เนื้อหาโดยรวม
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวลง โดยตลาดหุ้นฝั่ง DM อ่อนแอกว่าฝั่ง EM นำโดยตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งถูกกดดันจากความกังวลเฟดอาจชะลอเวลาการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายออกไป หลังตัวเลขเศรษฐกิจและการจ้างงานเดือน มี.ค. ออกมาแข็งแกร่งกว่าที่ตลาดคาดไว้ อาทิ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการจ้างงานภาคเอกชน (ADP) ทำให้ประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายส่งสัญญาณจะยังไม่รีบลดดอกเบี้ย อีกทั้งยังมีแรงขายทำกำไรในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังปรับขึ้นแรงช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ตลาดหุ้นฝั่ง EM ได้แรงหนุนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตจากทางการจีนออกมาดีกว่าคาดและนับเป็นการฟื้นตัวขึ้นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี อีกทั้งยังมีความคาดหวังจากท่าทีของรัฐบาลจีนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดหุ้นไทยทรงตัวด้วยวอลุ่มซื้อขายที่เบาบาง หลังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ โดยนักลงทุนอยู่ระหว่างรอผลประชุมนโยบายการเงินของ กนง. และบอร์ดดิจิทัลชุดใหญ่ในวันที่ 10 เม.ย. นี้ อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น โดยน้ำมันดิบ Brent เพิ่มขึ้นทะลุ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจากนี้คงต้องจับตาผลกระทบการปรับขึ้นแรงของราคาน้ำมันจะมีต่อเงินเฟ้อทั่วโลกเพียงใด
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลง จากกังวลเฟดอาจชะลอเวลาปรับลดดอกเบี้ย หลัง (1) ประธานเฟดส่งสัญญาณพร้อมลดดอกเบี้ยในปีนี้ แต่จะไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย หลังตัวเลขเศรษฐกิจยังแข็งแกร่ง อาทิ PMI ภาคการผลิตและตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือน มี.ค. ออกมาดีกว่าคาด และ (2) เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดไม่ควรเร่งปรับลดดอกเบี้ย หากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในสัปดาห์นี้ จาก (1) กกร. ยังคงประมาณการ GDP ไทยที่ 2.8-3.3% แต่ระบุ ศก. ไทยมีความเสี่ยงสูง และข้อจำกัดเชิงโครงสร้างทำให้การส่งออกฟื้นตัวช้า (2) ครม. ปรับกรอบวงเงิน งปม. รายจ่ายประจำปี 68 ใหม่ จากเดิม 3.6 ล้านล้านบาท เพิ่มเป็น 3.752 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต (3) กบน. ตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยใช้เงินอุดหนุนกองทุนน้ำมัน
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.31% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี เพิ่มขึ้นมาที่ 4.65% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -34 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 2.58% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.16% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่8,740 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 29 มี.ค. ที่ 87.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 90.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,291.6 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 104.32 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 151.15 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอีกที่ 36.82 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.23 หยวน
อ่าน wealth weekend คลิก!