- ตลาดมองโอกาสเฟดลดดอกเบี้ยลดลง กดดันตลาดหุ้นโลก เรามองอย่างไร
- กลยุทธ์การลงทุน 1Q26 กลุ่มไหนเด่น หุ้นไหนเด็ด
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐที่แรงขายหุ้นกลุ่มเทคฯ ยังคงต่อเนื่อง แม้ตัวแทนหุ้น AI อย่าง Nvidia จะประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าคาด และให้มุมมองไปข้างหน้าที่ดีกว่าคาดเช่นกัน แต่แรงขายทำกำไรหุ้นเทคฯ AI ที่ปรับขึ้นมาโดดเด่น YTD ทำให้ valuation อยู่ในระดับสูง ท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนกลุ่มออกจากหุ้นเติบโต ไปยังหุ้นปลอดภัยยังคงมีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นตลาดอยู่ในช่วงปรับลดความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมเดือน ธ.ค. ที่ล่าสุดมองโอกาสคงดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่า 50% หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ย.ที่ออกล่าช้าจากการปิดหน่วยงานราชการของสหรัฐในช่วงก่อน ขณะที่บันทึกการประชุม FOMC สะท้อนความไม่เป็นเอกฉันท์ โดยกรรมการ “หลายคน” ต้องการคงดอกเบี้ยทั้งปี 2025 ด้านคุณ Powell ส่งสัญญาณว่าการลดดอกเบี้ยเดือน ธ.ค. “ไม่ใช่เรื่องที่แน่นอน” เป็นอีกปัจจัยกดดันตาดหุ้นโดยเฉพาะกลุ่ม Growth ที่มี valuation ตึงตัว หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับลดลง 4.7% จากแรงขายทำกำไรในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ด้านตลาดหุ้น EM ปรับลดลงเช่นกันโดยเฉพาะในกลุ่มเอเชียเหนือ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่มีสัดส่วนหุ้นเทคฯ สูง นอกจากนั้นยังมีแรงกดดันจากความขัดแย้งระหว่างจีน และญี่ปุ่น จากประเด็นเกี่ยวกับไต้หวัน โดยจีนกล่าวหาญี่ปุ่นว่าละเมิดข้อตกลงปี 1972 ที่ว่าด้วยเรื่องไต้หวันและออกคำเตือนการเดินทางไปยังญี่ปุ่นและระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงในทิศทางเดียวกับภูมิภาค และไม่มีปัจจัยบวกใหม่ในประเทศ หลังจบช่วงประกาศผลประกอบการ 3Q25 นายกฯ อนุทินระบุอาจยุบสภาเร็วกว่าแผนหากมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อย จากการคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรัสเซียในช่วงต้น ก่อนจะอ่อนตัวช่วงท้ายสัปดาห์ หลังข่าวการเจรจายุติสงครามกลับมาอีกครั้ง
ตลาดหุ้นโลก
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) FOMC Minutes ระบุว่า กรรมการ “หลาย” คนเห็นว่าเหมาะสมที่จะคงดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันไปตลอดปี 2025 (2) เศรษฐกิจญี่ปุ่นไตรมาส 3/2025 หดตัว -1.8%QoQ, SAAR นับเป็นหดตัวครั้งแรกในรอบ 6 ไตรมาส (3) จีนออกคำเตือนการเดินทางไปยังญี่ปุ่นและระงับการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่น (4) Nvidia รายงานผลประกอบการสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวในสัปดาห์ที่ผ่านมา (1) เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2025 ขยายตัว 1.2%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 1.7% (2) ธปท. รายงานสรุปภาพรวมธนาคารพาณิชย์ ไตรมาส 3/2025 สินเชื่อรวมหดตัว -1.0%YoY ใกล้เคียงไตรมาสก่อน จากสินเชื่อ SMEs และอุปโภคบริโภค ที่ยังหดตัวต่อเนื่อง (3) ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมไทย เดือน ต.ค. 68 ลดลงเล็กน้อยสู่ 87.3 จาก 87.8 ใน ก.ย. โดยถูกกดดันจากการส่งออกสินค้าคงทนที่ชะลอตัว
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 4.09% ขณะที่ระยะสั้น 2 ปีปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.55% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ 54 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ทรงตัวที่ 1.72% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นสู่ 1.34% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 1,543 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมัน Brent ปรับขึ้น 0.14%WoW สู่ 63.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากความกังวลมาตรการคว่ำบาตรสองบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่รัสเซียกำลังจะมีผลบังคับใช้ ด้านราคาทองคำ (Spot) ปรับลง 2.27%WoW สู่ 4,076.59 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 100.16 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 157.39 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.15 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 32.42 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.11 หยวน
