เนื้อหาโดยรวม
สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกปรับตัวขึ้นได้ดีจากปัจจัยบวก ได้แก่ ท่าทีของธนาคารกลางหลักที่มีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น เช่น FED และ BOE ขณะที่ SNB มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง FOMC คงดอกเบี้ยตามตลาดคาด และส่งสัญญาณการลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ไม่เปลี่ยน แม้ความกังวลต่อเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ทำให้ FED ปรับมุมมอง นอกจากนั้นยังปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโต GDP ขึ้น รวมถึงส่งสัญญาณเตรียมชะลอมาตรการลดทอนขนาดงบดุล (QT) ทำให้ตลาดกลับมาให้น้ำหนักการลดดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้นเกิน 70% อีกครั้ง ด้าน BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี แต่ยังให้คำมั่นที่จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว เพื่อรักษาสถานะนโยบายการเงินให้ยังผ่อนคลาย จนกว่าปัจจัยพื้นฐานด้านเงินเฟ้อจะแตะระดับ 2% อย่างยั่งยืนทำให้เงินเยนอ่อนค่าลง นอกจากนั้นตัวเลขภาคการผลิตและลงทุนของจีนดีขึ้นเกินคาดทำให้ตลาดหุ้นจีนฟื้นตัวในช่วงต้นสัปดาห์ ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวในช่วงต้น ก่อนจะฟื้นได้ในช่วงปลายสัปดาห์ตามทิศทางตลาดหุ้นโลก โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังปรับขึ้นแรงในช่วงสัปดาห์ก่อน จากปัจจัยอุปสงค์ที่เริ่มฟื้นตัว และอุปทานที่ยังมีความเสี่ยงทั้งจากการลดการผลิตของ OPEC+ และสงคราม
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวดีขึ้นจากผลการประชุมธนาคารกลางสำคัญเป็นไปตามคาด โดย (1) ธนาคารกลางญี่ปุ่นปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลง (2) ธนาคารกลางสหรัฐยังคงส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่ส่งสัญญาณเตรียมลดทอน QT (3) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนดีขึ้นเกินคาด โดยเฉพาะภาคการผลิตและการลงทุนสินทรัพย์ถาวร
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยผันผวนโดยปรับลงในต้นสัปดาห์ก่อนปรับขึ้นตามตลาดโลก ขณะที่(1) คลังระบุจัดเก็บรายได้รัฐบาลต่ำกว่าเป้า (2) นายกฯ เตรียมนัดประชุม คกก. ดิจิทัลวอลเล็ต ในอีก 1-2 สัปดาห์หน้า (3) สว. ระบุว่ากำหนดวันพิจารณางบประมาณปี 67 ไว้เพียง 1 วัน คือ วันที่ 26 มี.ค.เพื่อให้งบประมาณผ่านสภาได้เร็วขึ้น หลังฝ่ายค้านระบุเร่งกระบวนการพิจารณางบประมาณเร็วขึ้น 3 สัปดาห์
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.26% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ลดลงที่ 4.69% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -43 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นที่ 2.54% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.14% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิที่ 13,283 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 85.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,186.4 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 103.95 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงที่ 151.51 เยน ด้านค่าเงินยูโรอ่อนลงที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากที่ 36.33 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.20 หยวน
ท่านสามารถอ่านและดาวน์โหลดเอกสารได้จาก Wealth weekend_InnovestX_240322_T