ระบุมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อของธนาคารสหรัฐเข้มงวดใกล้เคียงระดับวิกฤต (2) ตัวเลขเศรษฐกิจและเงินเฟ้อชะลอลง โดยเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐและจีนต่ำกว่าคาด และเป็นทิศทางที่ลดลงต่อเนื่อง ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนีหดตัวมากขึ้น และ (3) การเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ไม่คืบหน้า ส่งผลให้ความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้เพิ่มมากขึ้น

ตลาดหุ้นไทย

•สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีขึ้นจากแรงเข้าสู่ตลาดหุ้นขนาดใหญ่ในระหว่างช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่ผลประกอบการที่ออกมาในสัปดาห์นี้ส่วนใหญ่ตามคาดหรือดีกว่าคาด ขณะที่สถาบันอาหารคาดว่าการส่งออกอาหารไทยจะมีทิศทางดีขึ้นจากความต้องการทั่วโลกที่สูงขึ้น ขณะที่อุตสาหกรรมภาพยนต์ระบุปีนี้ฟื้นตัวดีขึ้นมากจากความต้องการรับชมของประชาชนและมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เตรียมฉายดึงดูดผู้ชมต่อเนื่อง ขณะที่สมาคมธนาคารไทยเตรียมเก็บค่าธรรมเนียมธุรกรรมเงินสุดเพื่อลดต้นทุนของภาคธนาคาร

ตลาดพันธบัตร
•ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.38% จากความเสี่ยงเศรษฐกิจและภาวะการเงินตึงตัวที่มีมากขึ้นหลังวิกฤตธนาคาร ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับตัวลดลงไปอยู่ที่ 3.89% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี ทรงตัวที่ -51 bps
•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 2.50% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ปรับขึ้นที่ 1.94% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 36,176 ล้านบาท

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
•ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงที่ 77.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากความเสี่ยงเศรษฐกิจที่มีมากขึ้น ด้านราคาทองคำ (spot) อยู่ที่ 2,032 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์


ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ทรงตัวที่  101.8 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 134.6 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนลงเล็กน้อยที่ 1.09 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 33.76 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนลงที่ระดับ 6.94 หยวน

 


PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม   WealthWeekend_230512_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5