Keyword
Wealth Weekend

Wealth Weekend – มองเวลท์..รายวีค 17/11/2023

17 Nov 23 1:49 PM
Program_Thumbnail-09

สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้

สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้น หลังนักลงทุนมองว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นผลจาก (1) เงินเฟ้อผู้ผลิตและเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐเดือน ต.ค. เริ่มลดลงเกินคาด  โดยเงินเฟ้อทั่วไปปรับตัวขึ้น 3.2% YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.3% และลดลงจาก 3.7% ในเดือนก่อน ผลจากราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นหลัก ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) เพิ่มขึ้น 4.0% YoY ต่ำกว่าตลาดคาดและเดือนก่อนหน้าที่ 4.1% จากค่าจ้างและค่าเช่าบ้านที่ลดลง ส่วนเงินเฟ้อผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 1.3%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 1.9% และจากเดือนก่อนที่ 2.2% บ่งชี้แรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง (2) ยอดค้าปลีกสหรัฐในเดือน ต.ค. ขยายตัวลดลงที่ 2.5% เทียบกับปีก่อนลดลงจากขยายตัว 4.1% ในเดือนก่อนหน้า และหดตัว -0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน จากที่เคยขยายตัว 0.9% ต่อเดือนในเดือนก่อน (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนที่ 60.4 โดยองค์ประกอบด้านดัชนีเงื่อนไขการซื้อสินค้าคงทนลดลงมากที่สุด โดยผู้บริโภคกว่า 36% กล่าวว่าต้นทุนการกู้ยืมและราคาที่สูงสำหรับสินค้าคงทน เป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจ  (4) ความคาดหวังเงินเฟ้อสหรัฐ 1 ปีข้างหน้าเร่งตัวขึ้น โดยเพิ่มขึ้นเป็น 4.4% ในเดือน พ.ย. เทียบกับ 4.2% ของเดือนที่แล้ว ขณะที่ความคาดหวังเงินเฟ้อระยะยาว 5 ถึง 10 ปี ของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2011 ที่ 3.2% จาก 3.0% ในเดือน ต.ค. โดยความคาดหวังสำหรับราคาน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นสูงสุดในปีนี้ ซึ่งขัดแย้งกับแนวโน้มราคาในปัจจุบันซึ่งลดลงอย่างต่อเนื่อง (5) ปัญหา government shutdown ในสหรัฐถูกเลื่อนออกไปหลังสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาลงมติรับร่างงบประมาณชั่วคราว โดยจะมีเส้นตายการเจรจาครั้งใหม่ที่วันที่ 19 ม.ค. และ 2 ก.พ. ตามลำดับ  (6) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณดีขึ้นยกเว้นการลงทุนที่ชะลอแรงมากขึ้น โดย ยอดค้าปลีกเดือน ต.ค.ของจีนปรับตัวขึ้น 7.6% YoY สูงกว่าตลาดคาดที่ 7% ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 4.6%YoY สูงกว่าตลาดคาดที่  4.4% แต่การลงทุนสินทรัพย์ถาวรในช่วง 10 เดือนแรกของปีเพิ่มขึ้น 2.9%YoY ต่ำกว่าตลาดคาดที่ 3.1% ขณะที่การลงทุนด้านอสังหาฯ ของจีนในช่วง 10 เดือนแรก ลดลง -9.3% แย่กว่าในชวง 9 เดือนแรกที่หดตัว 9.1% และ (7) ปธน. โจ ไบเดน พบกับ ปธน. สี จิ้นผิง เป็นครั้งแรกในรอบปี โดยทั้งสองประเทศประกาศว่าจะร่วมมือกันในประเด็นความท้าทายทั่วโลก ทั้งความขัดแย้งทางทหาร การค้า ยาเสพติด และปัญญาประดิษฐ์ โดย ปธน. ไบเดนกล่าวว่าสหรัฐพร้อมและต้องการช่วยให้เศรษฐกิจจีนดีขึ้น หากไม่กระทบประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา ขณะที่ ปธน. สีกล่าวว่าจีนไม่ต้องการจะให้เกิดสงครามเย็นและสงครามร้อนกับชาติใด ๆ รวมทั้งไต้หวัน

ตลาดหุ้นโลก

•สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้น หลังนักลงทุนมองว่ามีโอกาสเกือบ 100% ที่ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นผลจาก (1) เงินเฟ้อผู้ผลิตและเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐเริ่มลดลงเกินคาด (2) ยอดค้าปลีกสหรัฐลดลงทั้งเทียบกับปีก่อนและเดือนก่อน (3) ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน ขณะที่ (4) ปัญหา government shutdown ในสหรัฐถูกเลื่อนออกไปหลังสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภาลงมติรับร่างงบประมาณชั่วคราว โดยจะมีเส้นตายการเจรจาครั้งใหม่ที่วันที่ 19 ม.ค. และ 2 ก.พ. ตามลำดับ และ (5) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนส่งสัญญาณดีขึ้นยกเว้นการลงทุนที่ชะลอแรงมากขึ้น
 


ตลาดหุ้นไทย

•สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวขึ้นจาก (1) ก. คลังอนุมัติตั้งกองทุน TESG ลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ที่มี ESG โดยหวัง กระตุ้นการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ระยะยาว โดยให้ลดหย่อนภาษี ไม่เกิน 1 แสนบ./ปี เริ่มลงทุนได้ 1 ธ.ค. นี้ โดยคาดมีเม็ดเงินเข้ามากว่า 1 หมื่นลบ. โดยเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาสัปดาห์หน้า (2) Fitch ประกาศคงอันดับและมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (3) นายกฯ ประกาศความร่วมมือทางยุทธศาสตร์กับ Google และ Microsoft พร้อมลงทุนในไทยกว่า 2 แสนลบ. โดย Google ลงทุนคลาวด์เป็นหลัก ส่วน Microsoft ตั้ง datacenter 


ตลาดพันธบัตร

 
•ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงมาสู่ 4.44% หลังตลาดเชื่อมั่นว่า Fed จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยต่อ ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.84% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี เพิ่มขึ้นที่ -38 bps
•ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับลดลงที่ 3.10% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ลดลงที่ 2.50% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 1.4 พันล้านบาท


ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับลดลงจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 10 พ.ย. ที่ 81.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 77.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามภาพเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงมากขึ้นด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1,966.2 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน

•ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) อ่อนตัวลงมาที่ 104.5 จุด  ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ 151.3 เยน ด้านค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นที่ 35.50 บาท ขณะที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 7.25 หยวน 


PDF คลิกอ่านเพิ่มเติม  WealthWeekend_231117_T
Most Read
1/5
Related Articles
Most Read
1/5