วางกลยุทธ์รับสัญญาณดอกเบี้ยขาลงชัดเจนขึ้นอีก
เศรษฐกิจจีนเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว นโยบายกระตุ้นจะต่อเนื่องหรือไม่ แนะนำกลุ่มไหน
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้การปรับขึ้นของตลาดหุ้นโลกเริ่มชะลอตัวลง หลังตลาดปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา หลังรับรู้ปัจจัยบวกหลายประการไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอ แต่ไม่รุนแรง ดอกเบี้ยที่กำลังอยู่ในช่วงขาลง โดย Fed เริ่มให้น้ำหนักภาคแรงงานเพิ่มขึ้น ในสัปดาห์นี้มีประเด็นบวกต่อหุ้นรายตัวหนุนทำให้หุ้นเทคฯ ขนาดใหญ่ เช่น Alphabet หลังศาลมีคำตัดสินคดีต่อต้านการผูกขาดเป็นคุณต่อบริษัท ด้านตัวเลขแรงงานสหรัฐยังตอกย้ำโอกาสลดดอกเบี้ยสหรัฐในเดือนนี้ โดยตำแหน่งงานว่างเดือน ก.ค. ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด และต่ำสุดตั้งแต่ ก.ย. 2024, รายงาน Beige Book ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจใน 12 เขตส่วนใหญ่ ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย ในด้านราคาทุกเขตรายงานต้นทุนสูงขึ้น อย่างไรก็ตามความผันผวนตลาดเพิ่มขึ้น ตามผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น สะท้อนความกังวลเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจระยะยาว จากปัจจัยด้านเงินเฟ้อ ดุลการคลัง ประชากรสูงวัย และเสถียรภาพทางการเมือง ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวทั้งสหรัฐ ญี่ปุ่นและอังกฤษพุ่งสูงขึ้น นอกจากนั้นยังมีความกังวลว่าสหรัฐจะต้องคืนภาษีนำเข้าที่เรียกเก็บมาหรือไม่ หลังศาลอุทธรณ์สหรัฐตัดสินให้ยกเลิกภาษีศุลกากร "Reciprocal Tariff" ส่วนใหญ่ของทรัมป์เนื่องจากใช้อำนาจเกินขอบเขต โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการฎีกาต่อศาลสูงสุด ด้านตลาดหุ้น EM ปรับขึ้นเล็กน้อย ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาดีกว่าคาด และสูงสุดนับตั้งแต่ พ.ย. 2024 โดยเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 คำสั่งซื้อใหม่โดยรวมเร่งตัวขึ้น ตลาดหุ้นไทยขยับขึ้นได้เล็กน้อย หลังภาพการเมืองเริ่มมีความชัดเจนขึ้น โดยพรรคประชาชนสนับสนุนคุณอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี ในระหว่างรอการแก้รัฐธรรมนูญ ก่อนจะยุบสภา ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากตัวเลขสต๊อกน้ำมันสูงกว่าคาดและท่าทีกลุ่ม OPEC+ ที่จะเพิ่มการผลิตในชั้นที่ 2 รวม 1.6 MBD เร็วกว่าแผนที่เคยประกาศจะลดไปถึงสิ้นปี 2026
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นโลกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน (1) ตลาดคาดหวังการลดดอกเบี้ยของ Fedในเดือน ก.ย. เพิ่มเป็น 96% หลัง รายงานตำแหน่งงานว่าง (JOLTS)สหรัฐฯ ออกมาต่ำกว่าตลาดคาด (2) รายงาน Beige Book ระบุว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจใน 12 เขตส่วนใหญ่ ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย ด้านแรงงานการจ้างงานโดยรวมไม่เปลี่ยนแปลง แต่หลายเขตชี้ว่าบริษัทลังเลที่จะจ้างใหม่
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) การเมืองชัดเจนมากขึ้น เมื่อพรรคประชาชนสนับสนุนอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี (2) เงินเฟ้อไทยเดือนส.ค. หดตัว -0.79% ต่อปี ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 0.75%ต่อปี (เราคาด -0.4%YoY)ส่งผลให้ CPI ช่วง 8M68ขยายตัว 0.08% ต่อปี (3) จำนวน นทท. ต่างชาติเดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อน (25-31 ส.ค.) ลดลง -7% YoY ยังคงเห็นสัญญาณการฟื้นตัวด้วยการติดลบYoYที่ลดลง
ตลาดพันธบัตร
•ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดต่ำลงที่ 4.16% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีลดต่ำลงที่ 3.59% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 57 bps
•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงมาอยู่ที่ 1.26% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 1.09% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 754 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
•ราคาน้ำมันBrentปรับลง 2.4%WoW สู่ 66.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 8ชาติOPEC+กำลังพิจารณาเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบอีกในการประชุมในวันที่7ก.ย. นี้ ซึ่งอาจซ้ำเติมภาวะอุปทานส่วนเกิน ด้านราคาทองคำ (Spot)เพิ่ม3.8%WoWสู่ 3,545.36ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY)ทรงตัวที่ 98.34 จุดขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 148.5 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.16 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 32.30 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.14 หยวน