- ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลงเล็กน้อย 0.2% หลังจากตัวเลขภาคการผลิตในสหรัฐและจีนออกมาค่อนข้างอ่อนแอ นอกจากนี้ตัวเลขผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) สหรัฐฯ เดือนก.พ. ลดลง สู่ระดับ 9.9 ล้านตำแหน่ง ซึ่งต่ำกว่าตลาดคาดและต่ำกว่าระดับ 10 ล้านตำแหน่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2564 ด้วยภาพเช่นนี้ทำให้ตลาดกังวลทิศทางตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลงอาจฉุดให้เศรษฐกิจถดถอยได้
- กระแสเงินในวันที่ 31 มี.ค. 2023 1) เริ่มเห็นแรงซื้อในตราสารหนี้โดยเฉพาะตราสารหนี้คุณภาพดีและพันธบัตรรัฐบาล หลังจากสถานการณ์ของความผันผวนในอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น ประกอบกับนักลงทุนเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นในตราสาร High Yield ส่งผลให้ Credit Spread ลดลง 60bps ในสัปดาห์ที่ผ่านมา 2) มีแรงซื้อกลับในตลาด EM และตลาดหุ้นจีนทั้งนี้มองว่าไม่มีข่าวลบและค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า 3) มีแรงขายในกลุ่มเทคโนโลยีและอสังหาริมทรัพย์จากภาพ Yield ที่ปรับเพิ่มขึ้นในระยะสั้น 4) มีเงินไหลออกจากตลาดเงินใน EM มากขึ้นทั้งนี้มองเป็นการเปลี่ยนไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น 5) ยังมีแรงขายในหุ้นขนาดเล็กในช่วงการปรับประมาณการลง รวมถึงปัจจัยภายนอกที่ผันผวน
- Russia-Ukraine ไม่มีพัฒนาการเชิงบวก ด้านราคาถ่านหินในยุโรปลดลง 4.2% ราคาก๊าซธรรมชาติลดลง 8.5% เป็นความกังวลต่อการขึ้นของราคาพลังงานที่จะส่งผลกับอุปสงค์และมองว่าความผันผวนยังอยู่ในระดับที่สูงส่วน Credit Spread ของ IG ทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1bps ส่วน HY ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7bps ขณะที่มีสัญญาณของแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่ม Reopening ในจีนหลังจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 วันติดต่อกันรวม 6% ทำให้มีแรงขายออกมาบ้างโดยราคาลดลง 0.4% โดยกลุ่มที่มีแรงขายได้แก่กลุ่มเสื้อผ้า ท่องเที่ยวและร้านอาหารที่ลดลง 2-3% ในขณะที่กลุ่มสายการบินและสวนสนุกยังปรับเพิ่มขึ้นได้ 1%
- หลังจากตัวเลขภาคการผลิตในสหรัฐและจีนออกมาค่อนข้างอ่อนแอทำให้ตลาดกดดันกับการฟื้นตัวและความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจในอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ท่ามกลางความเปราะบางในกลุ่มธนาคารและท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐที่ยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบตึงตัวต่อเนื่อง ดังนั้นการลงทุนในตลาดสหรัฐยังคงเน้นไปที่หุ้นกลุ่มเชิงรับที่มีอำนาจในการกำหนดราคาสูงอย่าง UNH, WMT, PG, KO, MCD, SBUX รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่จะฟื้นตัวใน 2H23 อย่าง MSFT, CRM, NVDA, TSMC, ASML, AMD ทั้งหมดมีงบดุลที่แข็งแกร่งที่ลดความเสี่ยงการเงินได้
- ผลสำรวจของ PBOC สะท้อนความต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างมากใน1Q23 แต่การอนุมัติสินเชื่อหดตัวลงสะท้อนการคุมเข้มที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ธนาคารยังคาดว่านโยบายการเงินจะผ่อนปรนน้อยลงในไตรมาสถัดไป ขณะที่เรายังคงเชื่อมั่นต่อการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในระยะถัดไป โดยเฉพาะการบริโภคในประเทศที่ยังคงมีแรงหนุนจาก 1) อุปสงค์และความต้องการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2) การดำเนินงานของบริษัทที่คล่องตัวและฟื้นตัวดีหลังทางการจีนมีการเปิดเมือง 3) การสนับสนุนของภาครัฐฯต่ออุตฯในประเทศ และโดยเฉพาะอุตฯอสังฯที่ซบเซาในช่วงก่อน ซึ่งทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ขณะที่มองหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากภาพนี้ ได้แก่ Sands China (1928) Sa Sa (178) , Chow Tai Fook (1929) JXR (01951), AIR CHINA (00753) Semiconductor Manufacturing (981) ด้าน A-shares Kweichow Moutai , Yili
|