เนื้อหาโดยรวม
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย ปัจจัยบวกยังหนุนจากผลประกอบการของหุ้น Oracle ที่ออกมาดีกว่าตลาดคาด สะท้อนภาพบวกต่อเนื่องไปยังธุรกิจ AI ขณะที่ปัจจัยกดดันมาจากตัวเลขเงินเฟ้อทั้งฝั่งผู้บริโภคและฝั่งผู้ผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด รวมไปถึงตัวเลขการว่างงานที่ยังสะท้อนตลาดแรงงานแข็งแกร่ง ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสหรัฐเร่งตัวขึ้นสู่ 4.29% นำไปสู่การขายทำกำไรในช่วงท้ายสัปดาห์ จากความกังวลความเป็นไปได้ของการลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ซึ่งล่าสุดตลาดยังให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. ที่ 60% ลดลงจากก่อนประกาศตัวเล็ก CPI ที่ระดับสูงกว่า 70% ด้านตลาด EM ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่านำโดยหุ้นจีนจากความคาดหวังนโยบายหลังการประชุม 2 สภา และตัวเลขเงินเฟ้อที่ฟื้นตัว เป็นผลจากการใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนสะท้อนจากเงินเฟ้อในภาคบริการ โดยเฉพาะในธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและสันทนาการที่เพิ่มขึ้นที่ 23% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นจีน ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้ปัจจัยหนุนจากการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันในรัสเซียจากโดรนของยูเครน และการปรับคาดการณ์อุปสงค์เพิ่มขึ้น โดย IEA พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์อุปทาน จากการควบคุมการผลิตของกลุ่ม OPEC+
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังไปได้ต่อเนื่องท่ามกลางโอกาสที่ Fed จะลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. มีมากขึ้น ทั้งจาก (1) การว่างงานสหรัฐเพิ่มขึ้นท่ามกลางเงินเฟ้อที่ลดลง (2) เงินเฟ้อสหรัฐเพิ่มขึ้นแต่เป็นผลจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และ (3) เงินเฟ้อจีนเริ่มฟื้นตัว ท่ามกลางมาตรการภาครัฐที่เน้นการจับจ่าย
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่ (1) ส.อ.ท ระบุผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน ก.พ. ลดลง จากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศและการส่งออก (2) ธปท. ออกมาตรการแก้ปัญหาหนี้เรื้อรัง โดยเฉพาะหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลประเภทวงเงินหมุนเวียน (3) ก.คลังเตรียมเสนอ ครม. พิจารณามาตรการเสริมสภาพคล่องช่วย SME ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นรุนแรงมาอยู่ที่ 4.29% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี เพิ่มขึ้นที่ 4.69% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -40 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงที่ 2.51% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.13% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 7,431 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 8 มี.ค. ที่ 82.08 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 85.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,168.4 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 103.44 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 148.45 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนลงที่ 1.09 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อยที่ 35.83 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.19 หยวน
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Wealth weekend_InnovestX_240315_T |