สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นได้ แม้ในช่วงต้นสัปดาห์จะมีการปรับฐานลงมาบ้าง แต่หลังรายการประชุมเฟดเดือน ม.ค. มีการระบุถึงการทำ QT ลดลง รวมถึงการประกาศผลประกอบการ NVDA ออกมาแกร่งกว่าคาด ช่วยปลุกกระแส AI และหุ้นกลุ่มเทคฯ ขึ้นมาอีกครั้ง อีกทั้งยังได้แรงส่งเชิงบวกจากตัวเลขการท่องเที่ยวของจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ฟื้นตัวได้ดีกว่าคาดการณ์ ในส่วนของตลาดหุ้นจีนยังมีปัจจัยหนุนจากการออกมาตรการหนุนกลุ่มอสังหาฯ หลังธนาคารกลางจีน (PBOC) ปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย 5 ปี (LPR) ลง 0.25% สู่ระดับ 3.95% และกระทรวงการเคหะฯ จีน ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ผ่านมาตรการ white list ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นยืนเหนือ 1,400 จุดได้อีกครั้งหลังหลังกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้าในภูมิภค และตลาดหุ้นไทยที่ Laggard นอกจากนั้นหุ้นในกลุ่มธนาคารยังประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงว่าคาด ซึ่งนอกจากจะทำให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลจูงใจมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการบริหารเงินทุนที่จะช่วยหนุนให้ผลตอบแทนและมี valuation ที่ดียิ่งขึ้น ตลาดน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยจากความไม่สงบในตะวันออกกลางที่ยังยืดเยื้อ
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นจากหุ้น Nvidia ที่ขยายตัวร้อนแรง ขณะที่ Fed minute ที่ส่งสัญญาณไม่รีบลดดอกเบี้ย ทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น ด้านทางการจีนออกมาตรการช่วยภาคอสังหาฯ ต่อเนื่อง โดยปรับลดดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัย 5 ปี และ ประกาศอัดฉีดสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการอสังหาฯ ผ่านมาตรการ white list
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวตามตลาดหุ้นจีนและแรงซื้อในหุ้นงบที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงจาก (1) GDP ไตรมาส 4/23 ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดมาก ขณะที่สภาพัฒน์ปรับลดประมาณการปีนี้ลง (2) ผู้ว่าฯ ธปท. ให้สัมภาษณ์ว่าไม่ควรเร่งลดดอกเบี้ยเพราะอาจกระทบเสถียรภาพเศรษฐกิจ ขณะที่ ธปท. ระบุ LTV ปัจจุบันเหมาะสมแล้ว หากผ่อนเกณฑ์อาจกระทบเสถียรภาพการเงิน
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 4.33% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี เพิ่มขึ้นที่ 4.72% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -39 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับลดลงที่ 2.56% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.15% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 2,675 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 16 ก.พ. ที่ 83.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 83.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังยืดเยื้อ เศรษฐกิจสหรัฐยังแข็งแกร่ง ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,035.3 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ 103.96 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 150.5 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ 35.93 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงที่ระดับ 7.19 หยวน
อ่านเพิ่มเติม คลิก Wealth weekend_InnovestX_240223_T
