บทสรุปสำหรับสัปดาห์ (26 ก.พ. - 2 มี.ค. 2024) |
ตลาดหุ้นโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% โดยเป็นผลมาจากแนวโน้มการผลิตทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว โดยเฉพาะจากจีนที่ออกมาดีกว่าที่คาด นอกจากนั้นเงินเฟ้อปรับตัวลดลง 200bps YoY มาอยู่ที่ 2.85% ทำให้ท่าทีของ FED จะลดดอกเบี้ยในช่วงปลาย 2Q24 ในขณะที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง 2.2% จากผลประกอบการ 4Q23 ที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ กระแสเงินในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงไหลเข้าตลาดหุ้นตัวเนื่องโดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนหลังเป็นภาพการเก็งกำไรจากมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐและผลการประชุมของรัฐบาลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ขณะที่เริ่มมีแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจากแนวโน้มกำไรฟื้นตัวและธีม AI ที่สนับสนุนแนวโน้มการเติบโต ด้านกระแสเงินในตราสารหนี้เริ่มมีแรงขายในตราสารหนี้ภาคเอกชน ซึ่งมองว่าอยู่ในช่วงการปรับความคาดหวังในการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐที่จะลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด ในสัปดาห์นี้ติดตาม 1) ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่าง Nonfarm payrolls และตัวเลขในตลาดแรงงาน เช่น อัตราการว่างงาน ด้านตัวเลขเศรษฐกิจยูโรโซนเราแนะติดตามตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตและ GDP 4Q23 2) การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลาง ECB ที่จะเผยทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 3) Powell testimonyคำให้การครึ่งปีเกี่ยวกับนโยบายการเงิน 4) รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ (Beige Book) 5) ติดตามการประชุม Two Session ของจีนในวันพรุ่งนี้ 6) ผลประกอบการ MTR, JD Logistic, Broadcom, COSTCO, Oracle, Target, Crowdstrike , Marvell Tech, Kroger, Sea Limited, Campbell, NIO, AMEX,ANF ภาพรวม – ตลาดอยู่ในช่วงการปรับความคาดหวังผลประกอบการใน 1Q24 ที่ต่ำกว่าที่คาดและแนวโน้มดอกเบี้ยที่ลดลงช้ากว่าที่คาด แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังมีความแข็งแกร่งแต่เริ่มเห็นสัญญาณของความเปราะบางและต่ำกว่าที่คาด ทำให้ตลาดการเงินค่อนข้างผันผวนและผลตอบแทนกระจุกตัวอยู่ในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเป็นสำคัญ ส่วนเศรษฐกิจจีนเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นในระดับหนึ่งแต่ยังไม่ชัดเจนเพราะตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ยังอ่อนแอ อย่างไรก็ดีมาตรการแทรกแซงตลาดหุ้นของจีนช่วยพยุงราคาหุ้นได้ระดับหนึ่ง ดังนั้นตลาดจะกลับมาเน้นที่ภาพเศรษฐกิจผ่านการลงทุนรายชั้นสินทรัพย์และรายกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะเน้นไปที่แนวโน้มการเติบโตในช่วง 1H24 เรายังมองว่าภาพการลงทุนดีขึ้นแต่มีความผันผวนในขา Downside จากความคาดหวังที่สูง กลยุทธ์ – สัปดาห์นี้ (4-8 มี.ค.) มองว่า 1) ตัวเลขตลาดแรงงานในสหรัฐจะยังชะลอตัวต่อเนื่อง รวมถึงท่าทีของประธาน FED ที่ยังไม่รีบลดดอกเบี้ย 2) ตัวเลขการค้าของจีนเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวแต่ช้า 3) ผลการเลือกผู้ชิงตำแหน่ง ปธน.สหรัฐในช่วง Super Tuesday ที่คาดว่าทรัมป์และไบเดนจะเป็นคู่แข่งกันและ 4) ตัวเลขเงินเฟ้อญี่ปุ่นที่ยังเร่งตัวขึ้นมาอยู่ที่ 2.5% ซึ่งจะส่งผลกับท่าทีของ BOJ ดูเหมือนภาพเศรษฐกิจมหภาคจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดการเงินผันผวน หุ้นแนะนำ – เราแนะนำหุ้นที่มีความผันผวนต่ำหลังจากช่วงประกาศผลประกอบการและมีแนวโน้มดีใน 1Q24 อย่าง Broadcom และ Costco
|
ท่าน สามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Glabal morning routine_240304_T |