บทสรุป |
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรงตัว โดยตลาดรอปัจจัยใหม่และดูท่าทีของประธานธนาคารกลางสหรัฐ หลังจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า และตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาต่ำกว่าที่คาด ทั้งนี้ท่าทีของคณะกรรมการ FED บางรายยัง Hawkish แต่ตลาดไม่ตอบรับกับภาพดังกล่าว บ่งชี้ว่าตลาดคิดว่าเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงแลราคาน้ำมันที่ลดลงจะช่วยให้เงินเฟ้อลดลง กระแสเงินในวันที่ 7 พ.ย. 2023 1) กระแสเงินในตราสารหนี้มีแรงขายทำกำไรหลังจากที่ Yield ปรับตัวลดลงต่อเนื่องและความเสี่ยงในอิสราเอลไม่ขยายวงกว้าง แต่เงินที่ออกน่าจะรอจังหวะในการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหรือซื้อตราสารหนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย 2) มีแรงซื้อในหุ้นขนาดเล็กเป็นภาพของการเก็งกำไรแนวโน้มผลประกอบการและเก็งจังหวะตลาดฟื้นตัว 3) มีแรงซื้อในหุ้นธีม Growth และมีแรงซื้อกลับในกลุ่มกลุ่มเทคโนโลยีจาก Yield ที่ปรับตัวลงและภาพการฟื้นตัวของผลประกอบการ 4) มีแรงตลาดหุ้นญี่ปุ่นจากแนวโน้มค่าเงินที่แข็งค่ามากขึ้นทั้งนี้มองเป็นผลจากการเปลี่ยนนโยบายการเงินที่ตึงตัวขึ้น 5) มีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานจากผลประกอบการที่อ่อนแอและราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ส่วนต่างดอกเบี้ยของกลุ่ม IG ทั่วโลกปรับตัวเพิ่มขึ้น 1bps ส่วนตราสาร HY ปรับเพิ่มขึ้น 3bps ส่วน CDS ทั้ง IG และ HY ปรับตัวลดลง 0.2% และ 0.3% หลังท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐจะคงดอกเบี้ยและมีท่าทีที่ Dovish มากขึ้น ตลาดหุ้นจีนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Reopening ในจีนภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4% ตลาดค่อนข้างผันผวนไม่มีปัจจัยสนับสนุนใหม่ จึงแกว่งตัวตามตลาด ผลประกอบการใน 2QFY24 ของ ARM ออกมาดีกว่าที่คาด โดยรายได้มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ 8% หักรายการพิเศษ EPS อยู่ที่ $0.36 มากกว่าที่ตลาดคาดที่ $0.26 แต่อย่างไรก็ดีบริษัทมีการให้แนวโน้มรายได้และกำไรใน 3QFY24 ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ทำให้ตลาดตอบสนองเชิงลบต่อผลประกอบการในรอบนี้ อย่างไรก็ดีในระยะกลางถึงยาวยังดี Annualized Contract Value ยังทำจุดสูงสุดใหม่เพิ่มขึ้น 8% YoY และ 6% QoQ รวมถึง Remaining Performance Obligation เพิ่มขึ้น 38% YoY, 45% QoQ ทำให้แนวโน้มการเติบโตข้างหน้ายังโดดเด่น เรามองว่าอุตสาหกรรม Smartphone ฟื้นตัวช้า แต่อุตสาหกรรมอื่นฟื้นต่อเนื่อง ทำให้เราเน้นซื้อแถวแนวรับที่ $50 เพื่อแต้มต่อในการลงทุน และมองกรอบบนของราคาที่ $60-65 ผลประกอบการใน 4QFY23 ของ Disney ออกมาดีกว่าที่คาด โดยเห็นการฟื้นตัวในภาพรวม นอกจากนั้นบริษัทมีแผนการลดค่าใช้จ่ายและขายธุรกิจไม่ทำเงิน รวมถึงมองว่า Disney+ จะมีกำไรใน 4QFY24 ในปี 2024 มองว่าการเติบโตจะมาจากการลดค่าใช้จ่ายที่ US$7.5b สูงกว่าแผนที่วางเอาไว้ที่ US$5.5b นอกจากนั้นจะมีการลดขนาดของธุรกิจ Traditional TV networks (ABC, National Geographic, FX) และคาดว่าธุรกิจ Streaming จะพลิกเป็นกำไร คาดว่า Free Cash Flow ในปี 2024 จะดีขึ้นและเพิ่มขึ้นจาก 2023 อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่า Capex จะคงไว้ที่ US$6b เรามองว่าราคาหุ้นจะตอบสนองกับผลประกอบการ โดยราคาแถว $80-85 มีความน่าสนใจกับ Valuation P/E 15x หากกลยุทธ์ทำได้จริงและมีพัฒนาการบวกต่อเนื่องในปี 2024 ราคามีแนวโน้มไปถึง $100-110 |
