INVX Global Morning Routine - 9 พ.ค. 2566

9 May 23 2:01 PM

บทสรุป

ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น ด้านตลาดสหรัฐฯค่อนข้าง Side way หลังตลาดรอดูสภานการณ์ของ Debt Ceiling ประกอบกับผลประกอบการของกลุ่มบริษัทเล็กออกมาผิดคาดและชะลอตัวส่วนมาก
กระแสเงินในวันที่ 5 พ.ค. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้เริ่มกลับมาเป็นฝั่งซื้อหลังธนาคารกลางเริ่มคงดอกเบี้ยและความเสี่ยงภายนอกเพิ่มขึ้น แต่เป็นการซื้อในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ระยะยาว รวมถึงตราสารหนี้ป้องกันเงินเฟ้อ ในขณะที่ตราสารหนี้คุณภาพดีมีแรงขายและตราสารหนี้ High Yield มีเงินไหลเข้า 2) ) มีแรงซื้อในโลหะมีค่าทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องและลดความเสี่ยงจากประเด็น Debt Ceiling ของสหรัฐ 3) มีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มเชิงรับอย่าง Healthcare และ Consumer Staples 4) หุ้นจีนและตลาด EM มีแรงขายจากผลประกอบการอ่อนแอกว่าที่คาดในขณะที่สหรัฐดีกว่าที่คาด 5) หุ้นกลุ่มที่อิงกับเศรษฐกิจโลกอย่างกลุ่มพลังงาน กลุ่มการเงินและกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมมีการปรับตัวลดลงตามภาพของเศรษฐกิจโลกที่มีความเสี่ยงสภาวะถดถอยเพิ่มขึ้น 6) มีแรงขายในหุ้นขนาดเล็กและหุ้นธีม Growth จากแนวโน้มการเติบโตที่มีความเสี่ยงมากขึ้น
Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปปรับเพิ่มขึ้น 0.4% ราคาก๊าซธรรมชาติเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วน Credit Spread ของ IG ทั่วโลกลดลง 1bps ส่วน HY ปรับตัวลดลง 2bps ขณะที่ภาพรวมยังคงผันผวน กลุ่ม Reopening ในจีนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% หลังไม่มีข่าวใหม่
จากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐนั่นจะพบว่าธนาคารโดยส่วนใหญ่ยกระดับมาตรฐานและความเข้มในการปล่อยกู้มากขึ้น รวมถึงความต้องการในการกู้ยืมก็อ่อนแอลงใน 1Q23 เรามองว่าตัวเลขอาจจะยังไม่ได้สะท้อนภาพของปัญหาสภาพคล่องในธนาคารเล็กในสหรัฐ ซึ่งใน 2Q23 อาจจะเห็นภาพที่ชะลอตัวลงหรือแย่กว่าในช่วง 1Q23 ดังนั้นภาพนี้สะท้อนถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจสหรัฐได้ค่อนข้างดี ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กำลังชะลอตัวลง ซึ่งอาจจะเป็นความเสี่ยงในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้า แต่อย่างไรก็ดี High Yield Spread ยังไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสะท้อนภาพที่เห็นในการสำรวจของธนาคารกลางสหรัฐ เรามองว่าการเข้มงวดในการปล่อยกู้พร้อมกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลงเพิ่มเติมและมีความน่าจะเป็นในการเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วง 2H23 เราจึงแนะนำว่าช่วงเดือน พ.ค. ถึง เดือน ก.ค. ตลาดในภาพรวมยังมีความเสี่ยงเน้นหุ้นกลุ่มเชิงรับที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูงอย่าง KO
หลังจากที่เห็นผลประกอบการ 1Q23 ออกมาไม่ได้ดีมากนักแม้ว่าจะดีกว่าที่คาด จนทำให้ต้องเกิดการใช้สงครามราคาในการแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นในหลายธุรกิจในสัปดาห์หน้าจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ของ Alphabet และ Baidu เพื่อเรียกความเชื่อมั่นและเห็นภาพการฟื้นตัวของรายได้ในระยะถัดไป เรามองว่าพัฒนาของตลาดที่ออกสินค้าใหม่นั้นจะออกไปในแนวการพัฒนาไปควบคู่กับ AI มากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์อย่าง Nvidia และ AMD รวมไปถึงต้นน้ำอย่าง TSMC ที่เป็นผู้ผลิตที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากธีมนี้
Paypal (PYPL) เผยงบภาพรวมดีกว่าคาด โดยกำไรต่อหุ้นเพิ่มขึ้นราว 33%YoY ด้านรายได้เพิ่มขึ้นดีเช่นกัน 8.6%YoY หนุนจาก Total payment ที่เพิ่มขึ้น 10%YoY ด้าน Operating margin +23% ผลจากการลดต้นทุนและการจับจ่ายทางออนไลน์ที่ยังคงดีแม้จะมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อ อย่างไรก็ดีบริษัทคาด Operating profit margin FY23 ขยายตัว 100bps ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดที่ +125bps ทำให้ราคาหุ้นตอบสนองในเชิงลบและปรับตัวลงใน After Hours -5.7%
Western Digital เผยงบ F3Q23 ดีกว่าคาดแต่การเติบโตหดตัวลง ทั้งนี้ยังคงให้คาดการณ์รายได้ใน F4Q23 ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ เรามองว่าผลประกอบการอาจผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาสนี้แล้ว อย่างไรก็ดีจากภาพรวม Guidance ที่บริษัทให้ต่ำกว่าที่ตลาดคาด ทำให้เราเชื่อว่าการฟื้นตัวจะไม่เร็ว ประกอบกับมองผลประกอบการใน F4Q23 จะยังคล้ายกันกับภาพใน F3Q23 หลังการระบายสินค้าคงคลังในกลุ่ม PC ใช้เวลานานกว่าที่คาด

PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม Global morning routine_230509_T