Keyword
Wealth Weekend

Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 23/06/2023

23 Jun 23 2:32 PM
Program_Thumbnail-07

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้ 

สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลดลงจากความเสี่ยงที่มากขึ้นจาก (1) ประเด็นประธาน Fed แถลงต่อรัฐสภายืนยันพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อ โดยมีรายละเอียดคือ (1.1) มองว่าเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูงและต้องการให้เข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ทำให้สามารถขึ้นดอกเบี้ยได้ต่อ แต่ความเร็วในการขึ้นสามารถชะลอลงได้และขึ้นอยู่กับข้อมูล ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่งแต่เริ่มเห็นความสมดุลความต้องการและปริมาณแรงงานมากขึ้น (1.2) มองว่าขณะนี้ภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ กำลังเสี่ยงจากภาวะสินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อในระยะต่อไป แต่ผลกระทบยังไม่แน่นอน และ (1.3) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาในประเด็นเพิ่มการกำกับธนาคารขนาดเล็ก แต่จะไม่ให้กระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่มีเงินกองทุนอยู่ในระดับสูง (2) ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหราชอาณาจักรเดือนพ.ค. ขยายตัวที่ 8.7%YoY และ +0.7%MoM สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ +8.4%YoY และ +0.5%MoM ทำให้ธนาคารกลางอังกฤษยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง (3) ธ. กลางญี่ปุ่น (BoJ) คงอัตราดอกเบี้ยนโบายที่ระดับต่ำพิเศษที่ -0.1% ต่อไป และคงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) ของพันธบัตร 10 ปีที่ระดับ 0% +/- 0.5% ต่อไป แต่เริ่มส่งสัญญาณพิจารณาเรื่องการจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในระยะต่อไป หลังเริ่มมีสัญญาณว่าค่าแรงและเงินเฟ้ออาจปรับตัวเร็วขึ้น (4) ธนาคารกลางจีน (PBoC) ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ LPR ลง -10bps ตามที่ตลาดคาด ซึ่งเป็นการปรับลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน ส่งผลให้ดอกเบี้ย LPR ระยะ 1 ปี และ 5 ปี เป็น 3.55% และ 4.20% ตามลำดับ ซึ่งเป็นการลดหลังจากมีการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 7 วันและ 1 ปีลงเมื่อสัปดาห์ก่อน (5) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ นายแอนโทนี่ บลิงเคน เดินทางเข้าพบ ปธน. สีจิ้น- ผิงของจีนเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี เพื่อเป็นการปูทางการพบกันระหว่าง ปธน. สีและไบเดนที่สหรัฐในช่วงปลายปี

ตลาดหุ้นโลกสัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลดลงจากความเสี่ยงที่มากขึ้นจาก (1) ธนาคารกลางอังกฤษปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังสูงกว่าประเทศอื่น ๆ (2) ประธาน Fed ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยต่อท่ามกลางสภาพคล่องที่เริ่มตึงตัวมากขึ้น ขณะที่ (3) เศรษฐกิจจีนชะลอตัวแรงขึ้นจนทำให้ทางการจีนประกาศลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้กระตุ้นเศรษฐกิจรุนแรงขึ้น

ตลาดหุ้นไทย

•สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงแรง จาก หุ้น DELTA ที่ตกต่ำลงอย่างหนัก รวมถึงมีแรงขายหุ้น market cap ขนาดใหญ่ ท่ามกลางกระแสการผิดนัดชำระหนี้ของ Stark ขณะที่สภาพัฒน์ประกาศมีวงเงินรอเบิกจ่ายประมาณ 1.9 ล้านลบ. ในไตรมาส 4/66 แต่กังวลนโยบายรัฐสวัสดิการ ภาระหนี้เสียรถยนต์และหนี้ครัวเรือน ส่วนประธานสภาอุตฯ กังวลการขึ้นค่าแรงอย่างก้าวกระโดด ด้านการเมืองมีสัญญาณบวกขึ้นเล็กน้อยหลัง กกต. ประกาศรับรอง ส.ส. เต็มจำนวน ทำให้สามารถเปิดประชุมสภาได้เร็วกว่าแผนเดิมประมาณ 2 สัปดาห์

ตลาดพันธบัตร•ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงมาอยู่ที่ 3.75% ท่ามกลางการส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อจากประธาน Fed ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ทรงตัวที่ 4.74% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -99 bps•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 2.61% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.13% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 603 ล้านบาท

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์•ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงเล็กน้อยจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 16 มิ.ย. ที่ 74.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 74.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจที่มากขึ้นจากดอกเบี้ยที่ยังอยู่ระดับสูง ด้านราคาทองคำ (spot) ลดลงมาอยู่ที่ 1,937 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่  102.04 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 141.9 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.10 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 35.02 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนลงที่ระดับ 7.18 หยวน

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม WealthWeekend_230623_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5