บทสรุป
ตลาดในภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากนักลงทุนคาดหวังว่าในการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐจะออกมาน่ากลัวน้อยกว่าที่คาด ซึ่งอาจจะทำให้คลายความกังวลบนภาพนโยบายการเงิน
1) กระแสเงินในตราสารหนี้ค่อนข้างผันผวน มีกรแสเงินไหลออกในปริมาณที่มากจากความกังวลเรื่องแนวโน้มของนโยบายการเงินสหรัฐที่ตึงตัวกว่าที่คาด 2) เริ่มมีแรงขายในตลาดจีนและตลาด EM หลังจากที่กระแสข่าวของการเปิดเมืองของจีนเริ่มน้อยลงและสะท้อนอยู่ในราคาแล้วระดับหนึ่ง 3) มีแรงขายในหุ้นธีม Growth และ Technology ท่ามกลางความกังวลเรื่องแนวโน้มการเติบโต ส่วนกลุ่มพลังงานมีแรงขายต่อเนื่องจากความผันผวนของราคาสินค้าอ้างอิง 4) มีแรงซื้อในยุโรปจากภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้น 5) เห็นแรงขายในหุ้นกลุ่มเชิงรับอย่างกลุ่ม Healthcare และกลุ่ม Utilities
Credit Spread ของ IG ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2bps ส่วน HY ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8bps นอกจากนั้น Credit Default Swap ของ IG และ HY ปรับลดลง 2.2-2.3% มองว่าความเสี่ยงด้าน Credit ยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ บ่งชี้ว่าตลาดเครดิตยังไม่มีประเด็นต้องกังวลในระยะสั้น
มีรายงานจากฝั่งจีนว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของจีน โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเมืองและเปิดประเทศของจีนนั้นมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน เราเริ่มเห็นหุ้น Reopening จากทางฝั่งจีนฟื้นตัวหลังจากที่ปรับตัวลดลง 9-10 วันต่อเนื่อง หากต้องการเล่นในกลุ่มนี้เราแนะนำหุ้นที่ราคายังไม่กลับไป Pre COVID-19 อย่าง Beijing Capital International Airport, Shanghai International Airport, Sands China รวมถึงหุ้นผลประกอบการดีอย่าง Yum China
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐเริ่มเฝ้าดูท้องฟ้าอย่างใกล้ชิดมากขึ้นในช่วงหลังนับตั้งแต่บอลลูนสอดแนมของจีนที่ถูกกล่าวหาว่าบินผ่านดินแดนของสหรัฐฯ ทำให้เกิดความกังวลในระดับชาติและความตึงเครียดรอบใหม่กับจีน ประเด็นนี้เป็นความเสี่ยงหลักที่จะกดดันตลาดในระยะถัดไป หากว่าความรุนแรงเพิ่มขึ้นและมีการตอบโต้กัน ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงการเติบโตของโลกลดลง ซึ่งเรามองว่าไม่ควรจะมองข้ามความเสี่ยงนี้เพราะจะเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ตลาดมีการปรับตัวลดลงในระยะสั้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้มากนัก
ตลาดรถยนต์ซาอุดีอาระเบียมียอดขายต่อปีประมาณ 5-6 แสนคัน ถ้ามีมาตรการก็ประมาณ 8-9 แสนคัน ใกล้เคียงกับตลาดไทยซึ่งก็ถือว่าใหญ่เพียงพอที่จะทำกำไร รวมถึงส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเติบโตที่สูงและมีกำลังซื้อที่สูงเช่นกัน หุ้นที่คิดว่าจะได้ประโยชน์ 1) OEM - Lucid, BMW, BYD (รอ FTA) 2) Battery - CATL, LGES, Panasonic (ซื้อทั้งบริษัทไม่คิดว่าดี) 3) charger - Siemen, ABB
ผลประกอบการของ SolarEdge ใน 4Q22 ออกมาดีกว่าที่คาดทั้งรายได้และกำไร โดยเป็นผลมาจากการขยายอย่างรวดเร็วในยุโรปอย่างเนเธอร์แลนด์ สเปนและฝรั่งเศส เรามองว่าการเติบโตในปี 2023 นั้นจะไปได้ต่อเนื่องจากผลกระทบด้านพลังงานจากรัสเซียและยูเครนและประเด็นเรื่องเป้าหมายการลดโลกร้อน แต่อย่างไรก็ดีอาจจะมีความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งอาจจะทำให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ดีประโยชน์ที่ได้จาก Inflation Reduction Acts ก็น่าจะช่วยลดผลกระทบได้ในระดับหนึ่ง การลงทุนใน SolarEdge จึงเหมาะกับการลงทุนในระยะยาวจากประเด็นเรื่องพลังงานสะอาดเป็นสำคัญ แต่ในระยะสั้นความเสี่ยงเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงและภาพของความขัดแย้งเชิงภูมิรัฐศาสตร์อาจจะกดดันราคาหุ้นให้มีความผันผวนในช่วงสั้น