บทสรุป
ตลาดหุ้นทั่วโลกฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากปรับตัวลดลงไปในช่วงอาทิตย์ก่อน ซึ่งเรามองเป็นการซื้อเพื่อเก็งกำไรในระยะสั้น ขณะที่ระยะยาวยังคงมีแรงกดดันจากทิศทางการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางที่อาจนานขึ้นหลังตัวเลขเศรษฐกิจและแรงงานที่ออกมาค่อนข้างแกร่งต่อเนื่อง
กระแสเงินในวันที่ 24 ก.พ. 2023 1) มีแรงซื้อกลับในตราสารหนี้โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้คุณภาพดีหลังจากที่ตลาดปรับความคาดหวังบนการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐไปแล้วระดับหนึ่งและเงินมีไหลออกไปก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก รวมถึงการยอมรับความเสี่ยงของนักลงทุนลดลง แต่ High Yield มีแรงขายจากความกังวลเรื่อง Credit Spread ที่เพิ่มขึ้น 2) เริ่มมีแรงขายในตลาดเอเชียและ EM ทั้งนี้มองเป็นเรื่องของทิศทางค่าเงินดอลลาร์ 3) มีแรงขายในกลุ่ม Growth และเทคโนโลยีท่ามกลางความกังวลเรื่องแนวโน้มการเติบโต 4) มีแรงซื้อในตลาดยุโรปจากเรื่องราคาพลังงานที่ปรับตัวลดลงและผลประกอบการ 4Q22 ออกมาดีกว่าที่คาด และก็เริ่มเห็นแรงซื้อในตลาดจีนแต่ปริมาณเงินยังไม่สูงมากนัก
Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ส่วนราคาถ่านหินในยุโรปปรับตัวลดลง 4.3% และราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 7.5% ด้านค่าระวางเรือในแม่น้ำไรน์ปรับเพิ่มขึ้น 11.4% -ส่วน Credit Spread ของ IG ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1bps ส่วน HY ปรับตัวลดลง 5bps เราเริ่มเห็นความกังวลมากขึ้นในตลาด Credit ในระยะสั้น CDS ปรับลดลง 1.5-2% DoDส่วนราคาหุ้นที่อิงกับการเปิดเมืองจีนยังอยู่ในช่วงของการปรับฐานและมีความผันผวนค่อนข้างในระยะสั้น แต่ยังมีมุมมองเชิงบวกกับการเปิดเมืองของจีนต่อเนื่อง
มีรายงานจากทางรัฐบาลจีนว่ามีการปิดเหมืองแร่ลิเธียมที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 10 ของโลกด้วยเหตุผลด้านสิ่งแวดล้อมที่มีการปล่อยมลพิษในระดับที่สูงกว่าปกติมาก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบกับการผลิตแร่ลิเธียม 8-13% ของการผลิตทั้งหมด จากประเด็นนี้อาจจะส่งผลกระทบกับราคาลิเธียมให้ปรับเพิ่มขึ้นและส่งผลลบกับผู้ผลิตแบตเตอรี่ที่มีต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เพราะลิเธียมคิดเป็นราว 10% ของต้นทุนทั้งหมด แต่เรามองว่าผู้ผลิตแบตเตอรี่จะมีการส่งผ่านต้นทุนนี้ได้ แต่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอาจจะได้รับผลกระทบที่มากกว่าเพราะมีการแข่งขันที่สูง จึงทำให้ราคาหุ้นอาจจะได้รับผลในระยะสั้น ในขณะที่ผู้ผลิตแร่ลิเธียมมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของราคาลิเธียม โดยเรามองว่าบริษัทที่จะได้ประโยชน์ได้แก่ Ganfeng Lithium Group, Albermarle, Lithium America, Livent, QuantumScape
ผลประกอบการใน 4Q22 ของ Booking.com ออกมาดีกว่าที่คาด โดยรายได้เพิ่มขึ้น 36% YoY มากกว่าที่ตลาด 4% อัตราการทำกำไร EBITDA ลดลง YoY มาอยู่ที่ 30.7% มากกว่าที่คาดที่ 29.5% ส่งผลให้กำไรปรับเพิ่มขึ้น 100% YoY และมากกว่าที่ตลาดคาด 15% สะท้อนภาพการฟื้นตัวของบริษัทจากการเปิดประเทศและการฟื้นตัวของภาคบริการ อย่างไรก็ดีมีผลกระทบจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเพราะรายได้มากกว่า 80-90% มากจากต่างประเทศ เรามองว่าหุ้นกลุ่มนี้ได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศ แต่ในส่วนของ Booking นั้นอาจจะมองว่ามีการเติบโตที่มีกว่าคู่แข่งและมากกว่าที่คาด น่าจะส่งผลกับการปรับประมาณขึ้นทั้งแนวโน้มกำไรและราคาเป้าหมาย ค่าเฉลี่ยราคาเป้าหมายของ Booking.com อยู่ที่ 2,751 มี Upside 9.1%
Zoom และ Workday เผยงบดีกว่าคาด ขณะที่ให้คาดการณ์รายได้ใน FY23 ยังคงเติบโต อย่างไรก็ดีราคาหุ้นในช่วง After Hours ที่ตลาดรีแอคดูเหมือนจะสวนทางกัน โดย ZM +7.4% และ WDAY -3% ขณะที่เรามองธุรกิจของ Zoom ยังคงมีแรงกดดันจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่กลับไปทำงานออฟฟิศ, ฐานการเติบโตสูงในต้นปี 22 ประกอบกับการแข่งขันจากคู่แข่งที่เพิ่มขึ้น ทำให้เรายังคงไม่ชอบ Zoom ถึงแม้จะมีการปรับลดค่าใช้จ่ายและปรับโครงสร้างบริษัท ขณะที่มอง Workdayมีลักษณะธุรกิจที่โดดเด่นกว่าบริษัทซอฟต์แวร์อื่น อย่างไรก็ดีเรามองธุรกิจยังคงมีแรงกดดันจากแนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัวที่ส่งผลให้ลูกค้าองค์กรยังคงลดค่าใช้จ่ายต่อเนื่องในช่วงต้นปี 23 ทำให้เราแนะรอจังหวะการลงทุนโดยอาจหวังการฟื้นตัวในช่วงครึ่งปี่หลังปี 23
