สัปดาห์นี้ ตลาดปรับตัวดีขึ้นจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ยที่มีมากขึ้น หลังจากยอดค้าปลีกสหรัฐชะลอเกินคาด ประกอบกับหุ้น NVDA มีมูลค่าหุ้นปรับเพิ่มสูงสุดในโลกจากความคาดหวังใน AI ด้านตัวเลขภาคการผลิตและภาคอสังหาฯ จีนชะลอลง แต่ยอดค้าปลีกฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ ธ. กลางจีนเตรียมปรับรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงิน
ตลาดหุ้นสัปดาห์นี้หุ้นโลกยังคงปรับตัวขึ้นต่อ ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงได้ประโยชน์จาก theme AI และความคาดหวังการลดดอกเบี้ยที่มีมากขึ้น หลังตัวเลขยอดค้าปลีกสหรัฐชะลอเกินคาด รวมถึงความเห็นของเจ้าหน้าที่ Fed บางราย เช่น Adriana Kugler ที่ระบุว่ามองว่า สามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐได้ในปลายปีนี้ รวมถึงแรงหนุนจากความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน โดยธ. กลางจีน (PBOC) เตรียมปรับรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงิน โดยอาจใช้ดอกเบี้ยนโยบายเดียว รวมถึงให้ความสำคัญกับการซื้อขายในตลาดพันธบัตรมากขึ้น หนุนตลาดในกลุ่ม EM ปรับตัวขึ้น 1.8% นำโดย ไต้หวัน และเกาหลีใต้ รวมถึงอินเดีย ขณะที่ตลาดในอาเซียนยัง underperform เช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทยที่ยังอ่อนตัวลง จากประเด็นทางการเมืองที่ยังยืดเยื้อ เช่น คดียุบพรรคก้าวไกลและวินิจฉัยนายกฯ นัดพิจารณา 3 ก.ค.และ 10 ก.ค. แต่บางคดีคลี่คลายขึ้นบ้าง ได้แก่ อดีตนายกฯ ทักษิณได้ประกันตัว และ พรป. สว. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยเริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้างในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังตลาดปรับลดลงมาต่อเนื่อง และเริ่มมีความคาดหวังต่อมาตรการ uptick ที่จะนำมาใช้ควบคุมการทำธุรกรรม short sell อ้างอิงจากข้อมูลในอดีตพบว่าปริมาณการ short sell ลดลง หลังมาตรการดังกล่าวถูกนำมาใช้ ราคาน้ำมันปรับขึ้นแรงในสัปดาห์นี้ หลังความไม่สงบในตะวันออกกลาง และยูเครน มีการโจมตีกันมากขึ้น รวมถึงปริมาณสำรองในสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด หนุนกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2%
สัปดาห์นี้ ตลาดปรับตัวดีขึ้นจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ยที่มีมากขึ้น หลังจากยอดค้าปลีกสหรัฐชะลอเกินคาด ประกอบกับหุ้น NVDA มีมูลค่าหุ้นปรับเพิ่มสูงสุดในโลกจากความคาดหวังใน AI ด้านตัวเลขภาคการผลิตและภาคอสังหาฯ จีนชะลอลง แต่ยอดค้าปลีกฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ ธ. กลางจีนเตรียมปรับรูปแบบการดำเนินนโยบายการเงิน
ตลาดหุ้นไทย
สัปดาห์นี้ ตลาดปรับตัวลดลงจากประเด็นทางการเมืองที่ยังยืดเยื้อแม้เริ่มคลี่คลายขึ้นโดย (1) อดีตนายกฯ ทักษิณได้ประกันตัว (2) คดียุบพรรคก้าวไกลและวินิจฉัยนายกฯ นัดพิจารณา 3 ก.ค.และ 10 ก.ค.(3) พรป. สว. ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ตลาดเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยนายกฯ แถลง พรบ. งบปี 68 คาด GDP ขยายตัว 2.5-3.5% เงินเฟ้อ 0.7-1.7% ขาดดุลการคลัง 4.5% GDP เพิ่มดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้นเศรษฐกิจ
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.26% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับเพิ่มเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.75% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -49 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับลงมาอยู่ที่ 2.73% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.37% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 1,941 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวขึ้นจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 14 มิ.ย. ที่ 82.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มายืนสูงกว่า 85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับลดลงที่ 2,374.3 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยที่ 105.58 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 158.93 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.07 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาททรงตัวที่ 36.73 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.26 หยวน
กดอ่านเพิ่มเติมและดาวน์โหลดเอกสารได้จากปุ่มด้านล่าง