Keyword
Wealth Weekend

INVX Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 22/12/2023

22 Dec 23 1:00 AM
Program_Thumbnail-05

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้ 

สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) สหรัฐที่ส่งสัญญาณ Pivot ขณะที่ (1) ตัวเลข Composite PMI ของสหรัฐขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 51.0 จาก 50.7 ในเดือน พ.ย. แต่ดัชนี PMI พบว่าภาคการผลิตสหรัฐยังคงลดลงเหลือ 48.2 ในเดือน ธ.ค. จาก 49.4 ในเดือน พ.ย. แต่ PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นเป็น 51.3 จาก 50.8 ขณะที่ดัชนี PMI ยุโรปหดตัวเป็นเดือนที่ 7 มาอยู่ที่ 47 เช่นเดียวกับดัชนี PMI ของเยอรมนีและฝรั่งเศสแสดงที่ลดลงมาอยูํ่ที่ 46.7 และ 43.7 (2) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐของ conference board ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 110.7 ในเดือน ธ.ค. สูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. (3) ยอดขายบ้านมือสอง เดือน พ.ย. ของสหรัฐ ขยายตัว 0.8% ต่อเดือน สู่ 3.82 ล้านยูนิต สูงกว่าคาด (4) นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ ธ. กลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า จะยังคงใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายเป็นพิเศษต่อไป รวมถึงไม่ลังเลที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมหากจำเป็น ทำให้ค่าเงินเยนกลับมาอ่อนตัวลงเล็กน้อยหลังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง (5) กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ยกระดับการโจมตีเรือสินค้าในทะเลแดง ทำให้บริษัทขนส่งรายใหญ่เริ่มเลี่ยงเส้นทางทะเลแดง อันได้แก่ เมอส์ก (Maersk), ฮาแพฟ-ลอยด์ (Hapag-Lloyd), CMA CGM และเอเวอร์กรีน (Evergreen) ตัดสินใจระงับการเดินทางผ่านทะเลแดงแล้ว เช่นเดียวกับผู้ผลิตน้ำมัน BP ขณะเดียวกัน สหรัฐประกาศจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจ 10 ประเทศ เพื่อคุ้มครองการเดินเรือในทะเลแดง ทำให้ราคาพลังงานเริ่มปรับเพิ่มขึ้น โดยราคาเริ่มปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจาก 2 สัปดาห์ก่อน (6) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกจีนขยายตัวในเดือน พ.ย. ที่ 6.6% และ 10.1% ต่อปี ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ 4.6% และ 7.6% ต่อปีตามลำดับ แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นผลจากฐานต่ำในปีที่แล้วที่จีนยังบังคับใช้มาตรการ Covid zero (ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกในเดือน พ.ย. 2022 อยู่ที่ 2.2% และ -5.9% ตามลำดับ) ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในเดือน พ.ย. 2023 ยังคงขยายตัวต่ำที่ 2.9% ขณะที่การลงทุนในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ลดลง 9.4% ขณะที่ราคาบ้านในตลาดรองลดลงมากที่สุดในรอบ 9 ปี (6) GDP 3Q66 (ประมาณการครั้งที่ 3) ของสหรัฐขยายตัว 4.9% ต่ำกว่าคาดที่ 5.1% ขณะที่ตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 อยู่ที่ 4.9% และ 5.2% โดยเป็นผลจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค การลงทุนเอกชน สินค้าคงคลัง และการส่งออก ขยายตัวลดลง โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็นประมาณ 2 ใน 3 ของเศรษฐกิจ ถูกปรับลดลงเหลือ 3.1% จาก 3.6%

ตลาดหุ้นโลก

•สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) สหรัฐที่ส่งสัญญาณ Pivot ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในภาพรวมยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดย Composite PMI ของสหรัฐขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนที่ 51.0 จาก 50.7 ในเดือน พ.ย.เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและยอดขายบ้านมือสอง แต่ PMI ยุโรปปรับลดลงต่อเนื่อง ด้านเยนกลับมาอ่อนตัว ลงเล็กน้อยหลังแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องหลัง BOJ ยังส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย ด้านราคาน้ำมันเริ่มปรับเพิ่มขึ้นหลังกบฎฮูติก่อวินาศกรรมเรือพาณิชย์ในทะเลแดง

ตลาดหุ้นไทย

•สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้น จากผลบวกจากตลาดโลกที่ปรับตัวดีขึ้นหลังการประชุม Fed ขณะที่ในไทยมีปัจจัยจาก (1) คลังเตรียมเสนอ ครม. พิจารณามาตรการลดภาษีเครื่องดื่มและการยกเลิกร้าน Duty Free ขาเข้าทุกสนามบินช่วงปลายปี เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาใช้จ่ายในประเทศแทน (2) สรท.จับตาสถานการณ์โจรสลัดฮูตีโจมตีเรือพาณิชย์ขนส่งผ่านทะเลแดง โดยไทยส่งสินค้าผ่านช่องทางนี้ไปยุโรป 8% หากยืดเยื้อเกิน 1 อาทิตย์ ดันค่าระวางเรือขึ้น กระทบส่งออกไทยปี 24 (3) นายกฯ เปิดผลเดินทางเยือนญี่ปุ่น มั่นใจดึงดูดการลงทุนมาไทย ทั้ง EV ดิจิทัล แรงงานทักษะสูง ขณะที่ญี่ปุ่น พร้อมร่วมมืออุตสาหกรรมใหม่ ขณะที่ไทยพร้อมร่วมวง OECD

ตลาดพันธบัตร

•ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวที่ 3.90% หลัง Fed pivot ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ทรงตัวที่ 4.33% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -3 bps

•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับลดลงที่ 2.75% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.34% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 5,026 ล้านบาท

ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

•ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 15 ธ.ค. ที่ 76.6 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 80.0 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังกบฎฮูติก่อวินาศกรรมเรือพาณิชย์ในทะเลแดง ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,061.6 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงที่ 101.8 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่ามาอยู่ที่ 142.5 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.10 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 34.68 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.15 หยวน 

ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Wealth weekend_231222_T

Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5