สรุปภาพรวมการลงทุนสัปดาห์นี้
สัปดาห์นี้ตลาดหุ้นโลกผันผวน -0.8% WoW โดยปรับลดลงในช่วงปลายสัปดาห์ ปัจจัยบวกยังมาจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามถูกหักล้างจากปัจจัยลบ ได้แก่ รายงานประชุมเฟดที่ Hawkish กว่าที่ตลาดประเมิน โดยส่งสัญญาณดอกเบี้ยจะสูงยาวนานขึ้น (higher for longer) และมีการพูดถึงสัญญาณเงินเฟ้อ หากคุมไม่อยู่อาจต้องขึ้นดอกเบี้ย ทำให้โอกาสในการลดดอกเบี้ยครั้งแรกเลื่อนเป็นเดือน พ.ย. และผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐปรับขึ้นเป็น 4.5% ด้าน ECB ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนมิ.ย. พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อจะปรับลงสู่ระดับ 2% ด้านตลาด EM ปรับลดลง -0.8% เช่นกัน หลังขึ้นมาแรงช่วงก่อนหน้า โดยรัฐบาลจีนประกาศนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาฯ เช่น ยกเลิกอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยขั้นต่ำ, ลดเงินดาวน์สินเชื่อที่อยู่อาศัย และ PBOC เตรียมตั้งกองทุนมูลค่า 3 แสนล้านหยวน หรือ 4.2 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้อบ้านที่ขายไม่ออก และจะถูกแปลงเป็นที่อยู่อาศัยราคาไม่แพง ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงแม้ GDP 1Q24 จะออกมาสูงกว่าด, ผลประกอบการ 1Q24 จะส่งสัญญาณฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยกดดันมาจากความกังวลด้านการเมือง หลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องวินิจฉัยสถานะนายกรัฐมนตรี ด้านราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากความกังวลดอกเบี้ยสูงยาวนานจะกระทบอุปสงค์ และสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มมากกว่าคาด
ตลาดหุ้นโลก
สัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลง หลังรายงานการประชุม Fed ส่งสัญญาณ Hawkish กว่าคาด โดยส่งสัญญาณดอกเบี้ยจะสูงยาวนานขึ้น (higher for longer) ท่ามกลางผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนโดยรวมที่ดีขึ้น ด้านทางการจีนประกาศตั้งกองทุนมูลค่า 3 แสนล้านหยวนเข้าซื้อบ้านสร้างเสร็จเพื่อช่วยกระตุ้นอสังหาฯ
ตลาดหุ้นไทย
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจาก (1) ความเสี่ยงทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นหลังศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องวินิจฉัยสถานะนายกรัฐมนตรี (2) เศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/2024 ขยายตัวดีเกินคาด แต่สภาพัฒน์ปรับประมาณการเศรษฐกิจลง (3) ครม. อนุมัติออก พ.ร.บ.รายจ่ายเพิ่มเติม ปี 67 ใช้โครงการดิจิทัลวอลเล็ต วงเงิน 1.2 แสนล้านบาท ด้าน กระทรวงการคลัง เสนอ ครม. 28 พ.ค. ทําดิจิทัลวอลเล็ตกระตุ้น ศก.
ตลาดพันธบัตร
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 4.47% ขณะที่ ระยะสั้น 2 ปี ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 4.92% ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย 2-10 ปี อยู่ที่ -45 bps
ผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2.82% ขณะที่ระยะสั้น อายุ 2 ปี ทรงตัวที่ 2.40% ขณะที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 8,462 ล้านบาท
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงจากราคาปิดวันศุกร์ที่ 17 พ.ค. ที่ 83.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 81.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านราคาทองคำ (spot) ปรับเพิ่มขึ้นที่ 2,329.1 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์
ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (DXY) แข็งค่าขึ้นที่ 105.1 จุด ขณะที่ค่าเงินเยนทรงตัวที่ 157.08 เยน ด้านค่าเงินยูโรทรงตัวที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อยูโร ด้านค่าเงินเอเชีย ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 36.71 บาท ขณะที่เงินหยวนทรงตัวที่ระดับ 7.24 หยวน
ดาวน์โหลดเอกสาร คลิก!
