สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับลดลงจากตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ม.ค. ของสหรัฐที่ปรับตัวลงน้อยกว่าคาด อย่างไรก็ตามS&P 500 ฟื้นตัวได้ช่วงปลายสัปดาห์ จากความหวัง Fed อาจลดดอกเบี้ยได้เร็วสะท้อนผ่านผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐปรับตัวลดลง หลังตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน ม.ค. ออกมาต่ำกว่าคาด ในฝั่งของ EM ปรับตัวขึ้นหนุนโดยตัวเลขการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง ในส่วนของมุมมองการลดดอกเบี้ยของ Fed ตลาดเริ่มปรับมุมมองไปเดือน มิ.ย. ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทำจุดสูงสุดในรอบ 34 ปี แม้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยหลัง GDP หดตัว 2 ไตรมาสติดต่อกัน ทำให้ตลาดคาดว่า BoJ อาจยังไม่ปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวขึ้นในระยะสั้น รวมถึงปัจจัยบวกจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง ในส่วนของตลาดหุ้นไทยยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ มาตรการ Digital Wallet ยังไม่มีข้อสรุป ผลประกอบการของหุ้นใน SET50 ที่ประกาศออกมาถึงวันที่ 14 ก.พ. ส่วนใหญ่ยังต่ำกว่าคาด อย่างไรก็ตามแรงส่งเชิงบวกยังอยู่ในกลุ่มของการท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวรายสัปดาห์ฟื้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีหนุนโดยนักท่องเที่ยวจีน ด้านราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยได้แรงหนุนจากประเด็นการเจรจาระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ไม่มีความคืบหน้า
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดสหรัฐทรงตัวขณะที่ตลาดอื่นปรับขึ้นเล็กน้อย จากเงินเฟ้อสหรัฐที่ปรับตัวลงน้อยกว่าคาด ทำให้ตลาดกังวล Fed จะเลื่อนการลดดอกเบี้ยออกไป โดยโอกาสในการลดดอกเบี้ยในเดือน พ.ค. ลดลงจาก 50% สู่ 37% ขณะที่เงินเฟ้ออังกฤษปรับลดมากกว่าคาด ทำให้ ธ. กลางมีโอกาสลดดอกเบี้ยได้มากขึ้น ด้านเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยหลัง GDP หดตัว 2 ไตรมาสติด
ตลาดหุ้นไทย
สัปดาห์นี้ ตลาดทรงตัว หลัง (1) ผู้จัดการใหญ่เครดิตบูโรระบุปี 66 “หนี้เสีย+หนี้ SM” รวมทะลุ 1.6 ล้านล้านบาท และให้จับตา “หนี้บ้าน” ค้างชำระพุ่ง 31% (2) รัฐบาลเปิดเผย นักท่องเที่ยวยอดสะสมของปี 67 เกือบแตะ 4 ล้านคน โดยเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนมากที่สุด ตามมาด้วยชาวมาเลเซีย(3) การประชุมคณะกรรมการนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตยังไม่มีการลงมติ โดยจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการ ติดตาม การทุจริตการใช้เงินผิดประเภท ตามข้อห่วงใยของ ป.ป.ช.
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.25% หลังตัวเลขเงินเฟ้อลดน้อยกว่าคาด ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี เพิ่มขึ้นที่ 4.60% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -35 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับเพิ่มที่ 2.57% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.17% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 8,416 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 9 ก.พ. ที่ 82.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 82.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล การเจรจาระหว่างอิสราเอล-ฮามาส ไม่มีความคืบหน้า ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับลดลงที่ 2,014.3 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งขึ้นเล็กน้อยที่ 104.44 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่ามาอยู่ที่ 150.4 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 36.12 บาท ขณะที่เงินหยวนอ่อนค่าลงที่ระดับ 7.16 หยวน
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Wealth weekend_InnovestX_240216_T
