สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลงแรงจาก (1) ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสหรัฐที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2007 กดดันภาพการลงทุน ท่ามกลางกระแส Higher for Longer หลัง Fed ปรับลดการคาดการณ์การลดดอกเบี้ยในปี 2024-25 ลง และปรับประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น ขณะที่คาดการณ์เงินเฟ้อลดลง (2) ความเสี่ยง Government Shutdown ที่มีมากขึ้นหลังสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงในประเด็นการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว (Continuing resolution)ในสหรัฐ แม้ว่าวุฒิสภาจะผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวแล้วก็ตาม ทำให้สถาบันจัดอันดับเครดิต Moody's เตือนว่าจะกระทบต่ออันดับเครดิต (3) ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ Conference Board ลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยอยู่ที่ 103 จุดในเดือน ก.ย. ต่ำกว่าคาดการ์ที่ 105.5 และเดือนก่อนที่ 108.7 โดยประชาชนกังวลต่อภาวะการเงินที่ตึงตัวขึ้นและแนวโน้มตลาดแรงงานในอนาคต ขณะที่ยอดขายบ้านสร้างใหม่หดตัวต่ำสุดในรอบ 5 เดือน โดยอยู่ที่ 6.75 แสนหลัง หดตัว 8.7% ในเดือน ส.ค. เทียบกับเดือนก่อน และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ที่ 6.95 แสนหลัง (4) ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.2% ต่อเดือนในเดือน ส.ค. หลังจากหดตัวลง 5.6% ในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม ยอดคำสั่งซื้อที่หักอาวุธยุทโธปกรณ์และยานพาหนะหดตัว -1.89% ต่อปี ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลงแรงจาก ผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสหรัฐที่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีกดดันภาพการลงทุน ท่ามกลางกระแส Higher for Longer รวมถึงความเสี่ยง Government Shutdown ที่มีมากขึ้นหลังสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงในประเด็นการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว (Continuing resolution) ในสหรัฐ ทำให้ Moody's เตือนว่าจะกระทบต่ออันดับเครดิต และความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่ยอดขายบ้านสร้างใหม่หดตัว 8.7% ต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงหลุดต่ำกว่า 1,500 จุด จากความไม่ชัดเจนในมาตรการ Digital Wallet แม้ว่า (1) นายกฯ จะขยายกรอบการใช้จ่ายเงินนอกงบประมาณตามม. 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง จาก 32% เป็น 45% ของวงเงินงบประมาณในปีงบ 67 เพื่อใช้ในโครงการ Digital Wallet (2) ครม.มีมติ พักชำระหนี้ให้เกษตรรายย่อย ราว 2.7 ล้านราย ยอดหนี้เงิน ต้นราว 2.83 แสนล้านบาทโดยจะชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้แทนเกษตรกรที่เป็นลูกค้า ธ.ก.ส. 4.50% ต่อปี คิดเป็น 1.1 หมื่นล้านบาทต่อปี (3) ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค.66 ขยายตัว +2.6%YoY เป็นบวกครั้งแรกในรอบ 11 เดือน จากสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่กลับมาขยายตัวครั้งแรกในรอบหลายเดือน และ (4) กนง. มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้น ดบ. นโยบาย 0.25% เป็น 2.50% พร้อม ปรับลดเป้า GDP ปีนี้เหลือ 2.8% จาก 3.6% และปีหน้าที่ 4.4% ขณะที่คาดว่ามาตรการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทยัง ไม่ชัดเจนแต่คาดไม่กระทบเครดิตประเทศและจะหนุน GDP ปีหน้าโตเกิน 4%
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นรุนแรงที่ 4.64% สูงสุดในรอบ 15 ปี หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวกว่าคาดหลัง Fed ส่งสัญญาณ Higher for longer ขณะที่ความเสี่ยง Government shutdown มีมากขึ้น ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ทรงตัวที่ 5.13% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2006 ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี ลดลงที่ -0.49 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นที่ 3.26% จากความกังวลว่ารัฐบาลจะต้องออกพันธบัตรมากขึ้นขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี เพิ่มขึ้นที่ 2.56% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 6.1 พันล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับเพิ่มจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 23 ก.ย. ที่ 93.3 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 95.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับลดลงเล็กน้อยที่ 1,892.6 ดอลลาร์ต่อ ทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องที่ 106.4 จุด จากความเสี่ยงเศรษฐกิจที่มากขึ้นหลังดอกเบี้ยสูงต่อเนื่อง ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 149.3 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนค่าที่ 1.05 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงแรงต่อเนื่องที่ 36.77 บาท จากความไม่ชัดเจนนโยบาย Digital Wallet ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.30 หยวน
PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม WealthWeekend_230929_T
